ผู้ถือหุ้นรายใหญ่1. LONDON 8 LIMITED 40,403,986 หุ้น 46.865%2. บริษัท ธงชัย เอเซีย จำกัด 26,814,440 หุ้น 31.10%3. บริษัท มิดเดิ้ล วิลเลจ จำกัด 13,977,746 หุ้น 16.21%4. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 1,351,425 หุ้น 1.57%5. MR.DOUGLAS WILTSHIRE CLAYTON 660,000 หุ้น 0.77%คณะกรรมการ1. นายทิมโมธี อลัน แมคคินเลย์ ประธานคณะกรรมการ 2. นายโจเซฟ สุเชาว์วณิชประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 3. นางสาวใจทิพย์ กาญจนภู กรรมการ 4. นายแซมัวล์ อองกรรมการ 5. นายเคิร์ดจอง ทอมาเซ่น กรรมการ
หากเอ่ยถึงหุ้น RANCH หรือบริษัท บางกอกแร้นช์ จำกัด (มหาชน) สำหรับนักลงทุนรายย่อยคงจะไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเท่าใดนัก เพราะการเป็นหุ้นที่ขาดสภาพคล่อง แถมนักวิเคราะห์ไม่สนใจที่จะกล่าวถึง จึงเป็นเหตุให้ RANCH ถูกลืมไปในบางครั้ง
แต่หากช่วงไหนที่มีเรื่องราวโดดเด่น น่าสนใจ หุ้นตัวนี้ก็จะกลับมาวูบวาบในตลาดบ้างชั่วครั้งชั่วคราว และไม่ได้อยู่ในความสนใจของผู้คนทั่วไปอยู่ดี เพราะการที่จำนวนหุ้นกระจายอยู่ในท้องตลาดน้อยมาก จนยากจะหาซื้อได้ และก็ไม่ง่ายนักที่จะขายออก
ดังนั้นความน่าสนใจของบริษัทแห่งนี้ จึงมีน้อยมากต่อสายตาของนักลงทุน เพราะไม่ว่าบริษัทสามารถทำกำไรได้โดดเด่น หรือปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับนักลงทุน และยิ่งในไตรมาสสอง (สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2550) ที่ปรากฏผลการดำเนินงานลดลงกว่า 60% จากช่วงปีก่อน ยิ่งทำให้ราคาหุ้นตัวนี้ไม่มีสัญญาณตอบรับเรื่องดังกล่าวแม้แต่น้อย
โดยในงวดนี้บริษัททำกำไรสุทธิได้เพียง 51 ล้านบาท หรือ 0.598 บาทต่อหุ้นลดลง 60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน127 ล้านบาท หรือ 1.486 บาทต่อหุ้น แสดงให้เห็นว่าบริษัทขาดประสิทธิภาพในการบริหารอย่างชัดเจน
เนื่องจากตัวเลขกำไรสุทธิที่ปรับตัวลดลงเป็นผลมาจากการบริหารต้นทุนที่ด้อยคุณภาพจนส่งผลให้ต้นทุนบายปลายถึง 898 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 772 ล้านบาท จากผลกระทบราคาวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์รวมทั้งค่าโสหุ้ยการผลิตต่างๆเพิ่มขึ้น
ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 5.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8.7%จากปีก่อน และเมื่อคิดเป็นสัดส่วนต่อยอดขายเพิ่มขึ้น เล็กน้อยจาก 6.7%เป็น 6.9% นอกจากนั้นบริษัทได้ตั้งสำรองค่าภาษีเงินได้นิติบุคคลที่อาจจะต้องชำระสำหรับปีนี้ด้วย
ส่วนยอดขายแม้จะปรับตัว เพิ่มขึ้น 64.0 ล้านบาท หรือ 6.7% มาอยู่ที่ระดับ 1,026.6 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงปีก่อน 962 ล้านบาท โดยยอดขายต่างประเทศ เพิ่มขึ้น 18.7% ส่วนยอดขายผลิตภัณฑ์เป็ดสดในประเทศลดลงเล็กน้อย1.4% ยอดขายอาหารสัตว์เพิ่มขึ้น 12.7 % และยอดขายลูกเป็ด ยา และวัคซีนต่าง ๆ มียอดใกล้เคียงกับปีที่แล้ว แต่ดังกล่าวถือว่าปรับตัวขึ้นในระดับที่ต่ำกว่าต้นทุนส่งผลให้กำไรสุทธิปรับตัวลดลงในที่สุด
เมื่อวิเคราะห์สภาพคล่องในการดำเนินงานถือว่าคล่องตัวดี เพราะบริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียนมากถึง 936 ล้านบาท และหนี้สินหมุนเวียนเพียง 715 ล้านบาท ส่งผลให้ค่าCurrent Ratio เท่ากับ 1.31 เท่า ถือว่าบริษัทมีเงินหมุนเวียนไว้จับจ่ายใช้สอยได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมทั้งเพียงพอต่อการจ่ายคืนหนี้สินที่มีอยู่ได้อย่างไม่มีปัญหา
ที่สำคัญเมื่อย้อนกลับมาดูโครงสร้างการเงินต้องยอมรับเลยว่าแข็งแกร่งเกินบรรยายจากการนำส่วนของผู้ถือหุ้นที่ระดับ 1,625 ล้านบาท มาเทียบกับภาระหนี้สิน 928 ล้านบาทแล้วได้ค่า D/E ที่ระดับ 0.57 เท่า เป็นการตอกย้ำว่า บริษัทไร้อุปสรรคเข้ามากระทบกระเทือนผลการดำเนินงานอย่างสิ้นเชิง
เหล่านี้แสดงให้เห็นว่า RANCH เป็นบริษัทที่ไม่ค่อยมีปัญหาในการดำเนินงาน เพราะไม่ว่าจะเป็นฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง สภาพคล่องตัวดี ล้วนเป็นตัวขับเคลื่อนให้บริษัทเดินหน้าได้ดีทั้งสิ้น น่าเสียดายที่ความโดดเด่นเช่นนี้ไม่มีความหมายกับนักลงทุน จนกลายเป็นหุ้นที่ถูกลืมของหลายๆ คนไปในที่สุด
ข่าวหุ้น |
