โดย วรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการ บลจ. บัวหลวง จำกัด

สวัสดีค่ะ วันนี้ท่านผู้อ่านของเซคชั่น Fundamentals ชื่อคุณภารดา อายุ 37 ปี ถามมาว่า " …..มีเงินเก็บประมาณ 550,000 บาท เป็นเงินเย็นลงทุนได้ตลอดชีวิต อยากได้ผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า 5% ต่อปี..

ข้อมูลเพิ่มเติม เงินเดือนประมาณ 50,000 บาท ไม่ชอบความเสี่ยงมากนัก แต่คิดว่ารับความเสี่ยงได้พอสมควร เคยมีประสบการณ์ลงทุนผ่านกองทุน RMF มาแล้ว แต่ไม่แน่ใจเรื่องความเหมาะสมของพอร์ต ว่าควรจะขยับขยายไปลงทุนอะไรอีก…"

ดิฉันอยากจะบอกคุณภารดาซึ่งมีอายุแค่ 37 ปี ว่ามีความสามารถเก็บเงินก้อนที่ไม่ต้องใช้จนเกษียณได้ถึง 550,000 บาทแล้ว ต้องขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ เงินก้อนจำนวนนี้หากนำไปลงทุนจนคุณ ภารดาอายุ 60 ปี เท่ากับมีระยะเวลาลงทุนอีก 23 ปี หากผลตอบแทนเท่ากับ 5% ต่อปี โดยเฉลี่ย เมื่ออายุ 60 ปี จำนวนเงินต้น 550,000 บาทนี้จะกลายเป็น 1,689,338 บาท

แต่สมมติว่าในแต่ละเดือนคุณภารดาสามารถเก็บเงินได้ทุกเดือน เดือนละ 10% ของเงินเดือน เท่ากับ 5,000 บาทต่อเดือน และนำไปลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ 5% เช่นกัน พอเกษียณแล้วจำนวนเงินที่ลงทุนจะกลายเป็น 4,270,126 บาท

ลงทุนอะไรสำหรับเงินเย็นแบบนี้ที่จะได้ผลตอบแทนประมาณ 5% ต่อปี ?

หากพิจารณาผลตอบแทนที่ต้องการแล้วต้องบอกว่าคุณภารดา สามารถใช้ทางเลือกที่มีความปลอดภัยสูงสำหรับเงินส่วนใหญ่ได้ โดยรับความเสี่ยงที่สูงขึ้นสำหรับเงินส่วนน้อยเพื่อผลตอบแทนที่มากขึ้น

ตัวอย่างการจัดพอร์ตการลงทุนง่ายๆ คือส่วนแรก 60% ของเงินเก็บ ให้เอาไปลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนประมาณ 2.90% ต่อปี (หากพันธบัตรออมทรัพย์มีขายรายย่อยเมื่อใด และให้ดอกเบี้ยสุทธิหลังภาษีจากดอกเบี้ย 15% แล้วได้ผลลัพธ์สูงกว่าผลตอบแทนคาดหวังของกองทุน เราก็ควรไปซื้อพันธบัตรมากกว่าไปซื้อกองทุน เพราะผลตอบแทนสุทธิดีกว่า สำหรับล็อตหน้านี้จะมีพันธบัตรออมทรัพย์ ปีงบประมาณ 2550 ขายให้รายย่อยที่ธนาคารกรุงเทพ 15 ถึง 24 ส.ค. อัตราดอกเบี้ยเป็นเท่าไรคงกำหนดได้วันที่ 10 ส.ค. ลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท ขั้นสูงไม่เกิน 500,000 บาทต่อราย ต้องคอยตามดูค่ะ)

ส่วนที่สอง 30% ให้เอาไปลงทุนในกองทุนหุ้นโดยแบ่งครึ่งหนึ่งเป็นหุ้นในประเทศ และอีกครึ่งหนึ่งเป็นหุ้นในต่างประเทศ ทั้งนี้คาดหวังว่าการลงทุนในหุ้นผ่านกองทุนหุ้น จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยขั้นต่ำ 10% ต่อปี บางปีอาจน้อยกว่า บางทีอาจมากกว่า บางปีอาจขาดทุน แต่ให้เป็นการลงทุนระยะยาว เพื่อหวังผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีตามเป้าหมาย

ส่วนสุดท้าย 10% อาจนำไปซื้อกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นกองทุนที่เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ (ไม่ใช่สิทธิการเช่า) กองทุนพวกนี้ให้ผลตอบแทนประมาณปีละ 6-7% โดยเฉลี่ย มีความเสี่ยงปานกลางค่อนไปทางสูง ขึ้นอยู่กับว่าอสังหาริมทรัพย์นั้นมีผู้เช่าเต็มที่แค่ไหน เพราะรายได้กองทุนอยู่ที่ค่าเช่านี้ แต่อย่างไรก็ตาม ทรัพย์สินคืออสังหาริมทรัพย์นั้นก็ตกเป็นของกองทุน ยังมีลุ้นกำไรจากการทวีค่าของอสังหาริมทรัพย์ตามราคาตลาดด้วย

การผสมผสานทั้งสามส่วนนี้หากผลตอบแทนคาดการณ์เป็นไปตามขั้นต่ำที่ระบุ เฉลี่ยต่อปีแล้วพอร์ตการลงทุนของคุณ ภารดา จะให้ผลตอบแทนที่ 5.40% ต่อปี และมีความเสี่ยงโดยรวมในระยะยาว ในระดับปานกลางค่อนข้างต่ำค่ะ ที่สำคัญคือเราต้องรู้จักลงทุนให้หลากหลาย และรู้จักกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงพร้อมๆ กับเพิ่มโอกาสในการให้เงินทำงานด้วยตัวของมันเองผ่านการลงทุนที่เหมาะสมค่ะ

หมายเหตุ : ถ้าสนใจจะให้คุณวรวรรณ ธาราภูมิจัดพอร์ตให้ ส่งรายละเอียดของคุณมาได้ที่อีเมล fund@nationgroup.com