May 13, 2024   6:22:36 PM ICT
(BAY) รายงานการเข้าพบผู้บริหาร
ซื้อ ราคา: 11.00 บ. ราคาเป้าหมาย: 14.00 บ.
        จากการเข้าพบ ดร.จำลอง อติกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ประเด็นที่พูดคุยส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการจัดชั้นหนี้เชิงคุณภาพ มุมมองในการดำเนิน ธุรกิจในอนาคต รวมถึงความคืบหน้าของบริษัทไฟแนนซ์ในเครือ
        ทั้งนี้ ผู้บริหารได้กล่าวว่า ธนาคาร ไม่มีความกังวลในการเข้าตรวจสอบการ จัดชั้นสินเชื่อเชิงคุณภาพ เนื่องจาก BAY ได้รับการตรวจสอบจากธปท. ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์และมิถุนายนที่ผ่านมาแล้ว โดยในเดือนมิถุนายน ธปท.ได้พุ่งเป้าตรวจสอบไปที่สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ทำให้ธนาคารเชื่อว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่ธปท.จะเข้ามาตรวจสอบเพิ่มเติมอีกครั้ง
        อย่างไรก็ดี ผลกระทบจากเกณฑ์ การตั้งสำรองฯ ใหม่ของธปท. ที่เกี่ยวกับการลดมูลค่าหลักประกันสำหรับหนี้เสียที่มีอายุเกินกว่า 24 เดือนนั้น ธนาคารเห็นว่าจะไม่มีนัยสำคัญ เนื่อง จากตั้งแต่เมื่อต้นปี ธนาคารได้เร่งแก้ปัญหาหนี้ส่วนนี้ โดยการยื่นเข้าสู่กระบวนการจัดการชั้นศาล ซึ่งเป็นผลให้ระดับหนี้ ณ ปัจจุบันของธนาคารลดต่ำลงกว่า 500 ล้านบาท จากเดิมในเดือนมีนาคมซึ่งอยู่ที่ 5,700 ล้านบาท
        ในปี 2548 ธนาคารยังคงนโยบาย รักษาการตั้งสำรองอย่างต่อเนื่อง โดยให้ อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับในปีนี้ที่วางไว้ที่ 3,000 ล้านบาท อย่างไรก็ดี ธนาคารเชื่อมั่นว่าสัดส่วนการตั้งสำรองต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในปี 2548 จะครอบ คลุมหนี้สูญของธนาคารได้เกินกว่า 50% เพื่อให้ใกล้เคียงกับสัดส่วนเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารที่ 72%
        พร้อมกันนั้น ผู้บริหารมองว่าในปีหน้าสินเชื่อของธนาคารจะขยายตัวที่ระดับ 5-7% โดยกลยุทธ์ของธนาคารยังคงเน้นไปที่สินเชื่อธุรกิจ SME ซึ่งเป็นธุรกิจขนาดย่อม และสินเชื่อรายย่อย ขณะเดียวกัน ผู้บริหารคาดรายได้จากค่า ธรรมเนียมในปีหน้าโตขึ้น 20% โดยได้รับการสนับสนุนจากการขายผลิต-ภัณฑ์ให้กับลูกค้ารายย่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Bancassurance และตู้เอทีเอ็มที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วประเทศ โดยในปีหน้า ธนาคารจะติดตั้งตู้เอทีเอ็มเพิ่มขึ้น 200-300 แห่ง จากปัจจุบันที่มีอยู่ที่ 1,300 แห่ง จะทำให้สัดส่วนราย ได้รับที่ไม่ได้มาจากดอกเบี้ยต่อรายได้ทั้งหมดเพิ่มสูงขึ้นเป็น 20% จากปีนี้ซึ่งอยู่ที่ 16%
        สำหรับความคืบหน้าของบริษัทไฟแนนซ์ในเครือ BAY ปรับแผนจากเดิมที่จะให้ AITCO เป็น Holding Company เพื่อถือหุ้นในกลุ่มธุรกิจของ ธนาคาร แทนที่ธนาคารจะเข้าไปถือหุ้นโดยตรง มาเป็น Credit Company โดยจะเน้นไปที่ธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อและลีสซิ่ง คาดว่าจะได้รับความเห็นชอบจากธปท.
        เราคาดว่าในไตรมาส 3/2547 ธนาคารจะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 31% และจากงวดเดียว กันของปีก่อน 87% มาอยู่ที่ 1,485 ล้านบาท เป็นผลจากในไตรมาสนี้ธนาคารมีการตั้งสำรองต่ำกว่าจากในไตรมาส 2/47 ซึ่งอยู่ที่ 1,030 ล้านบาทมาเป็น 600 ล้านบาท โดยคาดว่าการตั้งสำรองในไตรมาส 4/47 ของธนาคารจะอยู่ที่ 900 ล้านบาท เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของเงินสำรองในปีนี้ที่ธนาคารตั้งไว้ที่ 3,000 ล้านบาท
        โดยสรุปแล้ว เรายังคงแนะนำ ซื้อ สำหรับ BAY เนื่องจากเมื่อพิจารณาจากกลุ่มธนาคารด้วยกันแล้ว BAY ถือว่ามีอัตราการเติบโตของผลการดำเนินงานที่โดดเด่นกว่าธนาคารอื่นๆ ในช่วงปี 2548-2549 คาดว่ากำไรสุทธิต่อหุ้นจะโตเฉลี่ย 16% และ BVS เติบโตขึ้น 15% เมื่อเทียบกับกลุ่มธนาคารซึ่งอยู่ที่เพียง 8% และ 9% ตามลำดับ โดยราคาหุ้น ณ ปัจจุบันถือว่ายังอยู่ต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน ดังนั้น แนะนำ ซื้อ โดยมีราคาเป้าหมายในปีนี้ที่ 14 บาท n
       
       ที่มา : บล.บัวหลวง

เข้าชม: 1,188

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com