คงไม่ช้าเกินไปนัก ที่จะเอ่ยถึงเหตุการณ์เมื่อวันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏข่าวแตกตื่นในตลาดหุ้นทั่วโลก หลังดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติตกต่ำสุดในรอบ 111 ปี กว่า 400 จุด เป็นสถานการณ์เลวร้ายที่สุดรองจากวันสยองโลก 11 กันยายน ซึ่งเป็นผลจากความหวาดวิตก เกรงว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะแย่ลง ขณะที่ดัชนีตลาดเซี่ยงไฮ้ได้รับผลกระทบปรับตัวลง 8.8%
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความเคลื่อนไหวของหุ้นเอเชียเมื่อวันที่28 กุมภาพันธ์ พากันปรับตัวลงในช่วงเช้าของการซื้อขาย หลังดัชนีสำคัญในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ดิ่งลง 8.8% ตามตลาดหุ้นสหรัฐตกลงแรง 416 จุด
โดยดัชนีหุ้นนิกเคอิปรับลดลง 3.6% ในการซื้อขายระหว่างวันมาอยู่ที่ 17,475.07 จุด ขณะที่ดัชนีหั่งเส็งของฮ่องกงลดลง 2.8% มาอยู่ที่ 19,576.99 จุดในช่วงเช้า โดยหุ้นบริษัทจีนในตลาดฮ่องกงได้รับผลกระทบหนักสุดเมื่อหุ้นเอชตกลง 4% ไปอยู่ที่ 9,200.59 จุด ด้านดัชนีหุ้นสเตรตส์ ไทมส์ของสิงคโปร์ เมื่อเปิดตลาดปรับลดลง 4.8% ส่วนดัชนีคอมโพสิตของมาเลเซียเมื่อเปิดตลาดก็ร่วงลง 3.8%
นักวิเคราะห์หลายราย จากบริฟฟิง ดอท คอม ได้ส่งข้อมูลถึงลูกค้าอธิบายปฏิกริยาที่เกิดขึ้นจากตลาดหุ้นเอเชียตกว่า เป็นวันหนึ่งที่เลวร้ายที่สุด ตลาดเอเชียถูกฉุดลงตามตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ และการตกทำสถิติของดัชนีหุ้นดาวโจนส์ พร้อมกับการปรับลงเฉลี่ย 2-3% ของดัชนีหุ้นสำคัญในยุโรป
สถานการณ์ในตลาดหุ้นที่ไม่อาจคุมได้ และความเสี่ยงมีอยู่เสมอในตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดหุ้นสำคัญอย่างสหรัฐ ทำให้เนื้อหาของเนล ไรน์ในอินเวสเตอร์ส วีคลี เรื่อง "ทำอย่างไรถึงจะจัดการความผันผวนในตลาด" จากเวบไซต์ของฟิเดลิตี้ กองทุนใหญ่อันดับ 1 ของสหรัฐ เป็นที่สนใจและอยากเรียบเรียงถ่ายทอดให้นักลงทุนชาวไทยทั้งในและต่างประเทศ ได้เก็บไว้ใช้เป็นข้อมูลปฏิบัติได้จริงในอนาคต
ก่อนอื่นไรน์แนะหัวใจสำคัญ ที่จะช่วยประเมินความผันผวนของตลาดคือการเตรียมการ และช่วงเวลาเกิดความผันผวนในตลาดว่า ขอให้นักลงทุนควรจดจำไว้เสมอว่า หลักสำคัญของการลงทุนอยู่ที่การกระจายการลงทุน
@"กระจายการลงทุน" เหตุใดจึงต้องกระจายการลงทุน เป็นทั้งคำแนะนำและคำถามที่ไรน์ตั้งขึ้นมา เพื่อตอบข้อสงสัยของนักลงทุน ด้วยการยกความเห็นของจอร์จ เอ.พาดูลา ประธานของ Danforth Associates บริษัทที่ปรึกษาการลงทุนในมลรัฐแมสซาชูเซตส์ ที่ว่าการกระจายการลงทุนเป็นหัวข้อที่ไม่มีใครอยากฟัง เพราะการกระจายการลงทุน เป็นเรื่องเหมือนกับว่าต้องไปหาหมอฟันทุกๆ 6 เดือน และหลายรายรู้ว่าต้องขูดหินปูนให้ฟันบ่อยๆ
แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงเจ้าของฟันกลับละเลย โดยนักลงทุนบางรายอาจไม่รู้ว่า พวกเขาควรกระจายการลงทุน ขอให้จดจำไว้ว่า การจัดสรรสินทรัพย์หรือกระจายการลงทุน ไม่ได้รับประกันให้ความมั่นใจ เกี่ยวกับกำไรหรือรับประกันการขาดทุน
ไรน์เตือนว่าสองอารมณ์ ทั้งความกลัวและความโลภ สามารถนำพาให้นักลงทุนไปสู่การตัดสินใจผิดพลาด อย่างในอดีตหุ้นเทคโนโลยีเคยทำให้นักลงทุนหลายคนเกิดความโลภ และมองข้ามการลงทุนน่าเบื่อหน่าย ซึ่งการลงทุนทำให้เบื่อหน่ายนี้ รวมถึงการลงทุนในตราสารหนี้ หุ้นมูลค่าและหุ้นบลูชิพ
ไรน์ยกเหตุการณ์ก่อนเดือนกันยายน ปี 2545 เป็นเวลานาน 2 ปีครึ่งที่ตลาดหุ้นสหรัฐอยู่ในภาวะมีความกลัวทำให้นักลงทุนพากันทิ้งตลาดหุ้น เพื่อเข้าไปหลบในตลาดบอนด์ได้อย่างปลอดภัย แต่ในเวลาเพียงเดือนเดียว ในเดือนตุลาคมปี 2545 หุ้นเริ่มปรับขึ้นอีกครั้ง และช่วงเกือบ 4 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนักลงทุนกำลังสนุกสนานกับตลาดภาวะกระทิง และคราวนี้มีหุ้นกลุ่มพลังงานเป็นตัวนำ
สถานการณ์ต่างๆ ข้างต้น ล้วนเป็นตัวอย่างที่ไรน์ต้องการให้เห็นความสำคัญของการวางแผนการลงทุน เพื่อช่วยจัดการกับความผันผวนในตลาด และแทนที่จะโอนเอียงไปตามกระแสหรือแนวโน้มตลาด นักลงทุนสามารถทำตัวหลุดจากตำรามืออาชีพได้ และกลับมาเป็นผู้ทุ่มเทให้กับการจัดสรรสินทรัพย์และกระจายการลงทุน
@"ให้ความสนใจจัดสรรสินทรัพย์" การจัดสรรสินทรัพย์เป็นแนวทางแรก ที่ถือเป็นการสร้างรากฐานการจัดพอร์ตแบบมืออาชีพ และไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการกองทุนบำเหน็จบำนาญ หรือทรัสต์ฟันด์ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลที่นำเงินไปลงทุนให้ผู้ได้รับประโยชน์ ล้วนใช้การจัดสรรสินทรัพย์เพื่อลดความเสี่ยง ด้วยการจัดประเภทสินทรัพย์แตกต่างกันไปตามความเสี่ยงแตกต่างกัน
พาดูลาให้ความเห็นว่า ตัวเขาเองมองการกระจายการลงทุน และจัดสรรสินทรัพย์ว่าเป็นการสร้างแผนการลงทุน ที่มุ่งเน้นในระยะยาว และไม่ปล่อยให้ความรู้สึกให้ตลาดเป็นตัวชี้นำ ในสิ่งที่ตัวเองทำ เพราะนักลงทุนรู้อยู่แล้วว่าตัวเองมีแผนลงทุนระยะยาวพร้อมอยู่แล้ว
"ยกตัวอย่างเช่น หากนักลงทุนมีเงินในตลาดเกิดใหม่ และรู้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนการกระจายการลงทุนโดยรวม และมองตลาดเกิดใหม่กำลังปรับตัวลงในเดือนพฤษภาคม นักลงทุนย่อมรู้สึกดีขึ้นที่รู้ว่าการลงทุนเป็นส่วนหนึ่งของแผนลงทุนระยะยาว" พาดูลากล่าว
การใช้การจัดสรรสินทรัพย์เพื่อสร้างพอร์ตมีการลงทุนหลากหลาย หมายความว่านักลงทุนลงทุนในสินทรัพย์ประเภทแตกต่างกัน รวมถึงหุ้น ตราสารหนี้และเงินสด หรือการลงทุนอื่นๆ เหมือนกัน อย่างกองทุนตลาดเงินหรือพันธบัตรรัฐบาล
ทั้งนี้ จากการวิจัยของฟิเดลิตี้บ่งบอกว่า เกือบครึ่งหนึ่งของคนทำงานรุ่นใหม่ในอเมริกา ไม่มีสินทรัพย์เพื่อการเกษียณอายุ ที่ลงทุนในหุ้นหรือกองทุนรวมลงทุนในหลักทรัพย์เลย สถิตินี้เป็นการลงทุนเสี่ยงมากเกินไป หรือปิดโอกาสทำเงินให้งอกเงย
"เป้าหมายตั้งไว้พร้อมกับการจัดสรรสินทรัพย์ คือการลดความเสี่ยง และทำผลตอบแทนได้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนเฉลี่ยระยะยาว การลงทุนเงินบางส่วนของคุณในประเภทสินทรัพย์มีความหลากหลาย นักลงทุนอาจลดผลกระทบ ที่จะเกิดกับพอร์ตลงทุนทั้งหมด เมื่อสินทรัพย์ประเภทใดประเภทหนึ่งปรับลดลงมาก กรณีนี้อาจช่วยปกป้องนักลงทุนจากการเทขายในภาวะตื่นตระหนก" พาดูลาแนะนำ
@"กระจายลงทุนในประเภทสินทรัพย์ย่อย" คำแนะนำนี้เป็นการเพิ่มเติม จากการจัดสรรการลงทุนในหลักทรัพย์ ตราสารหนี้และเงินสด นักลงทุนอาจต้องการจะกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ย่อยของสินทรัพย์แต่ละประเภท สิ่งสำคัญอยู่ที่การแยกแยะการลงทุนส่วนต่างๆ ของสินทรัพย์แต่ละประเภท ซึ่งอาจให้ผลตอบแทนแตกต่างกัน ภายใต้สภาวะแวดล้อมในตลาดแตกต่างกัน
ไรน์ยกตัวอย่างการลงทุนในสินทรัพย์ย่อยว่า อาจเป็นการลงทุนในหุ้นเติบโตดีมีมาร์เก็ตแคป ใหญ่และหุ้นมูลค่ามีมาร์เก็ตแคปใหญ่ หรือหุ้นในต่างประเทศ หากเป็นการลงทุนในตราสารหนี้นักลงทุนอาจพิจารณาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และหุ้นกู้บริษัทให้อัตราผลตอบแทนสูง
@"กระจายการลงทุนอย่างรอบคอบผ่านกองทุนรวม" เป็นคำแนะนำสุดท้าย ซึ่งไรน์อธิบายว่านักลงทุนส่วนบุคคลส่วนใหญ่ จะพบว่ากองทุนรวมเป็นหนทางง่ายๆ ที่จะทำให้การกระจายพอร์ต ลงทุนประสบผลสำเร็จ อย่างไรก็ตามกองทุนรวมอาจทำให้นักลงทุนทุ่มการลงทุนมากเกินไปในบางส่วนของตลาด หากไม่ให้ความสนใจกับการลงทุนนั้นๆ อย่างใกล้ชิด
"นักลงทุนไม่จำเป็นต้องหยุดการใคร่ครวญ กระจายการลงทุนในสิ่งที่พวกเขาลงทุนไว้ หรือหยุดการกระจายลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใดเป็นพิเศษ ซึ่งในชีวิตจริงผู้คนกลับใช้เวลามากกว่า ในความพยายามที่จะคิดให้รอบคอบถึงประเภทของรถยนต์ในเวลาที่คิดจะซื้อ ซึ่งเป็นการคิดรอบคอบกว่าการเลือกลงทุนในกองทุนรวมเสียอีก" พาดูลาตั้งข้อสังเกต
เพื่อให้แน่ใจว่าพอร์ตในกองทุนรวมของนักลงทุน มีการกระจายไว้อย่างเหมาะสม ไรน์ขอให้นักลงทุนมองข้ามชื่อกองทุนแต่ละกอง และเพื่อให้มั่นใจได้ว่า นักลงทุนรู้ได้ว่าควรกระจายการลงทุนอย่างไร ไรน์ขอให้ทบทวนพอร์ตตัวเองอย่างสม่ำเสมอด้วยตัวเอง หรือด้วยคำแนะนำของฟิเดลิตี้
โรเบิร์ต โอเนล รองประธานอาวุโสฝ่ายการลงทุนส่วนบุคคลของฟิเดลิตี้ แนะนำว่าปกติกองทุนฟิเดลิตี้จะช่วยลูกค้าทบทวนพอร์ตตัวเองเป็นประจำทุกปี ด้วยการล็อกอินเข้าไปใช้บริการ Portfolio Review ซึ่งลูกค้าจะได้รับบริการวิเคราะห์การลงทุน และการนำทางช่วยบริหารเงินออม ช่วยประเมินความเสี่ยง และสร้างสมดุลให้กับสินทรัพย์ลงทุน
"การตรวจสอบพอร์ตลงทุนของตัวเองเป็นประจำทุกปี เป็นสิ่งที่ต้องทำ นักลงทุนหลายรายควรเปลี่ยนแปลงการจัดสรรสินทรัพย์ของตัวเอง เป็นการปรับตัวตามเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิต เช่นในกรณีที่นักลงทุนเข้าสู้วัยใกล้ถึงวัยเกษียณอายุ" โอเนลกล่าวย้ำ
ไรน์แนะนำด้วยว่า เวบไซต์หรือบริการออนไลน์ของกองทุนมอร์นิ่งสตาร์ (Morningstar) เจาะเข้าไปใน Portfolio X-ray จะช่วยให้นักลงทุนวิเคราะห์พอร์ตลงทุนของตัวเองได้ในขอบเขตหลากหลาย รวมทั้งการจัดสรรสินทรัพย์ รูปแบบการกระจายการลงทุน การลงทุนในภาคธุรกิจ และการลงทุนระดับภูมิภาคทั่วโลก
พาดูลาเชื่อว่าการกระจายการลงทุน ยังคงเป็นกุญแจสำคัญนำไปสู่ความสำเร็จระยะยาว และย้ำว่าอย่าปล่อยให้ความรู้สึกของตลาดมาบงการสิ่งที่นักลงทุนทำ และขอให้ยึดมั่นมุมมองในระยะยาวไว้ และจำไว้เสมอว่า ไม่มีหนทางใดที่ดีไปกว่าการคงแผนการลงทุนที่ดีด้วยการกระจายการลงทุน และย้ำว่าแผนการกระจายการลงทุนเป็นวิธีหนึ่งที่ดีที่สุดในการบริหารความเสี่ยง
Bangkokbiznews |