April 29, 2024   3:35:34 AM ICT
CK

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส
          แนวโน้มระยะสั้นไม่สดใส จากการที่อัตรากำไรขั้นต้นยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน อีกทั้งภาวะตลาดฯที่ไม่เป็นใจ การ IPOของบริษัทน้ำประปาไทย (TTW) จึงเลื่อนออกไปเป็น 1Q51 จากเดิมที่ 4Q50 ดังนั้นจึงต้องมีการปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ลง เพราะกำไรจากการร่วมออกขาย IPO จะไม่เกิดขึ้นในปีนี้แล้ว


          บล.นครหลวงไทย
          แนวโน้มผลการดำเนินงานที่คาดจะกลับมาสู่ภาวะขาขึ้นอีกครั้ง ประกอบกับบริษัทยังมี Upside Gain จากการนำหุ้นน้ำประปาไทยเข้าตลาดหลักทรัพย์และการประมูลรถไฟฟ้าสายสีแดงและสีม่วง ดังนั้น SCIBS แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม ภายใต้วิธี Sum-of-the-part เท่ากับ 11.55 บาท/หุ้น (Core Unit=4.84 บาท/หุ้น NonCore Unit=8.73 บาท/หุ้น หักด้วย หนี้จาก BBCD 2.02 บาท/หุ้น)


          บล.ฟาร์อีสท์
          ล่าสุด CK คาดว่าเขื่อนดังกล่าวน่าจะมีความคุ้มค่าพอที่จะก่อสร้าง จึงคาดว่าจะสามารถเซ็นสัญญาก่อสร้างได้ภายในปี 51 ซึ่งจะช่วยเพิ่ม Backlog ให้กับ CK ได้อย่างมากเนื่องจากมีมูลค่าก่อสร้างประมาณ 300 ล้านเหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 10,000 ล้านบาท) จากมูลค่าโครงการรวม 13,780 ล้านบาท ขณะที่เขื่อนไซยะบุรี ยังต้องรอผลการศึกษาความเป็นไปได้ต่อไปเนื่องจากต้องใช้เวลาศึกษานานถึง 30 เดือน จะครบกำหนดประมาณปี52 ซึ่งหากสามารถก่อสร้างได้ จะช่วยเพิ่ม Backlog ให้กับ CK ในอนาคตได้อย่างมาก


          บล.เกียรตินาคิน
          งานในมือ (Backlog) ยังคงสามารถรับรู้รายได้ต่อเนื่องได้ 1-2 ปี โดยมีBacklog.ในมือปัจจุบันที่ 20,254 ล้านบาท สัดส่วน 64.5% มาจากโครงการเขื่อนน้ำงึม2มูลค่าโครงการคงเหลือ 13,056 ล้านบาท และสัดส่วน 10% มาจากโครงการ EnergyComplex 2,021ล้านบาท และโครงการที่ได้รับใหม่คือโครงการด่านเก็บเงินที่บางพลี-บางขุนเทียนมูลค่าโครงการ 1,835ล้านบาท ที่สัดส่วน 9% โดยคิดเป็นประเภทงานจะเป็นกลุ่มโรงไฟฟ้า 61% งานถนน 19% และงานก่อสร้างอาคาร 15%บริษัทหลักทรัพย์ ซื้อ ขาย ถือ ราคา/บาทบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ค / - - 8.82บล.นครหลวงไทย / - - 11.55บล.ฟาร์อีส / - - 9.06บล.เกียรตินาคิน / - - 11.25

ข่าวหุ้น

เข้าชม: 1,606

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com