May 11, 2024   11:20:50 PM ICT
HMPROสุดยอดหุ้นเด่นค้าปลีก

HMPROสุดยอดหุ้นเด่นค้าปลีก รับอานิสงส์ยืดแวต7%กระตุ้นยอด

ทันหุ้น-โบรกคัด HMPRO เด่นสุดกลุ่มค้าปลีก  เชื่อรัฐยืดใช้ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%ต่ออีก 1 ปี  ช่วยกระตุ้นการบริโภคเพิ่มขึ้นเพราะมีฐานลูกค้าครอบคลุมทุกกลุ่ม  คู่แข่งน้อย  แถมมีสาขากระจายทุกพื้นที่  ส่องกำไรและยอดขายปีนี้เติบโตโดดเด่น  ส่วน CP7-11- MAKRO- BIGC-ROBINS เทคนิคแจ๋ว และราคาไม่แพงเกินไป แนะเก็งกำไรตามกรอบแนวรับแนวต้าน
          นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า การคงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่ 7% ต่ออีก 1 ปี จากเดิมจะครบกำหนดผ่อนผันจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราดังกล่าว ในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ โดยขยายระยะเวลาออกไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2551 มองว่าจะส่งผลดีต่อกลุ่มธุรกิจค้าปลีกเพราะแนวโน้มการบริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้น
          สำหรับหุ้นในกลุ่มค้าปลีกที่ประเมินว่าจะได้รับประโยชน์จากปัจจัยดังกล่าวมากที่สุด คือ HMPRO ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีก โดยจำหน่ายสินค้าและให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซม อาคาร บ้านและที่อยู่อาศัยแบบครบวงจร อีกทั้งมีสาขาครอบคลุมทุกพื้นที่ ส่งผลให้ยอดขาย และกำไรเติบโตโดดเด่นเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นในกลุ่มเดียวกัน เช่น CP7-11, MAKRO, BIGC และ ROBINS ที่มีการแข่งขันสูงกว่า
          นอกจากนี้ การแข่งขันที่ไม่สูง จากคู่แข่งที่มีอยู่น้อย และ HMPRO มีกลุ่มลูกค้าค่อนข้างกว้าง และมีความต้องการปรับปรุงบ้านใหม่ต่อเนื่อง อีกทั้งแนวโน้มเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปีนี้เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้น แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเหมาะสม 6.64 บาท
          ส่วน BIGC และ MAKRO จัดว่าอยู่ในกลุ่มผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคเหมือนกันแต่ BIGC กลุ่มลูกค้าจะเป็นรายย่อยจึงให้ราคาเหมาะสมที่ 49.25 บาท ขณะที่ MAKRO จะให้บริการค้าส่งเพิ่มเข้ามา ให้ราคาเหมาะสม 89.65 บาท อย่างไรก็ตามมองว่าธุรกิจดังกล่าวแข่งขันสูง ประกอบกับตลาดธุรกิจจำหน่ายสินค้าเพื่ออุปโภคและบริโภคเติบโตมาระยะหนึ่งแล้ว และราคาหุ้นปรับเพิ่มสูงแล้ว แนะนำ “หลีกเลี่ยงลงทุน”
          นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีสท์ จำกัด กล่าวว่า การคงอัตราภาษีมูลเพิ่มที่ 7% ไม่ได้ส่งผลบวกให้กับกลุ่มธุรกิจค้าปลีกโดดเด่นมากนัก แต่ฝ่ายวิจัยประเมินว่า CP7-11 เป็นผู้ประกอบการค้าปลีกที่มีสาขาให้บริการผู้บริโภคสูง และกลุ่มลูกค้ามาทุกระดับ
          อย่างไรก็ตามา ธุรกิจของ CP7-11 ยังได้รับแรงกดดันจากสาขาในประเทศจีนที่มีผลขาดทุน ส่งผลให้ผลการดำเนินงานปีนี้ออกมาไม่ดี  โดยฝ่ายวิจัยอยู่ระหว่างปรับลดประมาณการณ์ราคาเหมาะสมลง จากเดิม 7.15 บาท
          สำหรับ ROBINS ราคาหุ้นเทคนิคมีโอกาสทดสอบนิวไฮถึง 11.50 บาท แม้ว่าพื้นฐานไม่ชัดเจนตามกำลังซื้อที่ยังไม่กลับมา แนะนำ “เก็งกำไร” ให้ราคาเหมาะสม 10.45 บาท
          นายกมลชัย พลอินทวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด กล่าวว่า หุ้นในกลุ่มค้าปลีกได้ปรับตัวรับข่าวการคงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ดังนั้นในระยะสั้นราคาอาจจะแกว่งตัวในกรอบแคบ แต่เมื่อพิจารณาทางเทคนิค CP7-11 มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นได้อีก แนะนำ “เก็งกำไร” ให้แนวรับ 5.95-5.75 บาท และแนวต้าน 6.30-6.50 บาท รองลงมา ROBINS ให้แนวรับ 10.60-10.30 บาท แนวต้าน 11.20-11.50 บาท
          ส่วน BIGC ระยะสั้นราคาหุ้นอาจจะพักฐานได้ แนะนำ “เก็งกำไร” ให้แนวรับ 49.50-47.50 บาท และแนวต้านที่ 52.00-54.00 บาท เช่นเดียวกับ HMPRO ที่ราคาหุ้นปรับตัวมาระยะหนึ่งจึงมีโอกาสที่จะพักฐาน แนะนำ “เก็งกำไร” ให้แนวรับ 5.00-4.90 บาท แนวต้าน 5.20-5.30 บาท และ MAKRO สามารถเก็งกำไรได้ โดยให้แนวรับ 80.50-78.50 บาท และแนวต้าน 85.00-87.00 บาท
          HMPRO(4 เม.ย.)ปิดที่ 5.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง  มูลค่าซื้อขาย 14.88 ล้านบาท

ที่มา ทันหุ้น

เข้าชม: 1,212

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com