May 12, 2024   5:37:10 AM ICT
BAFS โตได้เรื่อย

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่1. บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) 95,988,750 หุ้น 22.59%2. บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด 30,000,000 หุ้น 7.06%3. บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด 30,000,000 หุ้น 7.06%4. บริษัท เอสโซ่ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) 30,000,000 หุ้น 7.06%5. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 30,000,000 หุ้น 7.06%คณะกรรมการ1. พลอากาศเอกณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ รองประธานกรรมการ 2. หม่อมราชวงศ์ศุภดิศดิศกุล กรรมการผู้จัดการ 3. นายกอบชัย ศรีวิลาศ กรรมการ 4. นายอัษฎา หะรินสุตกรรมการ 5. นายวินัย จำลองราษฎร์ กรรมการ
          กรณีการย้ายสายการบินในประเทศและต่างประเทศบางส่วนที่มีระยะเดินทางไม่เกิน 3ชั่วโมง จากสนามบินสนามบินสุวรรณภูมิกลับมาใช้สนามบินดอนเมืองนั้น เห็นจะเป็นเรื่องที่วิเศษยิ่งนักสำหรับ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ BAFS ผู้ให้บริการเชื้อเพลิงเครื่องบินรายเดียวของประเทศไทย ที่ได้รับอานิสงค์จากการย้ายกลับครั้งนี้
          เนื่องจากบริษัทจะได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากสินทรัพย์ที่มีอยู่ในสนามบินดอนเมืองเช่น ระบบท่อ คลังน้ำมัน ซึ่งทำให้บริษัทไม่ต้องเสียค่าต้นทุนเพิ่ม อีกทั้งอัตราการเติมน้ำมันอากาศในดอนเมืองปรับจะเพิ่มขึ้นเป็น 7 แสนลิตร/วัน จากที่เคยเติม 34 หมื่นลิตร/วันซึ่งถือเป็นโอกาสทองในการสร้างรายได้ในอนาคตให้กับบริษัทอย่างดีทีเดียว


          ขณะที่ปี 2549 ผลการดำเนินงานก็โดดเด่นขึ้นอย่างพอใจ ด้วยกำไรสุทธิจำนวน 461ล้านบาท หรือ 1.09 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับปี 2548 อยู่ที่ 417 ล้านบาทหรือ 1.06 บาทต่อหุ้น
          โดยปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อกำไรสุทธิมาจากรายได้ค่าบริการ 1,421 ล้านบาท เพิ่มขึ้น25% เมื่อเทียบกับปี 2548 อยู่ที่ 1,139 ล้านบาท เป็นผลมาจากปริมาณน้ำมันที่ให้บริการเพิ่มขึ้นจาก 4,070.40 ล้านลิตรในปี 2548 เป็น 4,270.62 ล้านลิตรในปี 2549 ซึ่งเป็นไปตามอัตราการเติบโตตามภาวะธุรกิจการบินโดยทั่วไป
          อีกทั้งการปรับขึ้นอัตราค่าบริการเติมน้ำมันอากาศยานที่สนามบินดอนเมืองจาก 2.58เซนต์ต่อแกลลอน เป็น 2.74 เซนต์ต่อแกลลอนในวันที่ 1 กรกฎาคม 2549 และปรับขึ้นเป็น6 เซนต์ต่อแกลลอนในวันที่ 1 ธันวาคม 2549 ตามลำดับส่งผลให้อัตราค่าบริการเติมน้ำมันโดยเฉลี่ยของบริษัทฯ ที่สนามบินดอนเมืองสูงกว่าปี 2548 ที่ผ่านมาประมาณร้อยละ 132.6
          ประกอบกับการเปิดใช้อย่างเป็นทางการของสนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน2549 ซึ่งบริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาดสำหรับการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานสูงถึง ร้อยละ90 โดยในช่วงไตรมาส 4 ที่ผ่านมาจำนวนเที่ยวบิน ผู้โดยสารและการขนส่งสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้น จึงส่งทางบวกต่อการปรับตัวขึ้นของรายได้ค่าบริการของบริษัทฯ
          ด้านสภาพคล่องของบริษัท ถือว่าคล่องตัวดีมาก จากที่พบว่ามีสินทรัพย์หมุนเวียน 962ล้านบาท เป็นส่วนของเงินสดสูงถึง 604 ล้านบาท ขณะที่หนี้สินรวม 387 ล้านบาท ได้ค่าCurrent Ratio เท่ากับ 2.49 เท่า ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการบริหารงานมีความคล่องตัวเพียงพอต่อการชำระหนี้สินที่มีอยู่ได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร


          ส่วนโครงสร้างทางการเงิน หรือ D/E Ratio เท่ากับ 1.82 เท่า ซึ่งอัตราส่วนตัวเลขที่ได้อาจจะดูไม่ดีนัก จากที่บริษัทมีหนี้สินรวม 4,842 ล้านบาท เมื่อเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้น 2,666 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าบริษัทอาจจะมีความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจอยู่บ้าง จากที่ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยที่สูงขึ้น แต่เมื่อมองดูที่ตัวธุรกิจแล้วจะเห็นว่าเป็นเรื่องปกติของบริษัทที่มีการขยายงานเพิ่มขึ้น
          ดังนั้น BAFS ถือว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ด้วยประสิทธิภาพและศักยภาพที่มั่นคงในการในการสร้างรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วเหตุนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริง

ข่าวหุ้น
/
เข้าชม: 5,883

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com