May 13, 2024   11:16:22 PM ICT
6 โบรกฯมอง KTB เชิงบวกระบุผลงาน Q3/47 ชี้ว่าผลประกอบการกำลังกลับมาเป็นปกติ

ซิกโก้-กิมเอ็ง-กรุงศรีอยุธยา-ยูไนเต็ด-ฟาร์อีสท์-เอเพกซ์ มอง KTB เชิงบวก ระบุผลงาน Q3/47 ที่ออกมาแสดงให้เห็นถึงการกลับมาเป็นปกติของผล ประกอบการอีกครั้ง ส่วนราคาหุ้น ของ KTB ได้ตอบรับกับปัจจัยลบต่างๆ ไปมากแล้ว ประกอบกับรายได้หลักยังเติบโตต่อเนื่องและ ไม่มีความกดดันในเรื่อง NPL แต่ยอมรับอาจได้รับผลกระทบจากช่วงสูญญากาศไร้ผู้นำ

บทวิเคราะห์จาก บล.ซิกโก้ กล่าวถึง บมจ.ธนาคารกรุงไทย (KTB) ว่า Q3/47 ดอกเบี้ยรับ จากสินเชื่อยังขยายตัวต่อเนื่อง ไตรมาสนี้ KTB มีอัตรากำไรจากดอกเบี้ย (NIM) สูงขึ้นเป็น 2.97% (Annualized) หลังจากไตรมาสที่แล้ว NIM ลดลงไปที่ 2.69% ขณะที่ฐานสินเชื่อที่ไม่ รวม AMC Note เพิ่มขึ้น +1.4% QoQ เมื่อรวม 9 เดือนแรก ธนาคารขยายสินเชื่อไปแล้ว +14% YTD แนะนำ ?ซื้อลงทุน? ราคาเป้าหมาย 11 บาทแม้ว่าในปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยว กับผู้ตัวผู้บริหารคนใหม่ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจใด ๆ ที่สำคัญ ทั้งในด้านการขยาย สินเชื่อ การจัดการหนี้ที่มีปัญหา และทิศทางในอนาคตของธนาคาร อย่างไรก็ตาม มองว่า KTB เป็นธนาคารที่มีภาครัฐถือหุ้นเป็นส่วนใหญ่ และยังมีโอกาสขยายตัวตามนโยบายของรัฐบาลแม้จะ ไม่โดดเด่นเหมือนช่วงปีก่อน แต่ระดับราคาในปัจจุบันได้ปรับลดลงต่ำกว่าราคาเป้าหมายค่อนข้าง มากแล้ว เราจึงแนะนำให้ซื้อสำหรับการลงทุนในระยะกลางถึงยาว บล.กิมเอ็ง

บทวิเคราะห์จาก บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กล่าวถึงธนาคารกรุงไทย (KTB)ว่าประกาศ ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/47 ออกมาเท่ากับ 3.8 พันล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการของเรา 9% โดยเป็นการลดลง 13.6% yoy เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้มีสาเหตุหลัก จากค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นสูงถึง 81.3% แต่หากเปรียบเทียบกับ ไตรมาส 2/47 ผล ประกอบการเพิ่มขึ้น 135.5% จากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เนื่องจาก KTB มีการรับรู้ผลขาดทุน จากการขายเงินลงทุนและการปรับโครงสร้างหนี้เป็นจำนวนมากในไตรมาส 2/47 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม เรามีมุมมองที่เป็นบวกต่อ รายได้หลักหรือรายได้ดอกเบี้ยรวมที่เพิ่มขึ้น ดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง และ เงินสำรองที่ลดลง ซึ่งทำให้ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ เพิ่มสูงขึ้น 39.3% yoy เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 11.7% qoq เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา โดยส่วน ต่างอัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นเป็น 2.8% จาก 2.6% ในไตรมาส 2/47

ในรอบ 9 เดือนแรก ของ ปี 47 KTB มีผลประกอบการกำไรสุทธิเท่ากับ 10,561 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.7 % เมื่อเปรียบเทียบกับ 5,974 ล้านบาท ของช่วงเดียวกันในปี 46 เรา ประมาณการว่า KTB จะมีกำไรสุทธิในปี 47 ทั้งสิ้น 14,661 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68.6% จากปีที่ ผ่านมา โดยจะมีอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้นเท่ากับ 18.8% และอัตราผลตอบแทนเงิน ปันผลที่ 6.2%

ปัจจุบัน KTB มีการซื้อขายที่ระดับต่ำเพียง 1.1 เท่าของประมาณการมูลค่า ทางบัญชีในปี 48 เราเชื่อว่า ราคาหุ้นของ KTB ได้ตอบรับกับปัจจัยลบต่างๆ ไปมากแล้ว ประกอบกับรายได้หลักยังเติบโตต่อเนื่องและไม่มีความกดดันในเรื่อง NPL แล้ว ดังนั้นยังคง คำแนะนำ ซื้อลงทุน ที่ราคาเป้าหมาย 12.0 บาท/หุ้น หรือเท่ากับ 1.5 เท่าของประมาณการ มูลค่าทางบัญชีในปี 48 บล.กรุงศรีอยุธยา

บทวิเคราะห์จาก บล.กรุงศรีอยุธยากล่าวว่าปรับประมาณการปี 47 ของ KTB เพิ่มขึ้น จากเดิมโดยปรับลดประมาณการสำรองค่าเผื่อหนี้ที่ เดิมทำไว้ที่ 6.8 พันลบ. แต่เนื่องจาก 9M47 มีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้เพียง 3,560 ลบ. ประกอบกับ (1) นโยบายที่ลดการรุกในการปล่อยสิน เชื่อ (2) จำนวน NPL ที่มีแนวโน้มลดลงในอนาคต และ (3) สำรองปัจจุบันเพียงพอต่อสำรองขั้น ต่ำของธปท. ที่รวม NPL ที่มีการจัดชั้นเชิงคุณภาพไปแล้ว AYS จึงปรับลดประมาณการค่าเผื่อ หนี้ปี 47 ลงเป็น 5 พันลบ. ทำให้กำไรสุทธิปี 47 เพิ่มขึ้น พร้อมกับปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 11.50 บาทต่อหุ้น โดยใช้ P/BV 1.5 เท่า หรือ P/E ที่ 9.4 เท่าของประมาณการปี 48 บล.ยูไนเต็ด บทวิเคราะห์จาก บล.ยูไนเต็ด กล่าวว่า KTB ประกาศผลประกอบการ Q3 ปี 47 แสดง ให้เห็นถึงการกลับมาเป็นปกติของผล ประกอบการอีกครั้ง กำไรสุทธิ เท่ากับ 3.79 พันล้านบาท เปลี่ยนแปลง 141.6%QoQ และ -13.6%YoY การเติบโตแบบ QoQ สูงเนื่องจากใน Q2 มีการ ตัดค่าใช้จ่ายและการตั้งสำรองในระดับสูงทำให้กำไรสุทธิต่ำกว่าปกติที่ 1.57 พันล้านบาท จุดเด่น ใน Q3 เป็นการเติบโตต่อเนื่องของ Net Interest Income และ Non-Interest Income ซึ่ง ทั้งส่วนแบ่งกำไรตามวิธีส่วนได้เสียและค่าธรรมเนียมและบริการยังคงเติบโตต่อเนื่อง การตั้ง สำรองใน Q3 นี้เป็นการตั้งตามปกติที่ 309 ล้านบาท ลดลง 79.6%QoQ บล.ฟาร์อีสท์

บทวิเคราะห์จาก บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า ยอด NPL ณ สิ้น 3Q47 ของ KTB ลดลง 900.45 ล้านบาท จาก 125,697.14 ล้านบาท ใน 2Q47 เหลือ 124,796.69 ล้านบาท ใน 3Q47 แต่ NPL Ratio สูงขึ้นเล็กน้อยเพราะยอดเงินให้สินเชื่อลดลง 0.27% หรือประมาณ 2.7 พันล้านบาท ทำให้ฐานที่ใช้ในการคำนวณ NPL Ratio ลดลง

อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิใน 3Q47 ของ KTB ลดลง 13.58% YoY เนื่องจาก KTB ได้บันทึกกลับการขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์รอการขายมูลค่า 1.3 พันล้านบาท ใน 3Q46 ทำให้กำไรใน 3Q46 สูงมาก แต่ถ้าหากตัดผลกระทบจากการขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์รอ การขายออกไปเพื่อดูผลการดำเนินงานของธุรกิจหลักของธนาคารจริงๆ แล้ว KTB จะมีการเติบ โตของกำไรสูงถึง 34%เรายังคงคาดว่า KTB จะยังได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงระดับผู้ บริหารใน 4Q47 แต่เราคาดว่าการเติบโตของสินเชื่อจะกลับมาดีอีกครั้งในปี 2548 หลังจากการ แต่งตั้ง MD คนใหม่จบสิ้นลงโดยไม่มีความขัดแย้งภายในธนาคาร บล.เอเพกซ์

บทวิเคราะห์จาก บล.เอเพกซ์ กล่าวว่า ไตรมาส 3/47 KTB มี NPL เท่ากับ 124,796 ล้านบาท คิดเป็น 12.39% ลดลง 900.45 ล้านบาท จากเมื่อเดือน มิ.ย.47 ที่ 125,697.14 ล้านบาท (12.29% ของสินเชื่อรวมก่อนหัก ค่าเผื่อ) LLR/NPL (ตั้งสำรองต่อหนี้ ญ) เท่ากับ 43.34% ไม่เปลี่ยนแปลงมากนักจากไตรมาสก่อน

กำไรสุทธิที่โตขึ้น 136% qoq เนื่องมาจากไตรมาสที่แล้วต้องกันสำรองเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน มาก ในไตรมาสนี้จึงรายงายผลการดำเนินงานเป็นปกติ กำไรสุทธิ งวด 3 เดือน เท่ากับ 3,795.31 ล้านบาท

เรามีความกังวลในเรื่องของเงินสำรองที่ยังมีน้อยอยู่หากมี NPL ย้อนกลับจะกระเทือนต่อ กำไรสุทธิทันทีเหมือนกับไตรมาสที่ผ่านมา สำหรับเหมาะ KTB เก็งกำไรระยะสั้น โดยมีแนวรับ 8 บาท แนวต้าน 8.50 - 8.80 บาท มูลค่าหุ้นจากพื้นฐาน 11.82 บาท (consensus)

ที่มา efinance.com

เข้าชม: 1,238

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com