April 28, 2024   8:10:32 PM ICT
กองทุนตราสารหนี้ระยะไหน แจ่มใสช่วงดอกเบี้ยลง

แม้จะยังไม่แน่ชัดว่า ทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่กำลังอยู่ในช่วง "ขาลง"นั้น จะขยับตัวลงมากน้อยขนาดไหน ซึ่งคงต้องขึ้นกับธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นสำคัญ แต่ในช่วงที่แนวโน้มดอกเบี้ยเป็นขาลงเช่นนี้ การลงทุนในตราสารหนี้ควรจะลงทุนในตราสารหนี้อายุเท่าไร ถึงจะเหมาะสมกับสภาพการณ์เช่นนี้ นั่นเป็นคำถามที่นักลงทุนหลายคนอยากรู้

ซึ่งการลงทุนในตราสารหนี้อายุเท่าไรนั้น คงไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ขึ้นกับมุมมองของแต่ละคนมากกว่า แต่ด้วยข้อจำกัดหรือเครื่องมือที่มีอยู่ในปัจจุบัน สำหรับกองทุนตราสารหนี้ที่มีเสนอขายส่วนใหญ่ในปัจจุบันนั้น จะเป็นกองทุนตราสารหนี้ที่มีอายุแน่นอน 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี แบบโรลโอเวอร์ลงทุนต่อไปเมื่อครบอายุเรื่อยๆ แม้ว่าผู้ลงทุนจะทราบว่าจะต้องเพิ่มอายุของตราสารหนี้ที่ลงทุนให้มีระยะยาวขึ้นก็ตาม

เกี่ยวกับเรื่องนี้ "ดารบุษป์ ปภาพจน์" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.พรีมาเวสท์ บอกว่า การลงทุนในตราสารหนี้ช่วงที่แนวโน้มดอกเบี้ยเป็นขาลงนั้น จริงๆ แล้วควรจะมีการเพิ่มอายุของตราสารหนี้ที่ลงทุนให้ยาวขึ้น เพื่อที่จะได้ประโยชน์เมื่อดอกเบี้ยปรับตัวลง ก็จะทำให้มูลค่าของตราสารหนี้ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากส่วนต่างมูลค่าเงินลงทุน(Capital Gain)นอกเหนือไปจากผลตอบแทนจากดอกเบี้ย

แม้ตามทฤษฎีควรจะเป็นไปในลักษณะนั้น แต่ความจริงที่ปรากฏสำหรับนักลงทุนไทยก็ยังคงพอใจที่จะลงทุนในอะไรที่สั้น และได้ผลตอบแทนที่ดี หากต้องลงทุนในอะไรที่ยาว ก็ไม่ค่อยสนใจ เมื่อความต้องการของนักลงทุนส่วนใหญ่เป็นลักษณะนี้ ก็เป็นเรื่องที่ยากที่บลจ.ต่างๆ จะนำเสนอกองทุนรวมตราสารหนี้ที่มีอายุยาวมาขาย เพราะทำมาแล้วไม่มีคนซื้อ ดังนั้น กองทุนตราสารหนี้ประเภทโรลโอเวอร์ 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี จึงยังได้รับความนิยมจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง และหากผู้ลงทุนต้องการที่จะล็อกอายุตราสารหนี้ให้ยาวขึ้นจริง ก็อาจจะต้องไปใช้บริการเงินฝากประจำของธนาคารพาณิชย์แทน

"ส่วนกองทุนตราสารหนี้ที่เป็นกองทุนเปิดนั้น ส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะดำรงดูเรชั่นของพอร์ตการลงทุนยาวๆ เพราะกลัวผลกระทบจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยในตลาดตราสารหนี้ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ดังนั้น กองทุนตราสารหนี้ที่เป็นกองทุนเปิด ซึ่งเปิดโอกาสให้นักลงทุนซื้อขายได้ทุกวันนั้น ส่วนใหญ่ก็จะดำรงอายุตราสารหนี้(Duration)ในพอร์ตสั้น บลจ.ส่วนใหญ่จึงเน้นเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ที่เป็นโรลโอเวอร์ 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี ตามความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก รวมทั้งกองทุนตราสารตลาดเงินเพื่อมาเป็นทางเลือกให้กับผู้ออมเงินที่ต้องการผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝากออมทรัพย์และสามารถที่จะซื้อขายได้ทุกวันด้วย"

ด้าน "ประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์" ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มการลงทุน บลจ.อยุธยา บอกว่า ในช่วงที่ดอกเบี้ยเป็นขาลง การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้แบบเปิดที่มีอายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ที่ลงทุน(duration)มากกว่า 1 ปี จะให้ประโยชน์กับผู้ลงทุนมากที่สุด

เพราะนอกจากผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากดอกเบี้ยแล้ว ยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากราคาของตราสารหนี้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากการที่ผลตอบแทนของตราสารหนี้ปรับตัวลดลง ดังนั้นกองทุนตราสารหนี้ที่มีดูเรชั่นยาวๆ ยิ่งจะให้ประโยชน์กับผู้ลงทุนมากขึ้นในช่วงที่ดอกเบี้ยเป็นขาลงเช่นนี้

บลจ.อยุธยาถือเป็นเพียงบลจ.เดียวในอุตสาหกรรม ที่ออกมาทำตลาดกองทุนเปิดตราสารหนี้ระยะกลางซึ่งมีดูเรชั่นของพอร์ตประมาณ 1 ปีกว่า ไม่อยากยาวมาก เพราะยาวมากก็เสี่ยงสูงมาก ในขณะที่บลจ.อื่นส่วนใหญ่จะออกกอง 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี แทบไม่มีกองทุนตราสารหนี้ที่เป็นกองทุนเปิดดูเรชั่นของพอร์ตยาวกว่า 1 ปี ออกมาเป็นทางเลือกของนักลงทุนเลย ถ้ามีส่วนใหญ่ก็จะเป็นกองทุนตราสารตลาดเงินซึ่งมีดูเรชั่นของพอร์ตสั้นไม่เกิน 1 ปี ซึ่งจะไม่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลงด้วย

"ตราสารหนี้ระยะสั้นจะชอบดอกเบี้ยขาขึ้น เพราะสามารถโรลโอเวอร์นำมาลงทุนใหม่แล้วได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นเกาะไปกับแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น ไม่มีความเสี่ยง แต่ตราสารหนี้ระยะสั้นจะไม่ชอบดอกเบี้ยขาลง ต่างกับตราสารหนี้ระยะปานกลางถึงระยะยาวที่จะชอบดอกเบี้ยขาลง"

ประภาสย้ำว่าในช่วงดอกเบี้ยขาลง กองทุนตราสารหนี้ที่เป็นกองทุนเปิดมีดูเรชั่นของพอร์ตยาวมากกว่า 1 ปี เพื่อสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากส่วนต่างของราคาตราสารหนี้(Capital Gain)ขึ้นมา จะเป็นคำตอบในการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ที่ดีที่สุดในช่วงดอกเบี้ยขาลง

แต่หากนักลงทุนต้องเลือกลงทุนแบบล็อกอายุ 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี ก็แนะนำให้เลือกลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ที่มีอายุ 1 ปี จะได้ประโยชน์สูงสุด คือ ล็อกผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนจะได้รับไว้ที่อัตราสูงเอาไว้ก่อน ดังนั้น หากเป็นกองทุนแบบโรลโอเวอร์ล็อกอายุ 1 ปี น่าจะดีกว่า ก็จะได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่เราล็อกเอาไว้ แต่จะไม่ได้ประโยชน์จาก Capital Gain ในช่วงที่ดอกเบี้ยเป็นขาลง

แต่พอ 1 ปีผ่านไป ดอกเบี้ยอาจจะลงน่ากลัวมาก ล็อก 1 ปีตอนนี้คุณอาจจะได้ผลตอบแทน 4% แต่อีก 1 ปีข้างหน้าอาจจะเหลือ 2.5% ก็ได้ เพราะดอกเบี้ยมันลงมาตลอด อย่าไปคิดว่าครบ 1 ปี แล้วดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 3.75% แบบนั้นไม่ใช่แน่ เพราะเราไม่รู้ว่าดอกเบี้ยจะลงไปเท่าไร

"เพราะฉะนั้นคนที่ล็อกก็จะได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ล็อกไว้ในปัจจุบัน แต่จะไม่ได้ประโยชน์ตอนที่ดอกเบี้ยขาลงในส่วน Capital Gain ดังนั้น ในช่วงที่ดอกเบี้ยเป็นขาลงกองทุนตราสารหนี้ที่เป็นกองทุนเปิดและมีดูเรชั่นของพอร์ตเกิน 1 ปี จึงน่าจะเป็นคำตอบของการลงทุนในตราสารหนี้ในช่วงดอกเบี้ยขาลงเช่นนี้"

อย่างไรก็ตาม "ดร.พิชิต อัคราทิตย์" กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี มองว่า เรื่องของทิศทางดอกเบี้ยยังคงมีความผันผวนและมีความไม่แน่นอนค่อนข้างสูง และเป็นอะไรที่คาดการณ์ได้ยากว่าจะเปลี่ยนแปลงไปในลักษณะใด ดังนั้นผู้ลงทุนควรจะเลือกลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ที่มีอายุสั้นๆ เอาไว้ก่อนเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยที่ยังมีความไม่แน่นอน เพราะผลตอบแทนของกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นเอง ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่าเงินฝากโดยเปรียบเทียบอยู่แล้ว ดังนั้นการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ที่ล็อกอายุ 3 เดือน สั้นๆ หรือลงทุนในกองทุนตราสารตลาดเงินน่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ลงทุนมากกว่าในสภาพที่ดอกเบี้ยยังมีความผันผวนสูงเช่นปัจจุบันนี้

นี่เป็นมุมมองต่อการลงทุนผ่านกองทุนตราสารหนี้ ในช่วงที่แนวโน้มดอกเบี้ยเป็นขาลงจากคนที่อยู่ในแวดวงการเงิน ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ลงทุนได้บ้าง

bangkokbiznews

เข้าชม: 2,425

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com