บมจ. ธนาคารกรุงเทพ การเติบโตสินเชื่อน่าดีจะมากกว่าที่คาดและ NIM ยังขยายตัวใน 4Q07 ซื้อ
ราคาปัจจุบัน (บ.) 113.0 ราคาเป้าหมาย (บ.) 148.0 Upside (%) 31.0
สรุปประเด็นสำคัญ และข่าวล่าสุด * คาดกำไรไตรมาส 4/50 ที่ 4.75 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.5% YoY * สินเชื่อน่าจะโตเกินเป้า ขณะที่ NIM ก็ยังขยายตัวต่อเนื่องในปี 2550 * คงแนะนำ ซื้อ โดยมีราคาเป้าหมายปี 2551 ที่ 148 บาท คาดการขยายตัวของสินเชื่อและส่วนต่างดอกเบี้ยที่ดีจะช่วยผลักดันกำไรสุทธิไตรมาส 4/50 เพิ่ม 17.5 YoY เป็น 4.75 พันล้านบาท เราคาดว่า BBL จะรายงานกำไรไตรมาส 4/50 ที่ 4.75 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.5% YoY จากการขยายตัวของสินเชื่อที่คาดว่าจะดีถึง 7% YoY และส่วนต่างดอกเบี้ยที่สูงถึง 3.2% ตัวเลขดังกล่าว จะทำให้กำไรจากการดำเนินงาน (Pre-tax PPOP) เพิ่มเกือบ 10% YoY อย่างไรก็ดี เราคาดว่ากำไร ไตรมาส 4/50 จะลดลง QoQ เนื่องจาก i) ผลขาดทุนเพิ่มจากการเสื่อมค่าของสินทรัพย์และการลงทุนใน ตราสารหนี้ซีดีโอเพิ่มเติม; ii) ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรเพิ่ม โดยเฉพาะจากการจ่ายเงินโบนัสและค่าใช้ จ่ายอื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้น โดยภาพรวมคาดว่ากำไรในปี 2550 จะอยู่ที่ 19.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.4% YoY และคาดว่ากำไรจากการดำเนินงานในปี 2550 จะเพิ่มเป็น 31.1 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 29% YoY
รายการสำคัญในไตรมาส 4/50: 1) BBL ชี้แจงว่าธนาคารฯ เริ่มเห็นการฟื้นตัวของอุปสงค์สินเชื่อบรรษัท (Corporate loan) และสัดส่วนสินเชื่อโครงการมีเพิ่มขึ้นมากกว่าการกู้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน ยิ่งกว่านั้นก็คาดว่าการขยายตัว ในตลาดสินเชื่อ SMEs และสินเชื่อรายย่อยจะเพิ่มต่อเนื่องจากเดือน พ.ย. 50 เป็นที่น่าสังเกตุว่า BBL ในรอบ11เดือนที่ผ่านมามีการขยายตัวของสินเชื่อสูงถึง 6% ไปแล้ว โดยรวมในไตรมาส 4/50 เราคาดว่า สินเชื่อจะขยายตัวเพิ่ม 3.1% QoQ ซึ่งหมายถึงการขยายตัวของสินเชื่อในปี 2550 จะสูงถึง 7% ตัวเลขนี้ สูงกว่าเป้าเดิมของธนาคารฯ ที่ 5% ในขณะที่ BBL ยังคงรักษาเป้าการขยายตัวของสินเชื่อในปี 2551 ที่ 5-7% 2) คาดว่าส่วนต่างดอกเบี้ยไตรมาส 4/50 จะเพิ่ม QoQ เป็น 3.2% จาก 3.1% ในไตรมาสที่ แล้วจากต้นทุนการเงินที่ลดลงตามการปรับต้นทุนเงินฝาก 3) รายรับที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยควรลดลงเล็กน้อย QoQ จากผลขาดทุนจากการเสื่อมค่าของสินทรัพย์ บางรายการและการลงทุนในตราสารหนี้ซีดีโอ อย่างไรก็ดีคาดว่าผลขาดทุนดังกล่าวจะไม่สูงมากนัก โดย เราคาดว่า BBL จะรายงานผลขาดทุนจากการลงทุนเพียง 150 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 93 ล้านบาทที่เคย ขาดทุนในไตรมาสที่แล้ว 4) คาดว่าค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยจะเพิ่มสูงถึง 18.7% QoQ แต่เกือบคงที่ YoY ตัวเลขดัง กล่าวเกิดจากค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากการจ่ายเงินโบนัสและ ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เพิ่ม ขึ้นตามฤดูกาล 5) คาดว่าสำรองในไตรมาส 4/50 จะอยู่ที่ 1.35 พันล้านบาท ลดลง 77% YoY เนื่องจากไม่ มีการตั้งสำรองก้อนโตตามเกณฑ์ IAS39 แต่ค่อนข้างคงที่ QoQ คาดว่าสำรองปกติจะอยู่ประมาณ 50 bps ต่อสินเชื่อคงค้างและตัวเลขดังกล่าวรวมไว้ในตัวเลขประมาณการของเราเรียบร้อยแล้ว 6) คาดว่าอัตราภาษีในปี 2550 จะอยู่ที่ประมาณ 30% ซึ่งหมายถึงอัตราภาษีในไตรมาส 4/50 ที่เพียง 21%
คงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย 148 บาท หลังจากได้พูดคุยกับ BBL และธนาคารอื่น ๆ ประกอบกับภาพการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งของสินเชื่อ โดยรวมของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในเดือน พ.ย. 50 (ตารางที่ 2) และค่าดัชนี CCI ที่ดีขึ้นเป็นครั้งแรกใน รอบ 13 เดือน เราประเมนว่าอุปสงค์สินเชื่อโดยรวมมีแนวโน้มที่จะยังเพิ่มดีต่อเนื่องในเดือน ธ.ค. 50 โดยเฉพาะสินเชื่อบรรษัทหลังจากที่เติบโตช้าในช่วง 9 เดือนแรกน่าจะเริ่มดูดีขึ้นต่อ การกลับมาของอุปสงค์ สินเชื่อบรรษัทจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับ BBL ซึ่งมีบทบาทสูงในตลาดดังกล่าว ดังนั้นเราคงแนะนำ ซื้อ โดยมีราคาเป้าหมายในปี 2551 ที่ 148 บาทต่อหุ้นจากค่า PB08 ที่ 1.56x
10 ม.ค.--บมจ.เคจีไอ |