May 6, 2024   6:05:21 PM ICT
ซื้อออปชั่น?เตรียมรับค่าเสื่อมมูลค่า

นายปริทรรศน์  เหลืองอุทัย กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน( บลจ.) เอสซีบี ควอนท์ จำกัด กล่าวว่า ความเสี่ยงของการซื้อหรือ Call options เป็นสัญญาที่ค่าใช้จ่ายเป็นค่าพรีเมียมในการซื้อสิทธิ
ซึ่งการมีสินทรัพย์เข้ามาในออปชั่น เรียกว่า สินทรัพย์เสื่อมมูลค่า ซึ่งจะต้องมองว่าการจ่ายค่าสัญญาระหว่างทางหากมีกำไรสามารถขายออกได้ แต่ถ้าขาดทุนก็ต้องถือไว้จนครบอายุสัญญา
 ทั้งนี้การเสียค่าเสื่อมสินทรัพย์ในออปชั่นจะมีวันเสื่อมค่าลงทุกวัน ซึ่งราคาเฉลี่ยจะตกวันละ 80 บาทต่อ 1 สัญญา เหมือนกับการเสียค่าประกันชีวิต สำหรับฝั่งคนที่ขายหรือ Put Options จะมีรายได้เข้ามาทุกวันประมาณ 80 บาทต่อวัน แต่ฝั่งคนขายนั้นจะถือเป็นภาระผูกพัน เมื่อฝั่งซื้อใช้สิทธิเหมือนกับการเคลมประกัน
 สำหรับการคำนวณราคาของออปชั่นในสมัยก่อนไม่มีสูตรในการคำนวณหามาตราออกมา จะให้ความรู้สึกมาเป็นตัวกำหนด หลังจากนั้นจึงได้มีการพิสูจน์มาตราฐานการคำนวณราคาออกมา คือ 25 คูณ
โอกาสความนาจะเป็นที่ออปชั่นจะได้กำไรเมื่อวันหมดอายุ เช่น ดัชนีตลาด 580 จุด ซื้อสิทธิ 590 จุด โอกาสที่จะกำไรหรือขาดทุน คือ 50% แล้วนำไปคูณกับ 589 หาร 200
 การคำนวณหากค่าที่แท้จริงของราคาจะต้องได้มากกว่าค่าเสื่อมราคาให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะขาดทุน เช่นคำนวณได้กำไร 1,200 บาท ยังต้องหักค่าเสื่อมออกกี่วันก็นำ 80 ไปคูณจึงจะได้กำไรที่แท้จริง
 การมองตลาดพื้นฐานทุกตราสารจะเป็นการซื้อขายหุ้นฟิวเจอร์สเป็นลักษณะไม่เหมือนกัน ซึ่งในออปชั่นทุกครั้งที่มีการเก็งกำไรจะดู 2 สิ่ง ได้แก่ ฝั่งซื้อมองตลาดขาขึ้น และหุ้นขึ้นพร้อมกับตลาดที่ผันผวน เช่น
ช่วงนี้มีข่าวซับไพร์มสามารถเก็งกำไรช่วงตลาดผันผวนได้ โดยคาดหวังว่าจะผันผวนเกินค่าเสื่อม
 นอกจากนี้ยังต้องคำนึงว่าออปชั่นเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าเสื่อมและมีวันหมดอายุ การเก็งกำไรในออปชั่นจะต้องลุ้นให้ตลาดเกิดความผันผวนเพื่อเปิดด้าน Call หรือ Put ให้ตลาดลงมาพอที่จะจ่ายค่าเสื่อมได้ทุกวันที่ระยะเวลาที่เหลืออยู่ ซึ่งออปชั่นมีความซับซ้อนต้องมองถึงวัตถุประสงค์หลัก โดยการซื้อขายหุ้นไม่สามารถเก็งกำไรจากความผันผวนได้ แต่ออปชั่นสามารถทำได้
 อย่างไรก็ตามการใช้ออปชั่นให้เกิดประโยชน์ ในช่วงที่เราอาจจะอยากพักพอร์ตชั่วคราวจะสามารถทำหน้าที่ได้ดี เช่นหากต้องการพักพอร์ตไว้ในช่วงที่เป็นวันหยุดยาว ก็ไปทำประกันช่วง ธ.ค.ม.ค.  ในออปชั่น เมื่อประกันหมดก็กลับมาลงทุนใหม่ ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารพอร์ตของตัวเองได้ดีขึ้นเพื่อกำจัดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้
     สรุปก็คือการมีออปชั่นเข้ามาในตลาดถือเป็นการเพิ่มเครื่องมือ ในการบริหารให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น
ซึ่งนักลงทุนสถาบันมีการประยุกต์ใช้ในช่วงที่ตลาดอยู่ในภาวะขาขึ้นและขาลง ซึ่งอยู่ที่มุมมองของตลาด หากมองว่าหุ้นจะขึ้นแรงก็ซื้อฟิวเจอร์ส ถ้าจะลงแรงก็ขายฟิวเจอร์ส
     ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมามีการซื้อขายสัญญาอนุพันธ์และออปชั่นเป็นจำนวนทั้งสิ้น 1.2 หมื่นล้านสัญญาทั่วโลก ซึ่งการซื้อขายออปชั่นมีสัดส่วน 55-60% ของการซื้อขายทั้งหมด ในตลาดต่างประเทศนับว่าออปชั่นเป็นสัญญาที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่ง ทั้งนี้ออปชั่นเป็นตัวทดแทนฟิวเจอร์สมีความเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
และเป็นเครื่องมือสมัยใหม่ที่ทำให้ตลาดมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
     ซึ่งหุ้นมีความสามารถในการทำกำไรเฉลี่ย 1-2 เท่า ในฟิวเจอร์ส 10 เท่า และออปชั่นไม่ต่ำกว่า 10-15 เท่า ทำให้มีการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารมากขึ้น

ทันหุ้น

เข้าชม: 1,887

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com