คุณมยุรี จาก อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โทรศัพท์ด่วนมายังกอง บก. เพื่อสอบถามถึงคำแนะนำให้ทิ้งหุ้น TPIPL แท้ที่จริงเป็นอย่างไรกัน เพราะมาร์เก็ตติ้งที่เล่นหุ้นด้วยกันก็บอกให้เทขายหุ้นออกไปก่อน จึงอยากรู้ว่าหุ้นตัวนี้จะหมดอนาคตจริงๆ เหมือนกับที่พูดกันปากต่อปากหรือไม่ เนื่องจากการขายหุ้นทิ้งคราวนี้จะทำให้ตัวดิฉันขาดทุนเป็นจำนวนมาก ดูเหมือน คุณมยุรี ไม่ค่อยมีเวลาติดตามข่าวสารเหมือนกับนักลงทุนรายอื่นๆ ส่งผลให้ตัวเองต้องติดหุ้นราคาสูงโดยไม่ทันตั้งตัว ทั้งที่พื้นฐานของหุ้น TPIPL ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่สักเท่าไหร่ และที่ผ่านมาก็สามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเรื่องน่าตกใจมากๆ ที่จู่ๆ มีคนมาแนะนำให้ตัดใจขายหุ้นออกไปก่อน เนื่องจากการตัดขายหุ้นดังกล่าวทำให้พอร์ตหุ้นขาดทุนยับเยิน และไม่รู้ว่าจะหาทางเอากำไรกลับคืนมาได้อย่างไร ถือเป็นเรื่องที่ทำใจยากมากเลยทีเดียวนะครับ ยิ่งตัวบริษัท TPIPL มีภาระต้องจ่ายเงินค่าปรับตามคำสั่งศาลมากถึง 6.90 พันล้านบาทยิ่งกระทบต่อฐานะความมั่นคง และความสามารถในการทำกำไรในอนาคตอย่างเลี่ยงไม่ได้จึงทำให้นักวิเคราะห์สำนักต่างๆ แนะนำให้ "ขายทิ้ง" โดยผลกระทบดังกล่าวยังลุกลามไปถึงแผนรีไฟแนนซ์หนี้ และแผนการใช้เงินในส่วนอื่นๆ อีกด้วยนะครับ เมื่อฐานะทางการเงินของบริษัทมีปัญหา มูลค่าของหุ้นก็เลยลดลงตามโดยอัติโนมัติซึ่งเป็นฉนวนเหตุสำคัญที่ทำให้นักลงทุนพากันเทขายหุ้นทิ้งอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นยังไม่สามารถวิเคราะห์เป็นตัวเลขที่แน่นอนได้ ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้มาร์เก็ตติ้งแนะนำลูกค้าของตนเองให้เทขายหุ้นทิ้งอย่างหนักในช่วงที่ผ่าน ส่วนที่บอกว่า TPIPL หมดอนาคตนั้น ผมมองว่าเป็นเรื่องที่พูดเกินจริงไปสักหน่อยเพราะตัวบริษัทก็ยังดำเนินธุรกิจไปได้เรื่อยๆ แต่อาจไม่สามารถทำกำไรได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ก็เท่านั้นเอง ฉะนั้นไม่ควรบอกว่าหุ้นตัวนี้ "หมดอนาคต" แต่น่าจะบอกว่าเป็นหุ้นที่ "ควรหลีกเลี่ยง"ซึ่งเป็นผลมาจากความไม่นอนทางด้านตัวเลขกำไร และภาระหนี้สินที่สุมหัวเป็นจำนวนมากจนอาจถึงขั้นต้องปรับโครงสร้างหนี้ขนานใหญ่อีกหน ที่สำคัญ คือ กว่าบริษัทจะฟื้นตัวขึ้นมาอย่างถาวร คงใช้เวลาค่อนข้างนานเลยทีเดียวนะครับ การที่ คุณมยุรี จะขายหุ้นทิ้งหรือไม่นั้น คงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคุณแต่เพียงผู้เดียวเพราะผมทำได้แค่ให้คำแนะนำเท่านั้น
ข่าวหุ้น |