หัวคอลัมน์ : เรื่องของ SAM

          Sam ในที่นี้ไม่ได้หมายถึง  “Uncle Sam” ซึ่งเป็นฉายาของประเทศอเมริกาแต่เป็นวิบากกรรมของนักลงทุนที่เก็งกำไรหุ้น SAM หรือหุ้น บริษัท สามชัย สตีล อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ซึ่งเคยเป็นขวัญใจนักลงทุนประเภท
          “รถซิ่ง” เพราะสร้างวีรกรรมไว้จนนักเก็งกำไรบางคนเชื่อมั่นว่า หากราคาหุ้นร่วงลงมาแรง ๆ น่าจะมี “เด้ง”
          ให้ได้ขายทำกำไรกันบ้าง นั่นคือพึ่ง “ความหวัง”  โดยหวังว่าหุ้นตัวนี้จะขึ้น เหมือนพฤติกรรมก่อนหน้านี้

          หากหุ้นไม่ขึ้นก็หมายความว่า เรากำลังเดินสู่ความเสี่ยงโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งอาจจะนำมาสู่ “บทเรียนราคาแพงโดยไม่ได้ตั้งใจ”
          หุ้น SAM นั้นเพิ่งจะมีการขึ้นเครื่องหมาย XW ในสัดส่วน 4 : 1 ฟรี โดยขึ้นเครื่องหมาย XW ตั้งแต่วันที่ 6  พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังจากนั้นราคาหุ้นก็เริ่มปรับตัวลงแบบผันผวนรุนแรง โดยหากดูจากกราฟหุ้นจะใช้เวลาในการขึ้นในมุม 45 องศามาค่อนข้างนาน แต่เวลาตกใช้มุม 90 องศา ปรับลงมาอย่างรุนแรงและรวดเร็ว

          พร้อมปริมาณการซื้อขายทะลักเข้ามา เรียกนักเสี่ยงให้เข้ามารับของเพราะราคาหุ้นจะวิ่งขึ้นวิ่งลง หลังจากนั้นก็เกิดอาการ “นิ่ง” และค่อย ๆ สงบเงียบ แต่หุ้นบางตัวก็จะเหวี่ยงกันหลายรอบให้นักเก็งกำไรเข้าซื้อมาขายไป  แต่ท้ายสุดก็กลายเป็นผู้ถือหุ้นระยะกลางโดยไม่ได้ตั้งใจ ตัวอย่างที่เห็นชัดเช่น NCH MME EMC ที่เคยมีปรากฏการณ์ให้เห็นในถนนนักลงทุนซึ่งคนที่ขายได้มีกำไรก็มีความสุข คนที่ติดหุ้นก็รับความเสี่ยงอะไรประมาณนั้น
          เกมเหล่านี้มักเกิดขึ้นกับนักลงทุนที่เล่นหุ้นประเภท High Risk High Return ซึ่งหากวัดผลกันรายวันนั้น

          ต้องบอกว่าเกมนี้ “อ่านใจเจ้ามือผิด” เพราะเจ้ามือทิ้งลูกเดียวสำหรับเกมวันพฤหัส และวันศุกร์ ส่วนวันจันทร์นี้เกมจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับ โชคชะตา ว่าจะใช้เกณฑ์อะไรในการพิจารณาว่า หากหุ้นตัวนี้จะขึ้นมาอีกครั้งนั้นจะใช้เหตุผลอะไร เหตุผลทางเทคนิคเป็นเหตุผลที่อาจจะนำมาใช้มากที่สุดเพราะหุ้นตัวนี้ขึ้นไปที่ราคา 10 บาท จากราคาต่ำสุดเพียง 2.60 บาท โดยใช้เวลาไม่นานหรือต่ำกว่า 6 เดือน หลังจากนั้นข่าวการแจกวอแรนท์ก็ออกมาที่ราคาสูงสุด  ถามว่า “เกมโอเวอร์หรือยัง”  คำตอบนี้เจ้าภาพจะตอบได้ดีที่สุด ว่าจบแล้วหรือยัง แต่หากมองจากอาการของหุ้นแล้วบอกได้ว่า “ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตอีกนาน” สิ่งที่อาจจะเป็นความหวังลม ๆ แล้ง ๆ คือหุ้นตกมาประมาณ 100% ในระยะเวลาอันสั้น มีโอกาสตีกลับในอัตรา 30% 50% หรือ 66% หากคิดว่าเหตุผลทางด้านเทคนิคยังพอเป็นไปได้ ซึ่งแนวต้านคือ ค่าเฉลี่ยของราคาที่ขายกันประมาณ 3.22 บาท หรือไม่เกิน 4.50 บาท

          ลองมาดูงบการเงินของบริษัทนี้บ้าง มีสินทรัพย์รวม 4,030 ล้านบาท มีส่วนของผู้ถือหุ้น 1,948
          ล้านบาท และมีมูลค่าหุ้นทางบัญชีหุ้นละ 2.29 บาท โดยมีขาดทุนสุทธิ 38  ล้านบาทหรือหุ้นละ 0.05
          บาทสำหรับงบการเงินงวด 6 เดือน ปี 2550  โดยหุ้นตัวนี้เข้าจดทะเบียนในตลาดปี 2004  โดยเสนอขายหุ้นละ 10 บาท และเพิ่งทำสถิติแตะ 10 บาทเมื่อไม่นานมานี้ก่อนที่จะเล่นท่า “บันจี้จั้ม” ลงมา เหตุผลอย่างไม่เป็นทางการ
          “รายใหญ่แตกคอกัน” ส่วนเหตุผลที่แท้จริงนั้น หากทราบไม่ เพราะอาการที่บอกคือ “เลิกแล้วค่ะ”
          แต่มีความเป็นไปได้เหมือนกันว่า พฤติกรรมอย่างนี้อาจจะมีโอกาสเกิดพฤติกรรม “ชาวสวน” ให้เห็นได้เช่นกัน
          แต่ไม่ควรฝากความหวังไว้มากนัก หากจะเสี่ยงก็ต้องมีจุด “หยุดขาดทุน” และต้อง “ขายให้ทัน” มิฉะนั้นอาจจะถึงขั้นหมอไม่รับเย็บได้เช่นกัน เพราะตลาดหุ้นยามนี้ “ตัวเลือกทั้งปัจจัยพื้นฐานดีและไม่ดี ต่างแย่งกันลดราคา”

          เพราะฉะนั้นขึ้นอยู่กับผู้เลือกว่าตัวไหนจะ “ Grand Sale” มากกว่ากัน แต่หากดูจากหุ้น Most Active ใช่เลยเพราะราคาหุ้นดิ่ง 30% ตามกฎตลาดหลักทรัพย์แบบไม่ต้องสงสัย เพราะสถิติฟ้องอยู่โทนโท่

          ดังนั้นหากนักลงทุนจะ “วัดใจเข้าสู้กับหมีตัวเขื่องอย่าง SAM” อาจจะต้องสังเกตดังนั้น 1.ราคาซื้อขายสูงกว่าราคาเปิด 3 ช่อง และ ราคาซื้อขายยืนเหนือราคาเฉลี่ย และอีกประการหนึ่งคือ ปริมาณการซื้อขายต้องรองรับ หากเล่นขึ้น หุ้นควรทำจุดสูงใหม่ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายเป็นช่วง ๆ แล้วแต่การวัดโดยเงื่อนเวลา

          หากต่ำกว่าราคาปิดและราคาเฉลี่ย มากว่า 3 ช่วงราคาอาจจะต้อง คืนตลาด ถามหาเจ้าภาพว่ายังอยู่อีกไหม หากเจ้าภาพไม่อยู่ แล้วเราจะอยู่อีกหรือ...เพราะวัตถุประสงค์ที่ติดตามคือ “เก็งกำไร” ไม่ใช่ลงทุน เพราะหุ้นลงทุนตัวเลือกใน SET 50 มีมากมาย เช่น RRC BBL SCC KTB IRPC LH AMATA ซึ่งแม้ว่าอาจจะไม่ให้คำตอบเรื่องได้เสีย แต่อย่างน้อยความปลอดภัยของเงินทุนยังอยู่ในระดับที่ปลอดภัยกว่า ตรงกันข้าม หากคิดว่า เกมหุ้นกลุ่มใหญ่ไม่ท้าทายความสามารถในการเข้าออกตลาด  แต่ต้องการแสวงหาโอกาสจาก “พฤติกรรมที่ผิดปกติของตลาดหุ้น”

          ที่มีสภาพคล่องเป็นตัววัด อย่างนั้นตัวเลือกในหุ้นกลุ่ม  Liquidity Drive  อาจจะยังพอเลือกได้ ซึ่งหุ้นที่จัดอยู่ในข่าย Money Game ซึ่งมีเพลงดังคือ “จงรัก” ที่ขึ้นต้นว่า “โปรดอย่าถาม ว่าฉันเป็นใคร เมื่อในอดีต….”  มาให้เลือกแทบจะเต็มตลาดเช่นกัน ที่กำลังจัดปาร์ตี้อยู่ เช่น TCC TMB QH MILL แต่ต้องขอบอกว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง