เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยากที่จะตอบเลยนะครับ
          เนื่องจากประวัติความเป็นมาของ GSTEEL และ NSM ก็มีข่าวออกมาให้เห็นเป็นระยะจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะร้อยเรียงเรื่องดังกล่าวเข้าหากัน ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการพูดถึงเรื่องนี้มากแล้วหลายครั้งด้วยกัน

          เพียงแต่ที่ผ่าสนมาไม่มีหลักฐานยืนยัน หรือมีกระแสข่าวแรงเท่ากับตอนนี้ก็เท่านั้นเอง
          ที่สำคัญการควบรวมบริษัทเหล็กทั้งสองแห่งเข้ามาหากัน น่าจะมีเค้าลางมาจากตอนที่GSTEEL เข้าไปซื้อหนี้แปลงสภาพ NSM ต่อจากเจ้าหนี้รายอื่นประมาณ 22.60% และถ้าต้องการใช้สิทธิ์แปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญก็จะถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 33%

          การควบรวมครั้งนี้จึงไม่ใช่เรื่องนอกเหนือความคาดหมายนะครับ
          สำหรับสาเหตุที่ทำให้ข่าวดังกล่าวกลับมามีน้ำหนักอีกครั้ง คงเป็นผลมาจากแผนการควบรวมมีความชัดเจนมากขึ้น และเริ่มการส่งที่ปรึกษาทางการเงินไปประเมินผลลัพธ์หลังจากการควบรวมจะออกมาเป็นอย่างไร

          ส่งผลให้คนที่รู้ข่าวดังกล่าวบอกต่อๆ กันไป และเริ่มมีมูลความจริงมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ตอนที่ผู้บริหารประกาศอย่างชัดเจนว่า GSTEEL จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำเหล็กในปี 2551 ซึ่งหนทางเดียวที่จะทำให้บริษัทไปยืนอยู่ตรงจุดนั้นก็คือ การเทคโอเว่อร์
          เรื่องการควบรวมจึงเป็นเรื่องจริงทุกประการนะครับ

          งานนี้ผมอยากให้นักลงทุนติดตามความเคลื่อนไหวเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่น่าจดจำ รวมทั้งยังส่งผลโดยตรงต่อราคาหุ้นในกระดานต่อหุ้นทั้ง 2ตัวด้วยนั่นเอง
          สำหรับคำถามเรื่องผลกำไรในอนาคตจะออกมาดีขึ้นกว่าเดิมไหม ขอตอบว่าไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะต้องดูสถานการณ์ทำธุรกิจตอนนั้นเอื้อตัวบริษัทมากขนาดไหน และเมื่อเวลานั้นมาถึงก็ไม่ยากต่อการคำนวณหรอกครับ

          ที่แน่ๆ ตอนนี้สูตรการควบรวมที่มีการพูดถึงถี่ยิบบอกว่า ตัวบริษัททั้งสองแห่งจะมีรายได้และผลกำไรแซงหน้าผู้ผลิตเหล็กเบอร์ 1 อย่าง SSI แน่นอน
          โดยสูตรคำนวณดังกล่าวก็มาจากที่ปรึกษาทางการเงินที่รับหน้าที่เข้ามาทำดีลนี้ ไม่เช่นนั้นก็คงไม่มีการพูดถึงสูตรสำเร็จที่ทำให้ดีลนี้ลงตัวกันอย่างเอิกเกริกหรอกครับ

ข่าวหุ้น