ปตท. (PTT)
แม้จะคิดอัตราค่าเช่าท่อเลวร้ายสุด 20%...ราคาหุ้นก็ยังมี Upside สูงถึง 25% ซื้อ
* ปรับเพิ่มค่าเช่าท่อก๊าซ บนส่วนแบ่งรายได้ใหม่ที่สูงขึ้น * แม้คิดค่าเช่าท่อสูงสุด 20% Fair Value จะอยู่ที่ 400 บาท * ราคาอ่อนตัวเป็นโอกาสดีในการเข้าลงทุน..แนะนำ "ซื้อ"
* FACT: ปรับเพิ่มค่าเช่าท่อก๊าซ บนส่วนแบ่งรายได้ใหม่ที่สูงขึ้น รมว.คลัง เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาค่าเช่าท่อก๊าซจาก PTT ได้ข้อสรุปเบื้องต้น ว่า ทาง PTT ได้เสนอประมาณการรายได้ค่าผ่านท่อก๊าซที่โอนกรรมสิทธิ์คืนมาให้กระทรวงการคลัง ตามคำ สั่งของศาลปกครองใหม่ โดยปรับเพิ่มเป็น 5.7 พันล้านบาทต่อปี จากเดิม 3.6 พันล้านบาทต่อปี ทั้งนี้อัตรา ใหม่ที่เสนอมานั้น เป็นเงินรวมที่หักค่าใช้จ่าย ค่าบริหารจัดการของ PTT และหนี้สินที่ PTT ต้องชำระทั้ง เงินต้นและดอกเบี้ย แต่ยังไม่หักค่าใช้จ่ายระบบท่อ โดยคาดว่าจะใช้อัตราใหม่มาเป็นฐานในการคำนวณค่า เช่าท่อก๊าซที่กรมธนารักษ์จะคิดกับ PTT ต่อไป สำหรับในส่วนของการคิดอัตราค่าเช่าท่อก๊าซนั้นคงจะมีการ ปรับเพิ่มจากเดิมที่เก็บ 5% ของรายได้จากค่าผ่านท่อ แต่ไม่เกิน 20% รวมถึงแนวโน้มที่ค่าเช่ารายได้จะเพิ่ มมากกว่า 3% ที่กำหนดไว้ก่อนหน้า และจะเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรีรับทราบในวันอังคารที่ 22 ม.ค. 2551
* IMPACT: แม้คิดค่าเช่าท่อสูงสุด 20% Fair Valueยังสูงถึง 400 บาท ฝ่ายวิจัยได้จัดทำตาราง Sensitivity Analysis วิเคราะห์ผลกระทบต่อมูลค่าพื้นฐาน ณ สิ้น ปี 2551 ของ PTT หากมีการเปลี่ยนแปลงอัตราการคิดค่าเช่าท่อระดับต่างๆบนส่วนแบ่งรายได้ที่ PTT เสนอมาใหม่ที่ 5.7 พันล้านบาทต่อปี (จากเดิม 3.6 พันล้านบาทต่อปี) แต่ยังคงกำหนดให้ค่าเช่ารายปีเพิ่ม ขึ้น 3% ต่อปี ตามที่ได้กำหนดไว้ก่อนหน้า พบว่าหากคิดอัตราการค่าเช่าท่อเพิ่มขึ้นเป็น 10% มูลค่าพื้นฐาน ณ สิ้นปี 2551 จะปรับตัวลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 413.41 บาท และแม้จะกำหนดให้เกิดกรณีเลวร้ายสุดคือคิด อัตราค่าเช่าท่อสูงสุด 20% มูลค่าพื้นฐาน ณ สิ้นปี 2551 จะอยู่ที่ 400.21 บาท/หุ้น
* ACTION: ราคาอ่อนตัวเป็นโอกาสดีในการเข้าลงทุน..แนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน ณ สิ้นปี 2551 ปัจจุบันเท่ากับ 420.18 บาท/หุ้น โดยใช้วิธี DCF และ Sum of the parts ภายใต้สมมติฐานการคิดอัตราค่าเช่าท่อก๊าซ 5% บนส่วนแบ่งรายได้เดิม 3.6 พันล้านบาท แต่ ถึงแม้ว่าการคิดค่าเช่าท่อจะเกิดกรณีเลวร้ายสุดคือ 20% บนส่วนแบ่งรายได้ใหม่ 5.7 พันล้านบาท ราคา ตลาดปัจจุบันก็ยังคงมี Upside สูงถึง 25% ดังนั้นการอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องของราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมา จากผลกระทบทางจิตวิทยา จึงถือเป็นโอกาสดีในการเข้าลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี ที่มีการเติบโตในทุกสายกลุ่ม ธุรกิจทั้ง ปิโตรเลียม โรงกลั่น และปิโตรเคมี นอกจากนี้ยังคาดหวังเงินปันผลที่อาจจะสูงกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาด ไว้ที่หุ้นละ 10.5 บาท ได้จากการเปิดเผยของผู้บริหาร เนื่องจากมีกระแสเงินสดเหลือเพียงพอมาก
15 ม.ค.--บมจ.หลักทรัพย์ เอเชีย พลัส
|