ผันผวน แต่ชวน ?ซื้อ? (เว้นพลิกล็อคปิดให้บริเวณ 640 จุดเท่านั้น) วานนี้ (20 ต.ค.) ตลาดเปิดและเคลื่อนไหว ในแดนลบตลอดช่วงเวลาทำการซื้อขาย การปรับตัวลงเป็นไป ในทิศทางเดียวกัน กับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคนี้อาทิไต้หวัน (-3.1%), ญี่ปุ่น(-1.6%) อินโดนีเซีย(-1.4%)เป็นต้น อย่างไรก็ตา ม..หากสังเกตจากปริมาณการซื้อขายถูก พบว่าลดต่ำเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าซึ่งรูปดังกล่าวมักเป็นลักษณะของการปรับฐานช่วงสั้นเท่านั้น ได้วานนี้กลุ่มที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุดสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มพลังงาน กลุ่มปิโตรเคมี และกลุ่มสื่อสาร ซึ่งมีสัดส่วนปริมาณการขายราว 16.9% ,12.6% และ 11.8% ของมูลค่าการซื้อ ขายโดยรวมตาม วานนี้มีหุ้นปิดบวก 71หลักทรัพย์ ขณะที่หุ้นปิดต่ำลงมี 212หลักทรัพย์ และมี หุ้นปิดเท่า 83 หลักทรัพย์
ดัชนีสิ้นวันนี้มาปิดที่ระดับ 652.46 จุด เพิ่มขึ้นจากวันทำการ 8.54 จุด หรือราว2 1.30% ด้านปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 13,799 ลบ.(วันทำการก่อนอยู่ที่ ระดับราว 15,212 ลบ.) ด้านนักลงทุนต่างชาติยังเดินหน้าแสดงซื้อสุทธิอีก 690 ลบ. ขณะที่นักลงทุนกลุ่มสถาบันพลิกกับมาแสดงซื้อสุทธิอีกราว 10ลบ. และนัก ลงทุนรายบุคคลแสดงยอดขายสุทธิเช่นกันราว 700ลบ.ปัจจัยแวดล้อมการลงทุน (ระยะสั้น) 1.ทิศทางการลงทุนกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ 2.ทิศทางราคาน้ำมัน ช่วงสั้นมีแนวโน้มชะลอความร้อนแรงด้านราคาลงอีกครั้ง (คาดช่วง สั้นสามารถลงจากจุดสูงสุดได้ราว 7-8 เหรียญสรอ.ต่อบาเรล ) 3.ทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาค 4.เม็ดเงินที่พลาดหวังจากการจองหุ้นบริษัท ไทยออลย์ รอจังหวะไหลกลับเข้ามาลงทุนใน ตลาดได้อีกครั้งไม่มากก็น้อย 5.เม็ดเงินจากกองทุนที่กำลังจะทยอยเข้ามาลงทุนเพิ่มเติมตามมาได้ ทั้งจากการที่ บลจ.กำลังทยอยกองทุนใหม่เพิ่มเติม และโอกาสที่กองทุนวายุภักษ์ พร้อมนำเงินเข้า ลงทุนเพิ่มเติม และมีโอกาสที่กองทุนวายภักษ์ พร้อมนำเงินเข้าลงทุนเพิ่มเติม 6.ผลประกอบการ บจ.ไตรมาสที่ 3 ผันผวน แต่ชวน ?ซื้อ? (เว้นพลิกล็อคปิดให้บริเวณ 640 จุดเท่านั้น) วานนี้ (20 ต.ค.) ตลาดเปิดและเคลื่อนไหว ในแดนลบตลอดช่วงเวลาทำการซื้อขาย การปรับตัวลงเป็นไป ในทิศทางเดียวกัน กับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคนี้อาทิไต้หวัน (-3.1%), ญี่ปุ่น(-1.6%) อินโดนีเซีย(-1.4%)เป็นต้น อย่างไรก็ตา ม..หากสังเกตจากปริมาณการซื้อขายถูก พบว่าลดต่ำเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าซึ่งรูปดังกล่าวมักเป็นลักษณะของการปรับฐานช่วงสั้นเท่านั้น ได้วานนี้กลุ่มที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุดสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มพลังงาน กลุ่มปิโตรเคมี และกลุ่มสื่อสาร ซึ่งมีสัดส่วนปริมาณการขายราว 16.9% ,12.6% และ 11.8% ของมูลค่าการซื้อ ขายโดยรวมตาม วานนี้มีหุ้นปิดบวก 71หลักทรัพย์ ขณะที่หุ้นปิดต่ำลงมี 212หลักทรัพย์ และมี หุ้นปิดเท่า 83 หลักทรัพย์
| | เข้าชม: 1,056 |
|
