May 12, 2024   11:07:07 AM ICT
SPALIแชมป์หุ้นถูก-ปันผลสูง

SPALI ติดโผหุ้น P/E และ P/BV ต่ำกว่าตลาดในไตรมาสแรก สวนทางปัจจัยพื้นฐานที่โดดเด่น พร้อมอัตราปันผลที่สูงถึง 9-10% สอดคล้องกับกำไรในปีนี้คาดโตได้ถึง 30% และยังมีงานในมือสูงถึง 8,000 ล้านบาทพอเลี้ยงตัวเองได้อีก 2 ปี ด้านบล.ทรีนีตี้ คาดไตรมาสแรกกำไรหดเหลือ 251 ล้านบาท เหตุมาร์จิ้นต่ำ จ่ายภาษีเพิ่ม แต่ทั้งปีทำได้สวยไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท โบรกเทคนิคแนะ “เก็งกำไร”  ให้กรอบลงทุน 3.42-3.56 บาท
          นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) ประเมินหุ้นที่มีอัตรา P/E และ P/BV ต่ำในไตรมาสแรกของปีนี้พบว่า SPALI หุ้นพื้นฐานเด่น สภาพคล่องสูงติดโผน่าสนใจลงทุนเพิ่มโดยมีอัตรา P/E เฉลี่ยที่ 6.32 เท่า ขณะที่อุตสาหกรรมอยู่ที่ 13 เท่า และมี P/BV ที่ 1.32 เท่า
          ขณะที่ผลตอบแทนจากการจ่ายปันผลสูงถึง 7.61% เมื่อเทียบจากราคาหุ้นในปัจจุบันแล้วถือว่าเป็นอีกบริษัทหนึ่งที่ควรเลือกลงทุนเหมาะลงทุนในระยะกลาง และยาวได้
          นอกจากนี้ผลการดำเนินงานในปีนี้ทั้งนี้ยังคงมีการเติบโตที่โดเด่น โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิสูงถึง 30% หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท เมื่อเทียบจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 880 ล้านบาท อีกทั้งยังมีมูลค่างานในมือสูงถึง 8,000 ล้านบาท ซึ่งสามารถทยอยรับรู้ได้ในปีนี้ และปีหน้า ประกอบกับในช่วงระยะ 1-2 ปีที่ผ่านมาผลตอบแทนจากการจ่ายปันผลของ SPALI อยู่ในระดับสูง 9-10% ดังนั้นจึงแนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 5.10 บาท
          ในช่วงก่อนหน้านี้นายประทีป  ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร ได้ขายหุ้นออกมาจำนวน 5.6 ล้านหุ้น ที่ระดับราคาเฉลี่ย 3.48-3.58 บาท เช่นเดียวกับนางอัจฉรา  ตั้งมติธรรม กรรมการของ SPALI ที่ได้ขายหุ้นออกมาในสัดส่วนที่เท่ากันที่ 5.6 ล้านหุ้นในราคาเฉลี่ย 3.48-3.58 บาท
          นายรณกฤต กล่าวว่า การขายหุ้นของผู้บริหารในช่วงที่ผ่านมานั้น มองว่าน่าจะเป็นการปรับพอร์ตการลงทุน เพื่อให้หุ้นมีสภาพคล่องมากขึ้น เพราะเมื่อพิจารณาจากจำนวนหุ้นที่ขายออกมาเมื่อรวมแล้วถือว่าไม่สูงมาก
          ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ระบุว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของ  SPALI ในไตรมาส 1/2550 คาดว่าจะมียอดขายเติบโตประมาณ 9% และมีรายได้รวม 1,370 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 251 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 33% จากการรับรู้รายได้จาก 3 โครงการ คือ โครงการ City Home Ratchada 750 ล้านบาท โครงการ Casa Riva เฟสแรก  200 ล้านบาท และโครงการบ้านเดี่ยว 400 ล้านบาท

          สำหรับสาเหตุที่กำไรสุทธิปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 251 ล้านบาท ลดลง จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 353 ล้านบาท เพราะรายได้หลักที่มาจากโครงการ City Home มีอัตรากำไรขั้นต้นในระดับที่ต่ำที่ 35% ส่งผลกดดันอัตากำไรขั้นต้นทั้งไตรมาสอยู่ที่ 40% และยังมีภาระภาษีที่จ่ายที่เพิ่มขึ้นเป็น 33% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนที่จ่ายไปแค่ 13%
          อย่างไรก็ตามถึงผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกจะออกมาไม่ดีเท่าที่ควร แต่เชื่อว่าทั้งปี SPALI จะยังคงมีกำไรสุทธิ 1,050 ล้านบาท เนื่องจากกำไรสุทธิจำนวน  250 ล้านบาท เป็นกำไรที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้มีโครงการใหม่เปิดตัวเพิ่มในไตรมาสแรก อีกทั้ง SPALI  ยังมีมูลค่างานในมือที่คาดว่าจะรับรู้ได้ในปีนี้ทั้งสิ้น 3,400 ล้านบาท ซึ่งสร้างความมั่นใจได้ว่า  62% ของรายได้จะสามารถสับรู้ได้ในปีนี้
          นอกจากนี้คาดว่ายอดขายของ SPALI จะฟื้นตัวอีกครั้งหลังจากโครงการที่เปิดใหม่ 6 โครงการใน ช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้เปิดขายได้ ดังนั้นฝ่ายวิจัยจึงยังคงมูลค่าพื้นฐานของ SPALI ไว้ที่ 4.40 บาท และมองว่าราคาหุ้นในปัจจุบันยังไม่สะท้อนราคาพื้นฐานของ SPALI ทั้งในแง่ของการเปรียบเทียบมูลค่าของ SPALI และความ สามารถในการทำกำไรในเชิงเปรียบเทียบจากราคาปัจจุบันที่ยังให้อัพไซด์เหลืออีก 26% และผลตอบแทนจากการจ่ายปันผลสูงถึง 8.52% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 4.40 บาท


          นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ราคาหุ้น SPALI ยังมีโอกาสปรับตัวได้ต่อ เนื่องจากในช่วงก่อหน้าราคาหุ้นได้ปรับตัวลงมาแรง จึงแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ให้แนวรับ 3.46 บาท แนวต้าน 3.56 บาท
          ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น SPALI วานนี้ (17 เม.ย.) ปรับตัวสูงสุดที่ 3.52 บาท ก่อนที่จะอ่อนตัวลงมาปิดตลาดที่ระดับ 3.46 บาท ลดลง 0.02 บาท หรือ 0.57% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 14.51 ล้านบาท

ทันหุ้น
เข้าชม: 1,426

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com