บมจ. ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ซื้อ ราคาปิด (บาท) 80.50 ราคาเป้าหมาย (บาท) 97.50 SET Index 808.31 Stock Information หุ้นที่ออกและชำระแล้ว (ล้านหุ้น) 2388.00 ราคาพาร์ (บาท) 10.00 Free Float (%) 98.72 มูลค่าตลาด (ล้านบาท) 192250.00 Foreign Limit (%) 48.98 Major Shareholders ตลาดหลักทรัพย์ฯ (%) 15.68 STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY (%) 7.21 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด (%) 4.99
คงครองตำแหน่งธนาคารที่มี NIM สูงที่สุดในกลุ่ม ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 4/50 ไว้ที่ 3,325 ล้านบาท เราประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 4/50 ไว้ที่ 3,325 ล้านบาท ลดลง 2.5%qoq เมื่อเทียบกับ ไตรมาส 3/50 เนื่องจากค่าใช้จ่ายดำเนินงานเพิ่มขึ้นสูง 20%qoq จากการลงทุนในโครงการ K-Transportation และสำรองฯเพิ่มขึ้นกว่า 20% ตามยอดสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น แม้ว่ารายได้ดอกเบี้ยสุทธิ เพิ่มขึ้นสูง 13% ก็ตาม แต่หากเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนพบว่ากำไรสุทธิลดลง 3.0%yoy แม้รายได้ ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง 19%yoy และ 17%yoy ตามลำดับ ทั้งนี้เนื่อง จากปี 50 มีการจ่ายภาษีในอัตราที่ปกติทำให้ค่าใช้จ่ายภาษีเพิ่มสูงจาก 59 ล้านบาท เป็น 1.5 พันล้านบาท อีกทั้งไตรมาส 4/50 มีการตั้งสำรองฯเพิ่มขึ้น 15% แต่หากพิจารณาที่กำไรจากการดำเนินงานพบว่ามีอัตรา การเติบโตที่สูงถึง 29%yoy ไตรมาส 4/50 สินเชื่อขยายตัวสูง 4.3%qoq KBANK รายงานยอดสินเชื่อเดือน ต.ค.-พ.ย. เพิ่มขึ้น 1.9 หมื่นล้านบาท หรือ 2.7% จากสิ้น ไตรมาส 3/50 เราคาดสินเชื่อเดือน ธ.ค. เติบโตต่อเนื่อง อันส่งผลให้สินเชื่อไตรมาส 4/50 และสิน เชื่อปี 50 แสดงอัตราการเติบโตที่สูง 4.3% และ 12.3% ตามลำดับ โดยสินเชื่อที่มีอัตราการเติบโตสูงคือ สินเชื่อรายย่อย (22%) และสินเชื่อ SMEs (15%) ในขณะที่เงินฝากเติบโตเพียง 5.8% ส่งผลให้สิ้นปี 50 สภาพคล่องของธนาคารลดลงโดยมีสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก (Loan to Deposit Ratio: LDR) เพิ่ม ขึ้นสูงจาก 90% ในปี 49 มาอยู่ที่ 96% ดังนี้เราคาดปี 51 จะเห็นการออกผลิตภัณฑ์เงินฝากลักษณะต่างๆ เพื่อมาแย่งชิงเงินฝากในระบบ ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย(NIM) ดีกว่าคาด...พร้อมครองตำแหน่ง NIM สูงสุดในกลุ่ม การขยายตัวของสินเชื่อที่สูงประกอบกับการขาย NPLs ในไตรมาส 4/50 ส่งผลให้ส่วนต่าง อัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ไตรมาส 4/50 ปรับตัวขึ้นสูงกว่าที่คาดไว้ที่ 4.14% ทำให้ KBANK ยังคงครอง ตำแหน่งธนาคารที่มี NIM สูงที่สุดในกลุ่มที่ 4.02% และเป็นเพียงธนาคารเดียวที่มี NIM สูงกว่า 4% คุณภาพสินทรัพย์ดีที่สุดในกลุ่ม...ลด NPL Ratio ลงได้ต่ำกว่า 5% การเจรจาจำหน่าย NPLs ออกไปจำนวนหนึ่งประกอบกับการขยายตัวของสินเชื่อที่ต่อเนื่องใน ตรมาส 4/50 ส่งผลให้เราคาดว่าสัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL Ratio) ในระดับธนาคารจะลดลงต่ำ กว่า 5% นับเป็นปัจจัยบวกต่อความสามารถในการทำกำไรและส่วนต่งอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ของ ธนาคาร รายได้ค่าธรรมเนียมเติบโตสูง 24%qoq เราประเมินรายได้ค่าธรรมเนียมเติบโตต่อเนื่อง 24%qoq ส่วนใหญ่เป็นค่าธรรมเนียมจากธุรก รรมทางการเงิน อาทิเช่น การโอนเงิน และการเป็นตัวแทนจำหน่ายประกัน (Bancassurance) อันเป็น ผลจากความพยายามในการให้บริการลูกค้าในลักษณะกลุ่มธนาคารกสิกรไทยและโครงการ K-Transformation โดยปี 50 รายได้ค่าธรรมเนียมเติบโต 25% ในขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเติบโต สูง 29% และทำให้มีสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมต่อรายได้รวมอยู่ที่ 18% และมีสัดส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ต่อรายได้รวมอยู่ที่ 25% โดยเราเชื่อว่ารายได้ค่าธรรมเนียมและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจะเป็นรายได้สำคัญ ของ KBANK ในอนาคต คงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยมูลค่าที่เหมาะสมที่ 97.50 บาท/หุ้น จากจุดเด่นทางด้านการเติบโตของสินเชื่อที่ต่อเนื่อง ระดับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ที่สูงที่ สุดในกลุ่ม และรายได้ค่าธรรมเนียมที่มีการเติบโตในอัตราที่สูง ประกอบกับคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีโดยมี NPL Ratio ในระดับต่ำ เราจึงคงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยมูลค่าที่เหมาะสม 97.50 บาท/หุ้น
8 ม.ค.--บล.กิมเอ็ง |