May 12, 2024   12:59:48 AM ICT
VNG โตแบบเงียบ ๆ
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่1. บริษัท เดอะ วนชัย กรุ๊ป อ๊อฟ คอมปานีส์ จำกัด 515,076,513 หุ้น 39.54%2. นายสมภพ สหวัฒน์ 54,999,933 หุ้น 4.22%3. HSBC (SINGAPORE) NOMINEES PTE LTD 45,552,500 หุ้น 3.50%4. บริษัท บริหารสินทรัพย์ทวี จำกัด 42,912,520 หุ้น 3.29%5. UBS AG SINGAPORE,BRANCH-PB SECURITIES CLIENT CUSTODY
          42,173,333 หุ้น 3.24%คณะกรรมการ1. นายสมภพ สหวัฒน์ ประธานกรรมการ 2. น.ส.ยุพาพร บุญเกตุ รองประธานกรรมการ3. นายสืบตระกูล สุนทรธรรม รองประธานกรรมการ 4. นายวรรธนะ เจริญนวรัตน์กรรมการผู้จัดการ 5. นายวสันต์ เจริญนวรัตน์ กรรมการ
          หากเอ่ยถึง บริษัท วนชัย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ VNGชื่อเสียงของบริษัทนี้คงไม่เป็นที่น่าสนใจมากนักสำหรับนักลงทุนทั่วไป แต่หากพูดถึงธุรกิจผลิตและจำหน่ายแผ่นเอ็มดีเอฟ และแผ่นปาร์ติเกิลในประเทศไทย ต้องยอมรับว่าบริษัทเป็นที่รู้จักของคนในวงการนี้เป็นอย่างดี
          จุดแข็งตรงด้านชื่อนี่เอง ที่ทำให้สินค้าของบริษัทเป็นที่ยอมรับและรู้จักของคนทั่วไป ดังนั้นจึงเป็นปกติที่บริษัทจะมีอัตราการเติบโตของรายได้และกำไรค่อนข้างสม่ำเสมอ แม้ว่าอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี จำนวนตัวเลขที่ได้จะไม่เป็นไปตามคาดไว้ แต่ก็ถือว่ามีการเติบโตและล้วนมาจากฝีมือการบริหารงานอันยอดเยี่ยมของผู้บริหารทั้งสิ้น
          เหล่านี้ถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้บริษัทแห่งนี้มีความน่าสนใจ และยากที่บริษัทอื่นในธุรกิจเดียวกันจะบริหารจัดการได้ โดยเฉพาะท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างช่วงปี 2549 ที่ถือว่าปีวิกฤติค่อนข้างรุนแรง แต่บริษัทก็ยังสามารถขับเคลื่อนนำพาธุรกิจเดินหน้ามาได้อย่างราบรื่น
          แม้ว่าผลการดำเนินงานในปีปี 2549 (สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2549) บริษัทจะทำกำไรสุทธิได้เพียง 712 ล้านบาท หรือ 0.55 บาทต่อหุ้น ลดลง 6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วจำนวน 760 ล้านบาท หรือ 0.58 บาทต่อหุ้น ซึ่งตัวเลขที่ลดลงจำนวนดังกล่าวไม่ได้เป็นที่น่ากังวลมากนัก
          เนื่องจากบริษัทยังสามารถรักษาอัตราการแติบโตของรายได้ไว้เป็นอย่างดี จากปีปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 6,099 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% มาอยู่ที่ 6,691 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตของตัวเลขที่ได้จะไม่สามารถผลักดันให้กำไรสุทธิโดดเด่น แต่ก็ถือว่าบริษัทมีประสิทธิภาพในการทำรายได้ในระดับหนึ่งที่น่าพอใจ
          อีกทั้งในปี 2549 ที่ผ่านภาวะเศรษฐกิจค่อนข้างกดดันต่อต้นทุนการขาย จึงทำให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มสูงขึ้น 13% มาอยู่ที่ระดับ 5,673 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่แล้วจำนวน 5,025 ล้านบาท จึงถือว่าตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยหลักกดดันกำไรจนอยากที่จะหลีกเลี่ยงได้
          เมื่อวิเคราะห์ฐานะทางการเงิน หรือ D/E Ratio เท่ากับ 1.22 เท่า ซึ่งอัตราตัวที่ได้เลขอาจจะดูไม่ดีนัก แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่รับได้ และไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แม้ว่าหนี้สินมีจำนวนสูงถึง 6,288 ล้านบาทเมื่อเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้น 5,155 ล้านบาท ซึ่งเป็นเรื่องปกติของธุรกิจที่กำลังขยายงานจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีเงินทุนเพื่อจับจ่ายใช้สอยให้ธุรกิจเดินหน้าได้อย่างราบรื่น
          ด้านสภาพคล่องในการดำเนินงาน ถือว่าคล่องตัวดี จากที่มีสินทรัพย์หมุนเวียน 2,430 ล้านบาท และหนี้สินหมุนเวียน 1,739 ล้านบาท ค่า Current Ratio เท่ากับ 1.44เท่า สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทมีสภาพคล่องเพียงพอต่อการชำระหนี้สินที่มีอยู่ได้แน่นอน
          เหล่านี้แสดงได้ว่า VNG ดูดี ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ที่สำคัญนักลงทุนคนใดที่กำลังฝากแบงก์และคิดจะโยกย้ายเงินไปลงทุนในตลาดหุ้น VNG ก็ถือเป็นทางเลือกอันดับแรก เพราะผลตอบแทนที่ได้สูงถึงร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับเงินฝากปกติที่อยู่แค่ร้อย 1 ดูยังไงหุ้นตัวนี้ก็น่าลงทุนมากกว่า
ข่าวหุ้น
/
เข้าชม: 1,687

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com