บล.บัวหลวงเราคาดว่ากำไรในครึ่งปีหลังจะอ่อนตัวลงเนื่องจากสูญเสียรายได้จากการปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า REGCO และค่าความพร้อมจ่าย (AP) ที่ลดลงของโรงไฟฟ้า BLCP แต่ในปีหน้ากำไรจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากการเริ่มเปิดดำเนินงานในหน่วยที่ 2 ของโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2ในเดือนมีนาคมและการดำเนินการผลิตแบบเต็มกำลังของโรงไฟฟ้า BLCP ทั้ง 2 หน่วย
          บล.กรุงศรอยุธยาAYS ประเมินพื้นที่ จ. นครศรีธรรมราช มีความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน เนื่องจากกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ภาคใต้ไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ (ต้องพึ่งพากระแสไฟฟ้าจากภาคกลางและการซื้อไฟจากมาเลเซีย) และไม่มีคู่แข่งที่ยื่นประมูลที่ภาคใต้ รวมทั้งอยู่ใกล้ท่อส่งก๊าซฯและมีสายส่งรองรับ แต่การยื่นประมูลขนาด 400 เมกะวัตต์ คาดจะทำให้เงินลงทุน/เมกะวัตต์สูง และอาจมีผลต่อความได้เปรียบเชิงแข่งขันของอัตราค่าไฟฟ้า
          บล.ทรีนีตี้คาดว่าจะมีการปันผลระหว่างกาลประมาณ 2บาทต่อหุ้น นอกจากนี้มีโอกาสที่ปีนี้ครึ่งปีหลังจะจ่ายปันผลได้อีกประมาณ 2.00-2.50 บาท เนื่องจากเป็นปีที่มีการเติบโตของกำไรในระดับสูง แต่เราไม่ต้องการให้นักลงทุนคาดหวังมากนักกับผลตอบแทนจากการประมูล IPP เฟส 2นี้ เนื่องจากเมื่อเทียบกันแล้ว IRR ของโครงการนี้คาดว่าต่ำกว่า BLCP และแก่งคอย 2เราต้องการให้นักลงทุนคำนึงถึงมูลค่าของการลงทุน BLCP และแก่งคอย 2 มากกว่า
          บล.สินเอเชียโดยในปี 50 จะได้รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีสัดส่วน 50% ของกำลังการผลิต1.4 พันเมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 สัดส่วน 50% จากกำลังการผลิต1.4 เมกะวัตต์ โดยรับรู้ Phase 1 แล้วจำนวน 700 เมกะวัตต์ในเดือนพค.50 ที่ผ่านมา และรับรู้Phase 2 อีก700 เมกะวัตต์ประมาณ มีค.51 และในปี 53 จะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2 สัดส่วน 25%ของกำลังการผลิตรวม 920 เมกะวัตต
          บริษัทหลักทรัพย์ ซื้อ ถือ ขาย ราคา/บาทบล.บัวหลวง - / - 109.00บล.กรุงศรอยุธยา / - - 131.00บล.ทรีนีตี้ / - - 136.00บล.สินเอเชีย - / - 120.00

ข่าวหุ้น