ตลาดหลักทรัพย์ ตั้งเป้าปีหน้าบริษัทแห่เข้าจดทะเบียนทั้ง 2 ตลาด 90-100 บริษัท เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่คาดหวังว่าจะมีบริษัทเข้าจดทะเบียน 50 แห่ง สาเหตุเพราะมีบริษัทอยู่ระหว่างเตรียมการจ่อคิวเข้าจดทะเบียน และผลจากการปรับปรุงเกณฑ์รับหุ้น หนุนให้บริษัทขนาดเล็กเข้ามาระดมทุนมากขึ้น

นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย ประธานศูนย์ระดมทุนและตลาดหลักทรัพย์ใหม่ กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ตั้งเป้าหมายว่าในปี 2548 จะมีบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ใหม่ (เอ็มเอไอ) ประมาณ 90-100 บริษัท โดยจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ประมาณ 50-60 บริษัท และเข้าตลาดเอ็มเอไอ 30-40 บริษัท ซึ่งเป็นจำนวนที่มากขึ้นเมื่อเทียบกับปีนี้ ซึ่งขณะนี้มีบริษัทเข้าทั้ง 2 ตลาดแล้ว 31 บริษัท

สาเหตุที่ตั้งเป้าหมายว่าจะมีจำนวนบริษัทเข้าจดทะเบียนมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีบริษัทจำนวนมากที่อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม ขณะเดียวกันการที่ปรับปรุงเกณฑ์รับหลักทรัพย์ใหม่ ได้ลดทุนจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอลง จากเดิมกำหนดให้บริษัทที่จะเข้าตลาดเอ็มเอไอ ต้องมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 40-200 ล้านบาท แต่เกณฑ์ใหม่ปรับลงเป็น 20-300 ล้านบาท ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ประมาณต้นปีหน้า มีผลทำให้บริษัทขนาดเล็กหันมาระดมทุนกันมากขึ้น

มั่นใจว่าปีนี้จะมีบริษัทจดทะเบียนเข้าตามเป้าหมายไว้ประมาณ 50 บริษัทเพราะขณะนี้มีบริษัทที่อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมจำนวนมาก ดังนั้นเชื่อว่าสิ้นปีจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ รวมทั้งมีโอกาสจะเพิ่มขึ้นไปถึงปีหน้าด้วย ประธานศูนย์ระดมทุนกล่าว เมื่อมีบริษัทเข้าจดทะเบียนจำนวนมาก จะทำให้มูลค่าตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) เพิ่มขึ้น และมีบริษัทขนาดใหญ่อย่างไทยออยล์ และอสมท เข้าตลาด ส่งผลให้มาร์เก็ตแคป แต่ละกลุ่มเพิ่มขึ้นด้วย

เธอยังกล่าวด้วยว่า สำหรับเรื่องความคืบหน้าในการแต่งตั้งผู้จัดการตลาดเอ็มเอไอ พบว่า ขณะนี้สามารถคัดเลือกแล้ว โดยคาดว่าจะมีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ และเข้ามาบริหารงานประมาณเดือน พ.ย.นี้

นางสาวโสภาวดี กล่าวว่า กรณีของใบแสดงสิทธิอนุพันธ์ของธนาคารนครหลวงไทย ชุดที่ 1 (SCIB-C1)ขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์อยู่ระหว่างการขอข้อมูลการซื้อขายจากบริษัทสมาชิกอีกครั้ง เนื่องจากสำนักงาน ก.ล.ต.ร้องขอมา

แต่การขอข้อมูลในครั้งนี้จะไม่มีการตรวจสอบรอบที่ 3 เนื่องจากตลาดได้ตรวจสอบและสรุปผลไปเรียบร้อยแล้ว

ด้าน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า การที่ตลาดหลักทรัพย์ ตลาดเอ็มเอไอ จับมือสภาอุตสาหกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา บริษัทหลักทรัพย์จัดการเงินลงทุนร่วมลงทุน วีเน็ท และบริษัทไพร้ซ วอเตอร์เฮาส์ คูเปอร์ส เอฟเอเอส รวม 6 หน่วยงานได้ จับมือเพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจไทยมีคุณภาพ และเข้าถึงแหล่งเงินทุนทั้งในระยะสั้นและระยะยาวมากขึ้น

ที่ผ่านมาได้มีการจับมือกับแบงก์กรุงเทพฯ แล้ว ก็มีลูกค้าของแบงก์เตรียมแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์และตลาดเอ็มเอไอ ถ้ามีการจับมือกับแบงก์อื่นๆ ก็จะทำให้มีลูกค้าเข้าตลาดมากขึ้น นายกิตติรัตน์ กล่าว

ด้านนายประพัฒน์ โพธิวรคุณ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ความร่วมมือกันในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่มขนาดกลางขึ้นไป ที่มีศักยภาพในภูมิภาคต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมพื้นฐาน อุตสาหกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์เกษตร และเชื่อว่าการจับมือครั้งนี้จะทำให้มีบริษัทจะเข้าร่วมในโครงการสนับสนุนและพัฒนาตลาดทุนไทย 200-300 ราย

ที่มา www.bangkokbiznews.com