บมจ. ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ซื้อ ราคาปิด (บาท) 81.50 ราคาเป้าหมาย (บาท) 97.50 SET Index 791.25 Stock Information หุ้นที่ออกและชำระแล้ว (ล้านหุ้น) 2388.00 ราคาพาร์ (บาท) 10.00 Free Float (%) 92.09 มูลค่าตลาด (ล้านบาท) 194638.00 Foreign Limit (%) 48.98 Major Shareholders ตลาดหลักทรัพย์ฯ (%) 15.82 STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY (%) 7.78 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด (%) 4.99
รายได้ค่าธรรมเนียมอีกหนึ่งจุดเด่นที่นอกเหนือจาก NIM ที่สูง รายงานกำไรสุทธิปี 50 ที่ 15,005 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10%yoy KBANK รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/50 ที่ 3,628 ล้านบาท ใกล้เคียงกับที่เราประมาณไว้ที่ 3,325 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6%yoy จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 6%qoq จากไตรมาส 3/50 สาเหตุหลักมาจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นถึง 33%yoy และ 13%qoq อันเป็นผลมาจากการเติบ โตของรายได้ค่าธรรมเนียมกว่า 25%yoy และ 8%qoq กำไรสุทธิสำหรับปี 50 อยู่ที่ 15,005 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีที่แล้ว ปัจจัยหลักมาจากราย ได้ค่าธรรมเนียมที่มีอัตราการเติบโตที่สูงกว่า 26%yoy ประกอบกับรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้น 8%yoy จากการเติบโตที่ต่อเนื่องของสินเชื่อ และความสามารถในการรักษาระดับ NIM ที่สูงกว่า 4.13% เอาไว้ ได้ สินเชื่อปี 50 ขยายตัวดีเกินคาดที่ 12.5% สินเชื่อไตรมาส 4/50 เพิ่มขึ้น 3.3 หมื่นล้านบาท หรือ 4.5%qoq ส่งผลให้สินเชื่อปี 50 เพิ่ม ขึ้น 12.5%yoy หรือ 8.5 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับสิ้นปี 49 โดยได้รับปัจจัยหนุนจากภาพเศรษฐกิจและ การเมืองที่ดีขึ้นประกอบกับผลของ Seasonal effect ของ KBANK คงครองตำแหน่ง NIM สูงที่สุดในกลุ่ม จุดเด่นที่สำคัญของ KBANK คือส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่สูง การขยายตัวของสินเชื่อ ที่สูงประกอบกับการขาย NPLs ในไตรมาส 4/50 ส่งผลให้ NIM ไตรมาส 4/50 สูงถึง 4.3% ทำให้ปี 50 KBANK ยังคงครองตำแหน่งธนาคารที่มี NIM สูงที่สุดในกลุ่มที่ 4.1% และเป็นเพียงธนาคารเดียวที่มี NIM สูงกว่า 4% คุณภาพสินทรัพย์ดีที่สุดในกลุ่ม...NPL Ratio ลดลงต่ำที่สุดในกลุ่ม การเจรจาจำหน่าย NPLs ออกไปจำนวนหนึ่งประกอบกับการขยายตัวของสินเชื่อที่ต่อเนื่องใน ตรมาส 4/50 ส่งผลให้สัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL Ratio) ลดลงจาก 6.85% ณ สิ้นปี 49 มาอยู่ที่ เพียง 4.45% ณ สิ้นปี 50 ซึ่งคาดเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในกลุ่มธนาคาร นับเป็นปัจจัยบวกต่อความสามารถใน การทำกำไรและส่วนต่งอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ของธนาคาร ประเมินการเติบโตต่อเนื่องในปี 51 เราประเมินหากการจัดตั้งรัฐบาลมีความชัดเจนขึ้น จะเป็นปัจจัยหลักสนับสนุนการฟื้นตัวของ เศรษฐกิจทั้งทางด้านการบริโภคและการลงทุน ดังนี้เราคาดจะเห็นการขยายตัวของสินเชื่อต่อเนื่องในปี 51 ที่ 12% โดยเน้นที่สินเชื่อ SMEs และสินเชื่อรายย่อย นอกจากนี้เราประเมินรายได้ค่าธรรมเนียมจะเป็นอีก หนึ่งรายได้ที่สำคัญของ KBANK โดยมีอัตราการเติบโตสูง 25% อันเป็นผลมาจากโครงการ K-Transformation และการเสนอบริการในลักษณะ "กลุ่มธนาคารกสิกรไทย" คงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยมูลค่าที่เหมาะสมที่ 97.50 บาท/หุ้น จากจุดเด่นทางด้าน NIM ที่สูง โอกาสเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมที่สูง และคุณภาพสินทรัพย์ ที่ดี เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าที่เหมาะสมปี 51 ที่ 97.50 บาท/หุ้น ซึ่งอ้างอิงกับ 2.1 เท่าของมูลค่า ทางบัญชีปี 51
18 ม.ค.--บล.กิมเอ็ง |