กองทุนรวมอายุต่ำกว่า 1 ปี เป็นชนิดหนึ่งของกองทุนที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายแม้ว่าจะเป็นกองทุนที่ให้ผลตอบแทนในการลงทุนค่อนข้างต่ำกว่าปกติ และไม่สอดคล้องกับปรัชญาการลงทุนในกองทุนเท่าใดนัก
          เหตุผลของความนิยม ก็คงอยู่ที่สภาพคล่องของการลงทุนเป็นตัวแปรสำคัญ เพราะนักลงทุนที่ซื้อหน่วยลงทุนประเภทนี้ ต่างต้องการเอาไว้เป็นที่พักเงินในยามที่สถานการณ์ของตลาดเก็งกำไรโดยทั่วไป ยังสับสน และไม่ชัดเจนว่าจะมีทิศทางไปทางใดระหว่างขาขึ้นหรือขาลง
          ปรัชญาของการลงทุนใน STIF อยู่ที่การป้องกันความเสี่ยงในระยะสั้น และพยายามหาผลตอบแทนที่มีคุณภาพสูงสุดเท่าที่กระทำได้
          การแสวงหาความปลอดภัย โดยป้องกันความเสี่ยง เพื่อได้รับผลตอบแทนกลับคืนมาบ้าง (บางครั้งอาจจะน้อยกว่าอัตราเงินเฟ้อ ) ก็ยังดีกว่าถือเงินเอาไว้เปล่าๆโดยเสียประโยชน์
          ในทางปฏิบัติ การลงทุนใน STIF ที่ให้ผลตอบแทนต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ ถือเป็นการลงทุนที่ขาดทุนเมื่อคิดจากอัตราผลตอบแทนที่แท้จริง (หักด้วยอัตราเงินเฟ้อ)
          โดยทั่วไป หน่วยลงทุนในลักษณะ STIF มักจะมีเป้าหมายระดมทุนเพื่อเอาไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล หรือตราสารการเงินอื่นที่มีความเสี่ยงต่ำเพื่อป้องกันความเสี่ยง เป้าหมายเรื่องผลตอบแทนการลงทุน จึงเป็นเป้าหมายรอง เป็นไปตามหลักการเรื่อง ความเสี่ยงต่ำผลตอบแทนต่ำ

          ข้อดีของการซื้อหน่วยลงทุนแบบ STIF อยู่ที่นักลงทุนสามารถคำนวณความเสี่ยงและผลตอบแทนได้รวดเร็วในเวลาแสนสั้น ทั้งนี้ เพื่อหาทางพักเงินลงทุนเก็งกำไรเอาไว้ในยามตลาดสับสน แต่หากตลาดมีความชัดเจนได้แล้วเช่นเป็นขาลงชัดเจน หรือ เป็นขาขึ้นชัดเจนนักลงทุนก็สามารถที่จะย้อนกลับไปเก็งกำไรได้เต็มที่ ไม่ต้องเสียเวลากับการพักเงินเอาไว้นานๆ
          เนื่องจากการบริหารกองทุน STIF ค่อนข้างง่าย ดังนั้น ต้นทุนการบริหาร หรือ ค่าธรรมเนียมการจัดการ จึงค่อนข้างต่ำ ซึ่งเป็นข้อดีอีกประการหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนนิยม
          เพียงแต่นักลงทุนที่สนใจกับผลตอบแทนมากกว่าเรื่องของความเสี่ยง กองทุนประเภทนี้ จะไม่น่าสนใจเอาเสียเลย เพราะมักจะให้ผลตอบแทนต่ำกวาเงินเฟ้อจนเป็นปกติ