ขณะที่ปัจจัยหลักผลักดันให้ธุรกิจเติบโตได้ด้วยดี มีสาเหตุมาจากการเติบโตของรายได้จากดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิ 32.4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากสินเชื่อของธนาคารยังขยายตัวได้ดี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินเชื่อธุรกิจ (SME) ที่เพิ่มขึ้น 31,272 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.4 จากสิ้นปี 2549 สินเชื่อบุคคลเพิ่มขึ้น 21,608 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.7 โดยเพิ่มขึ้นจากสินเชื่อเช่าซื้อ 14,620 ล้านบาท หรือร้อยละ 28.1 สินเชื่อเคหะเพิ่มขึ้น 6,673 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.6 และสินเชื่ออื่นๆ เพิ่มขึ้น 315 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 0.7 ในขณะที่สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น 1,426 ล้านบาท หรือร้อยละ
ประกอบกับการเติบโตของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ที่เติบโตขึ้น 28% จากปีที่แล้ว โดยธุรกิจการจัดการกองทุนรวมเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ผลักดันการเติบโตของรายได้ในส่วนนี้ขณะที่ธนาคารไทยพาณิชย์ยังคงเป็นผู้นำด้วยส่วนแบ่งตลาด 21% ซึ่งปัจจุบันรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยนั้นเป็นสัดส่วนถึง 36% ของรายได้รวม ซึ่งนับว่าสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาของธนาคาร
ประการต่อมาธนาคารได้จัดการบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Gross NPL) อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถลดสัดส่วนลงมาอยู่ที่ระดับ 7.5% ถือเป็นการการตอกย้ำถึง ทิศทางการบริหารจัดการ NPL ที่ถูกต้อง ทั้งการควบคุม NPL ใหม่ให้อยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้ ผนวกกับการบริหารกับ NPL เดิมได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ธนาคารมีสินเชื่อด้อยคุณภาพสุทธิจากค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพทั้งหมดตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด (net NPLs) ณ วันที่ 30 กันยายน 2550 จำนวนทั้งสิ้น 25,775 ล้านบาทหรือร้อยละ 3.6 ลดลง 1,326 ล้านบาทจากจำนวน 27,101 ล้านบาทจากงวดที่ผ่านมา
เหล่านี้บ่งบอกว่า SCB เป็นธนาคารที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง เพียบพร้อมทุกด้านในการแข่งขัน และเหนือชั้นคู่แข่งอย่างชัดเจน
ข่าวหุ้น