May 7, 2024   3:40:08 AM ICT
กำจัด6นิสัยการเงินแย่

เพิ่มขีดสามารถบริหารสินทรัพย์

หลังจากคอลัมน์นี้ ทยอยนำเสนอเนื้อหาและแนวคิด ที่สามารถช่วยให้บริษัทเอกชนและผู้บริหาร นำไปวิเคราะห์ใช้ปรับตัว รับมือกับแนวโน้มเศรษฐกิจขาลงทั้งในและต่างประเทศกันมาตั้งแต่เดือนแรกที่ย่างเข้าปีใหม่ 2551

มาคราวนี้ผู้ดูแลคอลัมน์จะลงลึกถึงระดับครัวเรือนและการเงินส่วนบุคคลกันบ้าง โดยคราวนี้มีคำแนะนำกับข้อมูลเตือนใจ ให้แฟนๆ คอลัมน์กับคนรู้จักรอบข้างได้ฉุกคิด เกี่ยวกับเรื่องการเงินการทองส่วนตัว เพื่อจะได้ปรับปรุงนิสัยดูแลสินทรัพย์กับจัดการภาระหนี้สินที่มีอยู่ได้ดีขึ้น

สำหรับเนื้อหากับข้อมูลที่จะนำเสนอคราวนี้ มีชื่อเรื่องว่า “6 นิสัยทำร้ายการเงินตัวเอง” ซึ่ง จีนนี่ ซาฮาดี นักเขียนอาวุโสแห่ง ซีเอ็นเอ็น มันนี่ ได้มาจากการพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญการวางแผนจัดการบริหารสินทรัพย์ในสหรัฐ ที่คนไทยภาคครัวเรือนสามารถเลือกใช้ปรับปรุงแก้ปัญหาการเงินของแต่ละคน เพื่อให้สถานการณ์เงินของครอบครัวดีขึ้นตลอดปีนี้

@ “ไม่สนใจเงินทองของตัวเอง”

ความไม่สนใจหมายถึงการซื้อและถือครองไว้เฉยๆ และอาจเป็นการซื้อจนลืมไปเลย หรือได้เป็นเจ้าของแล้วก็ลืมเสียเลยว่าได้ซื้อ ความเฉยเมยและเฉื่อยชากับการลงทุน อาจทำให้เจ้าของสินทรัพย์เสียต้นทุนที่ไม่ควรเสียได้ ดังนั้นคำแนะนำที่ซาฮาดีได้มา จาก มาริ อดัม นักวางแผนการเงินได้รับใบอนุญาต คือมองทุกอย่างให้ใหม่และทันต่อเหตุการณ์เสมอ และถามตัวเองเสมอว่า สิ่งที่ซื้อหรือลงทุนให้อะไรกับตัวเองบ้าง ให้พิจารณาการลงทุนในตราสารหนี้และหลักทรัพย์ การลงทุนทั้งสองประเภทยังเหมาะสมกับแผนการลงทุนของตัวเองหรือไม่ หรือถามตัวเองก่อนว่าเคยมีแผนการลงทุนแล้วหรือยัง บางทีตัวเองเผลอลืมไปว่าถือครองหุ้นเก่าๆ เคยเติบโตดีในอดีตไว้หลายตัว และตอนนี้กำลังเทรดกันในราคา ซึ่งทำให้ผู้ถือครองต้องขาดทุน

กรณีการลงทุนในหุ้น เจ้าของหุ้นอาจต้องพยายามหาผลประโยชน์ มาชดเชยเม็ดเงินต้องจ่ายภาษีการลงทุน หรือแสวงหาสิทธิยกเว้นภาษีการลงทุนทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้ผู้ลงทุนปล่อยเงินให้ทำงานสร้างผลกำไรงอกเงยมากขึ้น

อดัมแนะนำให้เจ้าของเงินที่ถือเงินสดจำนวนมากไว้ โดยสมมติว่าหากเจ้าของเงินมีอยู่หลายแสนดอลลาร์หรือมากกว่านี้ ทิ้งไว้ในบัญชีที่ให้ดอกเบี้ยเงินออมกับเงินฝากประจำต่ำ กรณีเช่นนี้หมายความว่าเจ้าของเงินกำลังปล่อยโอกาสเงินงอกเงยหลุดไป

เพราะหากประเมินในระยะยาวแล้ว เม็ดเงินที่มีอยู่ในธนาคาร อาจให้ผลตอบแทนดีขึ้นและมากกว่า เมื่อลงทุนในกองทุนดัชนีใช้ต้นทุนต่ำ ซึ่งสามารถลงทุนแบบกระจายหลากหลาย

@ "ซื้อบ้านไว้หลายหลังมากเกินไป"

ข้อนี้ซาฮาดีเตือนใจผู้ดูแลคอลัมน์ และคนไทยทั่วไปได้ดีว่า ไม่ฉลาดเลยที่จะให้ความสำคัญกับการลงทุน ด้วยการซื้อบ้านหลังใหม่ และไม่ฉลาดเอาเสียเลยที่จะหาภาระหนี้ใช้เงินมากมายหลายล้านดอลลาร์หรือหลายล้านบาทเพื่อซื้อบ้านใหม่ ทั้งๆ ที่รู้คำตอบอยู่แล้วว่า มีสิ่งต่างๆ มากมายที่อาจเกิดขึ้นได้ และมีมากเกินกว่าที่สามารถรับมือหรือแก้ไขได้

จากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญที่ซาฮาดีรวบรวมมา เตือนว่านอกเหนือจากการชำระคืนหนี้บ้านมีมากขึ้นแล้ว การซื้ออสังหาริมทรัพย์รวมทั้งบ้านและการเป็นเจ้าของยังมีภาระอื่นอีกมากมายตามมา ซึ่งจะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับขนาดและมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นภาษีโรงเรือน ประกันภัยบ้าน และต้นทุนพลังงานใช้ภายในบ้าน และยิ่งในบ้านต้องมีต้นทุนการตกแต่งบ้านตามมา

สำหรับหลักการป้องกันและระวัง ไม่ให้ตัดสินใจผิดพลาดจากการซื้อบ้านไว้มากไป จนกลายเป็นภาระในภายหลังนั้น ซาฮาดีระบุว่าสิ่งดีที่สุดต้องไม่ใช้จ่ายไปกับบ้าน เกินกว่า 2 .5 เท่าของรายได้ การใช้จ่ายเกี่ยวกับบ้านทั้งหมดไม่ควรเกิน 28% ของรายได้รวม

ขณะที่ภาระชำระหนี้บ้านโดยรวมควรไม่ให้เกิน 36% ของหนี้ที่มีอยู่ทั้งหมด หมายความว่าเป็นการชำระคืนหนี้ทุกประเภทที่กู้ยืมมา ซึ่งรวมถึงสินเชื่อบ้าน สินเชื่อเพื่อการศึกษา สินเชื่อรถยนต์ และหนี้บัตรเครดิต

@ "มีรถยนต์ขับหลายคันยิ่งจ่ายมาก"

มาริ อดัม นักวางแผนการเงินได้รับใบอนุญาต เล่าข้อเท็จจริงที่เคยพบมาว่า รู้จักสามีภรรยาหลายคู่ที่เสียค่าใช้จ่ายไปกับเรื่องรถโดยรวมๆ 1,400 ดอลลาร์ต่อเดือน ด้วยภาระใช้จ่ายระดับนี้ทำให้อดัมสงสัยว่า จะส่งผลต่อกระเป๋าเงินพวกเขาหรือไม่ เพราะการขับรถหลายคัน ภาระเรื่องรถที่ทำให้แต่ละคนเสียค่าใช้จ่ายเกือบ 800-900 ดอลลาร์

คริส คูเปอร์ นักวางแผนการเงินมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพอีกรายหนึ่ง ได้แนะนำให้คนไทยใช้กฎไม่ทำ ด้วยการไม่ใช้จ่ายเกินกว่า 8% ของรายได้รวมในแต่ละเดือนไปกับการใช้จ่ายเรื่องรถ และจะต้องใช้ให้น้อยกว่า 8% หากเจ้าของรถมีภาระหนี้บัตรเครดิตด้วย

ทั้งนี้ซาฮาดีอ้างอิงข้อมูลของมันนี่ แมกกาซีน ที่ประเมินไว้ว่าการขับรถยนต์จ่ายไม่แพงมาก หรือเสียค่าใช้จ่ายน้อยลง อาจช่วยประหยัดรายจ่ายให้ครอบครัวได้ถึง 1.8 แสนดอลลาร์ ตลอดระยะกว่า 30 ปีข้างหน้า ขอให้นึกเสมอว่า การใช้จ่ายในแต่ละเดือนเรื่องรถ เจ้าของรถต้องเตรียมเงินประกันภัยรถ ค่าน้ำมัน ค่าบำรุงและการซ่อมแซม

แต่หากใครสนใจอยากคำนวณดูต้นทุนการเป็นเจ้าของรถ สามารถเจาะเข้าไปดูได้ที่เวบไซต์ http://www.edmunds.com ในส่วนที่เรียกว่า Edmunds.coms True Cost to Own หรือเข้าไปที่ http://www.intellichoice.com เพื่อหาข้อมูลและคำนวณดูต้นทุนในส่วนที่เขียนว่า Intellichoices Side-by-side Comparison

@ "ซื้อทุกสิ่งที่ต้องการ"

การใช้ชีวิตแบบฟุ่มเฟือย หรือใช้ชีวิตอยู่เหนือความสามารถทางการเงินนั้น ซาฮาดีเปรียบเหมือนบุคคลนั้นๆ ฝืนทนดมควันพิษ "คาร์บอนมอนอกไซด์" ซึ่งทำให้เกิดปัญหาการเงินหลายอย่างที่เลวร้ายตามมา และอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการข้างเคียง อย่างปวดหัวหรือหายใจติดๆขัดๆ และจะเป็นอยู่อย่างนี้ไปจนกว่าจะแก้ไขต้นตอแท้จริงของปัญหา

โดยหนทางแก้ไขนั้น มาริ อดัม เพื่อร่วมวงการของคริส คูเปอร์ กล่าวว่าเป็นข้อห้ามเตือนใจเสมอว่าอย่าซื้อในสิ่งที่ตัวเองต้องการอยู่ตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นพฤติกรรมเช่นนี้ทำให้บุคคลนั้นๆ ติดอยู่กับปัญหาการเงิน อดัมย้ำว่าหากใครก็ตามก่อหนี้บัตรเครดิตไว้ ขอให้คิดหาหนทางคืนหนี้ทั้งหมดให้เร็วที่สุด

อันดับแรกซาฮาดีขอให้ผู้มีภาระหนี้บัตรเครดิต คิดทบทวนให้ดีก่อนว่าเป็นเรื่องสมเหตุสมผลหรือไม่ที่จะโอนหนี้ไปไว้กับบัตรเครดิต ที่คิดดอกเบี้ยต่ำกว่า จากนั้นให้ทบทวนดูว่าจะใช้เวลานานเท่าใด ถึงจะชำระคืนหนี้ที่มีอยู่ภายใต้สถานการณ์และสมมติฐานแตกต่างกันไป หากผู้สนใจอยากได้ตัวช่วย สามารถเข้าไปที่เวบไซต์ CNNMoney.com สามารถเข้าไปดูส่วนที่เรียกว่า Debt Reduction Planner

@ "ปล่อยสินทรัพย์อู้งานไม่ทำเงินงอกเงย"

มูลค่าสุทธิของสินทรัพย์ในความหมายของซาฮาดี หมายถึงวิธีประเมินจากการเอาสินทรัพย์ลบด้วยภาระหนี้ที่มีอยู่ แต่สินทรัพย์ทุกประเภทให้ผลตอบแทนไม่เท่ากัน การถ่วงเวลาปล่อยให้สินทรัพย์ที่ไม่ได้ทำเงินมากมายให้กับเจ้าของเงินค้างเติ่ง อาจส่งผลเสียต่อมูลค่าสินทรัพย์สุทธิโดยรวมของบุคคลนั้นได้ในระยะยาว

มาริ อดัมเสนอแนะว่า เจ้าของสินทรัพย์ควรโยกสินทรัพย์ส่วนที่ให้ผลตอบแทนน้อยที่สุด ไปยังสินทรัพย์ส่วนอื่นๆ ที่สามารถทำกำไรหรือผลตอบแทนได้มากกว่า ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้เงินทำงานสร้างผลตอบแทน

อดัมยกกรณีหนึ่งเป็นตัวอย่างว่า สามีภรรยาผู้สูงวัยคู่หนึ่งอายุเลยเลข 7 แล้ว อาศัยในบ้านร่ำรวยแต่เงินขาดมือ ต้องเลือกที่จะขายบ้าน จากนั้นนำเงินที่ได้ไปฝากไว้กับธนาคาร ปล่อยให้เงินทำงานสร้างรายได้ ขณะที่ทั้งคู่ยอมอาศัยอยู่ในห้องเช่า เป็นการประหยัดรายจ่ายสร้างรายได้ให้พวกเขาในระยะยาว ซึ่งอดัมตั้งข้อสังเกตว่าคนทั่วไปมักผิดพลาดกับการจัดการอสังหาริมทรัพย์

"การซื้อบ้านหลังที่สองอาจมีมูลค่ามาก แต่บ้านจะคงมูลค่าต่อไปได้มากน้อยเพียงใด บางคนอาจรู้สึกว่าบ้านดีเพราะมีมูลค่า แต่หากคุณไม่มีเงินสดที่จะใช้จ่าย คุณก็ต้องสูญเสียบ้านหลังนั้นไปอยู่ดี" อดัม กล่าว

@ "ปล่อยให้หนี้ค้างเติ่งไม่รีบชำระคืน"

เป็นนิสัยไม่ดีข้อสุดท้าย ที่ซาฮาดีเตือนว่าหากคนไทยมีภาระหนี้ซึ่งไม่สามารถชำระคืนได้เต็มจำนวน เขาหรือเธอควรชำระคืนในจำนวนที่มากกว่าวงเงินขั้นต่ำต้องชำระ หรือคุณอาจจะลดหนี้ที่มีอยู่ ด้วยการเสาะหาบัตรเครดิตคิดดอกเบี้ยน้อยกว่า ช่วยผู้ถือบัตรมีความสามารถชำระคืนหนี้ได้มากขึ้น

หรือกรณีคุณได้สินเชื่อบ้านคิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ อยู่ระดับต่ำระยะ 2 ปีแรก เมื่อพ้นปีที่ 2 สินเชื่อมีกำหนดจะปรับดอกเบี้ยใหม่สูงขึ้นกว่าเดิม ซาฮาดีจึงแนะนำว่าถึงเวลาแล้วที่เจ้าของสินเชื่อจะพิจารณาโยกสินเชื่อเดิมไปหาสินเชื่ออื่นที่คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่

ในกรณีเป็นหนี้บัตรเครดิต เจ้าของหนี้สามารถโยกมูลหนี้ที่มีอยู่กับบริษัทบัตรเครดิตเดิม ไปไว้กับบริษัทบัตรเครดิตใหม่ที่คิดดอกเบี้ยต่ำกว่า จะช่วยประหยัดเงินได้หากเดินเรื่องโยกย้ายทุกอย่างถูกต้อง แต่ขอให้แน่ใจว่าจะไม่มีค่าธรรมเนียมการโอนหนี้จากบัตรเดิมสูงมาก และหากพบบริษัทบัตรเครดิตใหม่ที่ไม่มีค่าธรรมเนียมในการโยก ขอให้แน่ใจเสียก่อนว่า เมื่อโยกหนี้ที่มีอยู่ไว้กับบริษัทบัตรเครดิตใหม่แล้ว เจ้าของบัตรจะสามารถชำระคืนหนี้ได้หมด ก่อนระยะเวลาให้ดอกเบี้ยต่ำจะหมดไป

จากประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญที่ซาฮาดีได้มา แนะนำให้เจ้าของหนี้บัตรเครดิตระวังเครดิตกับข้อมูลส่วนตัวใช้บัตรจะน่าเชื่อถือน้อยลง ด้วยการยืดเวลาปิดบัญชี หรือคงการเปิดบัญชีการใช้บัตรเครดิตกับบริษัทเดิมไว้ก่อน หลังจากโยกมูลหนี้ที่มีอยู่ไปไว้กับบัตรใหม่ วิธีนี้จะช่วยให้เจ้าของหนี้ไม่เสียเครดิตถูกจำกัดวงเงิน หรือส่งผลกระทบเป็นลบทางการเงินอื่นๆ ตามมา

bangkokbiznews

เข้าชม: 1,852

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com