May 18, 2024   4:40:41 PM ICT
ไทยออยล์ รอดหวุดหวิดจัดสรรอุปการคุณ
 ภายหลังจากนายปิติ ยิ้มประเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท ไทยออยล์ จำกัด(มหาชน)หรือ TOP ระบุถึงการจัดสรรหุ้นเพิ่ม 900 ล้านหุ้นโดยให้นักลงทุนในประเทศรวม 444068995 หุ้น คือ ผู้ถือหุ้นรายย่อย 60 ล้านหุ้น นักลงทุนสถาบัน 120 ล้านหุ้นบุคคลทั่วไป 106.13 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการคุณ 66 ล้านหุ้น ผู้ถือหุ้นบริษัท ไทยลู้บเบส จำกัด(มหาชน)41.62 ล้านหุ้น และบริษัท ไทยพาราไซลีน จำกัด 50.30 ล้านหุ้น

     ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศได้ 456031527 หุ้นแบ่งเป็นนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ 346.139 ล้านหุ้น ผู้ถือหุ้นของ MAURITIUS THAIOIL CHC จำนวน 85.58 ล้านหุ้นผู้ถือหุ้นบริษัท ไทยลู้บเบส จำกัด 18.59 ล้านหุ้นและผู้ถือหุ้นบริษัท ไทยพาราไซลีน จำนวน 5.719 ล้านหุ้น

     ทั้งนี้ประเด็นสำคัญ คือหุ้นผู้มีอุปการคุณ 66 ล้านหุ้น หรือประมาณ 7.3 เปอร์เซ็นต์ถูกจับตาว่าสามารถจัดสรรได้หรือไม่นั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่เฉียดฉิวต่อการผิดเกณฑ์การกระจายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป กล่าวคือ ไทยออยล์ฯ มีผู้ถือหุ้นใหญ่คือปตท.ประมาณ 49.99เปอร์เซ็นต์ จึงหมิ่นเหม่ต่อการเป็นหุ้นรัฐวิสาหกิจ ที่มติครม.ระบุไว้ชัดว่าห้ามจัดสรรหุ้นให้กับผู้มีอุปการคุณแต่หากเป็นบริษัทเอกชนทั่วไปสามารถทำได้ ซึ่งกรณีไทยออยล์ ต้องยอมรับพ้นจากการเข้าข่ายการเป็นหุ้นรัฐวิสาหกิจ เพราะปตท.ถืออหุ้นต่ำกว่า 50 เปอร์เซ็นต์

     อย่างไรก็ตามสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(กลต.) ได้ออกหนังสือที่กลต.จ.(ว) 7/2547 เรื่องแนวทางการจัดสรรหุ้นไอพีโอ โดยกำหนดเรื่องการจัดสรรหุ้นให้กับผู้มีอุปการคุณ ต้องระบุลักษณะของการมีอุปการคุณ ให้ชัดเจนในหนังสือชี้ชวน เช่นลูกค้าที่ซื้อสินค้า ผู้จำหน่ายวัถุดิบ ลูกค้าผู้ฝากเงิน ลูกค้าผู้กู้เงิน พนักงานบริษัทในเครือกิจการที่เข้าร่วมทำธุรกิจ เป็นต้น ที่สำคัญจะต้องรายงานรายชื่อผู้ที่ได้รับการจัดสรรหุ้นสูงสุด20 อันดับแรกต่อกลต.ด้วย

     ทั้งนี้บริษัทกำหนดขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก(IPO)จำนวน 900ล้านหุ้น เป็นหุ้นสามัญเดิม 810 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 90 ล้านหุ้น ช่วงราคาเสนอขาย 27-32 บาทต่อหุ้นคาดว่าจะเปิดให้จองซื้อผ่านตัวแทนจำหน่าย 2 ราย ประกอบด้วยธนาคารกสิกรไทย และธนาคารทหารไทย วันที่ 7-8 ต.ค.47 และเชื่อว่าจะเปิดซื้อขายประมาณวันที่ 26 ต.ค.47

     โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์ฟินันซ่า และบริษัทหลักทรัพย์ ภัทรเป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายและผู้ซื้อหุ้นเบื้องต้นในต่างประเทศ โดยนักลงทุนที่ซื้อหุ้น TOP จะได้รับเงินปันผลงวดไตรมาส 4 หลังบริษัทจะนำกระแสเงินสด มาจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุน

     สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้ในการลงทุน ช่วง 2-3 ปีจำนวน 322 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งเป็นขยายกำลังการกลั่นโดยการขยายหน่วยกลั่นน้ำมันดิบ 3 อีก 50000 บาร์เรลต่อวันเป็น 270000 บาร์เรลต่อวัน 100 ล้านเหรียญสหรัฐคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จไตรมาส 4 ปี 2549

     นอกจากนั้นจะนำไปปรับปรุง บริษัท ไทยพาราไซลีน จำนวน 46 ล้านเหรียญสหรัฐและขยายท่าเรือจำนวน 150 ล้านเหรียญสหรัฐประกอบกับจะนำไปลงทุนในบริษัทในเครือประมาณ 150-170 ล้านเหรียญ ส่วนที่เหลือจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและมีแผนซื้อเรือบรรทุกน้ำมันเก่า (VLCC) ประมาณ 2-3 ลำ จำนวน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา www.kaohoon.com

เข้าชม: 1,368

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com