บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส
          คงคำแนะนำ ซื้อ หากราคาหุ้นปรับตัวลงเพราะข่าวผลการดำเนินงาน 3Q50 ไม่สดใสก็เป็นจังหวะทยอยสะสม เพื่อการลงทุนในปี 51 ที่คาดว่าอัตราการเติบโตของกำไรปกติเป็น 17% y-o-y ตามการฟื้นตัวของรายได้และสัดส่วนค่าใช้จ่ายเทียบกับรายได้ที่ลดต่ำลง ราคาปิดมีส่วนเพิ่มจากราคาพื้นฐานซึ่งคำนวณจาก P/E ปี 51 ที่ 7.0 เท่า อยู่ 15%ผนวกกับคาดการณ์อัตราผลตอบแทนเงินปันผลงวดปี 51 อีก 5.8%
          บล.เกียรตินาคิน
          บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการต่อเนื่องใน 4Q50 จำนวน 1 โครงการ คือ โครงการชวนชื่นประชาอุทิศ และมี แผนเปิดตัวโครงการในปี 50 ประมาณ 3 โครงการมูลค่าโดยรวม 2,000 ล้านบาท บริษัทคาดแนวโน้มหลังการเลือกตั้งมีโอกาสที่แรงซื้อจะกลับมาโดยมีแผนเปิดตัวโครงการในปี 51 ประมาณ 3 โครงการ มูลค่าโดยรวม ประมาณ 2,000ล้านบาท นอกจากนั้นบริษัทยังมีสินค้าพร้อมขาย 5,363 ล้านบาท จาก16 โครงการที่อยู่ในมือ ซึ่งผู้บริหารยอดขายมีแนวโน้มเติบโต
          บล.ฟินันซา

          ที่ผ่านมาหุ้น MK ไม่ค่อยได้รับความสนใจ เพราะไม่ตื่นเต้น ทั้งปัจจัยพื้นฐาน (4ปีที่ผ่านมาทั้งรายได้และกำไรปกติทรงตัวที่ระดับ~ 2 พันลบ. และ 400 ลบ. ตามลำดับ)และสภาพคล่อง (เทรดเฉลี่ยวันละ 3 ล้านหุ้น โดยมี Mkt Cap 2.2 พันลบ. คิดเป็นเพียง1% ของกลุ่ม Residential) ราคาหุ้นจึงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ (เช่น H/L ของปีนี้อยู่ที่ 2.86/2.34 หรือ swing แค่ 22% แต่เพื่อนๆ >50%) แต่ทิศทางกำลังจะเปลี่ยน
          บล.ยูไนเต็ด
          เราประมาณการกำไร 3Q50 ที่ 50 ล้านบาท (EPS 0.0.06 บาท/หุ้น) ลดลง 40%YoY รวมทั้งปรับลดประมาณการณ์กำไรปกติทั้งปี 50 ลงเหลือ 297 ล้านบาท (EPS0.34 บาท/หุ้น) (และเมื่อรวมกำไรจากการบันทึกการปรับโครงสร้างหนี้ 45 ล้าบาท คาดว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิทั้งปีที่ 342 ล้านบาท ) สำหรับแนวโน้มในไตรมาส 4 และต้นปีหน้าเรามองว่ายอดขายจะกลับมาปรับตัวดีขึ้นจากความเชื่อมั่น และอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งจะส่งผลดีต่อบรัษัทในอนาคต
          บริษัทหลักทรัพย์ ซื้อ ขาย ถือ ราคา/บาทบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส / - - 2.92บล.เกียรตินาคิน / - - 2.76บล.ฟินันซา / - - 3.03บล.ยูไนเต็ด / - - 2.80

ข่าวหุ้น