May 4, 2024   1:26:21 AM ICT
TSC

บมจ. ไทยสตีลเคเบิล (TSC)

คาดกำไรไตรมาส 4/50 ยังอยู่ในทิศทางฟื้นตัว  แนวโน้มปี 2551 จะได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อใหม่ที่ต่อ
เนื่อง และอุตสาหกรรมรถยนต์

ซื้อ     
ราคาปิด (บาท)         7.65
ราคาเป้าหมาย (บาท)    9.00
SET Index          806.44

* คาดกำไรไตรมาส 4/50 ยังอยู่ในทิศทางฟื้นตัวเป็น 54 ล้านบาท (-7%qoq, +127%yoy)
        บมจ. ไทยสตีลเคเบิล (TSC) เราคาดหมายว่าผลประกอบการไตรมาส 4/50 จะยังอยู่ในทิศ
ทางที่ฟื้นตัวต่อเนื่องเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/49 และ ไตรมาส 1-2/50  โดยประเมินว่าจะมีกำไรสุทธิ
เท่ากับ 54 ล้านบาท (กำไรต่อหุ้น 0.21 บาท) ชะลอตัวลดลง 7% จากไตรมาสก่อน แต่ฟื้นตัวอย่างมาก
จากปีก่อนถึง 127%  เนื่องจาก การควบคุมค่าใช้จ่าย และ การปรับปรุงประสิทธิภาพของโรงงานใหม่เริ่ม
เห็นผลชัดเจนขึ้นเป็นไตรมาสที่สอง  โดยคาดอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 4/50จะสามารถรักษาระดับได้ที่
18.6% แต่ลดลงจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 19.8%  และ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารคาดจะทรงตัวจากไตร
มาสก่อนที่ 52 ล้านบาท ปรับลดลงจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 79 ล้านบาท เนื่องจากปีก่อนมีค่าใช้จ่ายในการย้าย
โรงงาน  สำหรับยอดขายคาดหมายว่าจะชะลอตัวลงเหลือ 560 ล้านบาท ลดลง 2% จากไตรมาสก่อน แต่
ดีขึ้นจากปีก่อน 5%  รวมแล้วในปี 2550 ผลประกอบการที่ตกต่ำในไตรมาส 1-2 ได้ฉุดให้กำไรเหลือ 189
ล้านบาท ลดลง 15%

* คาดแนวโน้มปีนี้จะโตดีขึ้นจากคำสั่งซื้อของรถรุ่นใหม่ และแรงหนุนอุตสาหกรรม
        แนวโน้มในปี 2551 ทาง TSC ยังได้รับคำสั่งซื้อสำหรับรถโมเดลใหม่สำหรับสายควบคุมรถยนต์
ต่อเนื่องในช่วง 3 ปีนี้ คือ  1.) ปี 2551 คาด TSC จะ ได้รับคำสั่งซื้อของรถรุ่นใหม่เข้ามาทั้งหมด 5
โมเดล เป็นเวลา 4 ปี  2.) ปี 2552  คาดได้รับคำสั่งซื้อรถรุ่นใหม่ 2 โมเดล เป็นเวลา 4 ปี  และ 
3.) ปี 2553 คาดได้รับคำสั่งซื้อรถรุ่นใหม่ 3 โมเดล  รวมกับแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ประเมินว่าทิศ
ทางในปีนี้จะปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อน  ค่ายรถยนต์โตโยต้าประเมินยอดขายรถยนต์ในประเทศปีนี้จะขยายตัว
เท่ากับ 11% สู่ระดับ 700,000 คัน เทียบกับปีก่อนที่ติดลบ 7.5% สำหรับยอดผลิตรถยนต์ กลุ่มอุตสาหกรรม
ยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ก็ประเมินว่าจะเติบโตดีขึ้นเป็น 11% สู่ระดับ 1,427,054 คัน
จากปีก่อนที่ขยายตัว 8% โดยจะได้แรงหนุนจากทั้งผลิตเพื่อส่งออก และ จำหน่ายในประเทศ  ดังนั้น ในปีนี้
เราประเมิน TSC จะมียอดขายเท่ากับ 2,397 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% และ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 229 ล้าน
บาท (กำไรต่อหุ้น 0.88 บาท ) เพิ่มขึ้น 21%

* คงคำแนะนำ ซื้อ คาดแนวโน้มจะฟื้นตัวดีขึ้น หลังชะลอตัวมา 2 ปี
        เราประเมินราคาเหมาะสมเท่ากับ 9 บาท  ภายใต้ฐาน P/E ปี 2551 เท่ากับ 10 เท่า เช่น
เดียวกับหุ้นยานยนต์อื่นๆ  เราคาดหมายว่าผลประกอบการจากนี้ไปจะปรับตัวดีขึ้นเรื่อยๆ จากผลการควบคุม
ค่าใช้จ้าย และ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต หลังจากที่ชะลอตัวลงมา 2 ปี จากผลการย้ายโรงงาน  ดังนั้น
เราจึงคงคำแนะนำ ซื้อ

 บล.กิมเอ็ง

เข้าชม: 1,491

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com