May 11, 2024   9:00:54 PM ICT
TMB ปัญหารุมเร้า
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่1. กระทรวงการคลัง 2,780,582,427 หุ้น 20.88%2. DBS BANK A/C 003 2,460,078,607 หุ้น 18.48%3. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 656,180,947 หุ้น 4.93%4. N.C.B.TRUST LIMITED-UBS AG LONDON BR-IPB CLIENT AC
          578,630,668 หุ้น 4.35%5. NORBAX INC.,18 527,198,600 หุ้น 3.96%คณะกรรมการ1. นายสมใจนึก เองตระกูล ประธานกรรมการ 2. นายจุลกร สิงหโกวินท์ ประธานกรรมการบริหาร 3. ดร.สุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ 4. พลเอกสนธิ บุญยรัตกลินกรรมการ 5. พลเอกแป้ง มาลากุล ณ อยุธยา กรรมการ
          TMB หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ถือเป็นธนาคารพานิชย์ที่เต็มไปด้วยปัญหามากที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งเห็นด้จากลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา ธนาคารแห่งนี้แทบไม่ผลงานใดที่สร้างโดดเด่นเป็นที่น่าพอใจให้นักลงทุนได้เลยสักครั้ง
          แม้ธนาคารจะพยายามหาช่องทางให้ธุรกิจเดินหน้าไปอย่างราบรื่นเหมือนกับธนาคารแห่งอื่นๆ ด้วยการเร่งเบ่งผลกำไร รวมถึงการปรับเปลี่ยนโครงเงินกองทุน เพื่อหวังสร้างให้ตัวธนาคารมีศักยภาพแข็งแกร่งเทียบเท่ากับธนาคารขนาดใหญ่ของประเทศ แต่ผลลัพธ์ที่สะท้อนออกมากลับไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้แม้แต่น้อย
          เนื่องจากผลการดำเนินงานทรงๆ ทรุดๆ มาโดยตลอด และบางครั้งก็ประสบปัญหาขาดทุนอยางหนัก จนคนในแวดงการเงินมองว่า ธนาคารแห่งนี้แทบไม่มีโอกาสพื้นตัวอีกแล้ว
          ที่สำคัญการปล่อยสินเชื่อที่ไร้ซึ่งประสิทธิภาพนั้น ถือเป็นการบริหารที่ผิดพลาดยิ่งนักสำหรับธุรกิจธนาคาร เพราะผลดังกล่าวเป็นตัวบั่นทอนธุรกิจและเป็นปัญหาเรื้อรังจนยากที่จะแก้ไข จึงเป็นเรื่องยากมากที่จะประคับประคองให้ธุรกิจยืนอยู่อย่างมั่นคง
          ยิ่งผลการดำเนินงานงวด1/50สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2550 ที่ปรากฏมีกำไรสุทธิเพียง 158 ล้านบาทหรือ 0.01 บาทต่อหุ้น ลดลดร้อยละ 92.6 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 2,123 หรือ 0.16 บาทต่อหุ้น แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ของธนาคารยังไม่สู้ดีนัก
          เนื่องจากกำไรสุทธิที่ลดลงยังถูกกดดันจากการตั้งสำรอง IAS39 ประกอบกับประสิทธิภาพในการบริหารงานที่มีค่อนข้างน้อย ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้นย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการขาดทุนจากการประมาณการหนี้สิน ขาดทุนจากการขายสินทรัพย์ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ล้วนกดดันให้กำไรทรุดลงทั้งสิ้น
          ตรงจุดนี้เองที่ทำให้ธนาคารหนีไม่พ้นต้องเพิ่มทุนอย่างต่อเนื่องถึง 3 ครั้ง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ธนาคารมีผลงานโดดเด่นขึ้นมาได้ รวมทั้งในอนาคตข้างหน้าการแข่งขันด้านการเงินจะทวีความรุนแรงขึ้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่ TMB จะเติบโตท่ามกลางปัญหารุมเร้ารอบด้านเหมือนเช่นในตอนนี้
          เหล่านี้คือภาพที่สะท้อนการบริหารงานของธนาคารที่ขาดประสิทธิภาพในการดำเนินงานและขาดปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง จึงต้องแบกรับภาระหนี้สินโดยไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้หรือแม้แต่ผู้ที่ให้การช่วยเหลืออย่างการคลังก็ยังไม่มีความมั่นใจว่าธนาคารแห่งนี้จะกลับมายืนหยัดด้วยขาตัวเองได้
          สถานการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงลงทุนในหุ้นตัวนี้ เพราะไม่ว่าจะมองจากมุมใหนเจอก็มีแต่ปัญหาที่รอให้แก้ไขตลอด อีกทั้งผลประกอบการที่ทรุดๆทรงๆ น่าจะสะท้อนถึงปัญหาที่ยากจะแก้ไขได้ใน 1-2 ปี
          ฉะนั้นอย่าได้หวังว่า TMB จะเป็นหุ้นที่ควรค่าแก่การลงทุน หากแนวทางการทำธุรกิจยังยึดติดรูปแบบเดิมๆ ในอดีต
ข่าวหุ้น
/
เข้าชม: 1,115

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com