May 11, 2024   9:36:43 PM ICT
YNP รายได้ทรงตัว

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่1. นางจำลอง พันธ์พาณิชย์ 102,230,940 หุ้น 31.95%2. GOLDMAN SACHS INTERNATIONAL 33,607,200 หุ้น 10.50%3. กองทุน บำเหน็จบำนาญข้าราชการ 21,400,001 หุ้น 6.69%4. HSBC (SINGAPORE) NOMINEES PTE LTD 18,712,300 หุ้น 5.85%5. กองทุนเปิด ไทยทวีทุน 11,800,000 หุ้น 3.69%คณะกรรมการ1. นายวิชัย ทองแตง ประธานกรรมการ 2. นายสัมพันธ์ พันธ์พาณิชย์ ประธานกรรมการบริหาร 3. นายพริษฐ์ พันธ์พาณิชย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ 4. นางอรสโรชยา บุนนาคกรรมการ 5. นางอัมพร นิลภิรมย์ กรรมการ
          ในช่วงปี 2549 ที่ผ่านมา ทิศทางภาวะอุตสาหกรรมโดยรวมในประเทศอาจดูไม่ดีนักจากสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ความผันผวนของราคาน้ำมัน ค่าเงินบาท หรือแม้แต่ความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งเหล่านี้ถือเป็นอุปสรรคต่อการทำกำไรของเกือบทุกธุรกิจก็ว่าได้
          สำหรับ บริษัท ยานภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) หรือ YNP ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่ของประเทศอีกบริษัทหนึ่ง ที่เห็นจะไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤตเหล่านี้เท่าใดนัก ซึ่งเห็นได้จากยอดขายในช่วงที่ผ่านมา บริษัทสามารถรักษาระดับรายได้นี้ได้อย่างสม่ำเสมอ และเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุน
          โดยเฉพาะยอดการขายและการให้บริการสำหรับปี 2549 (สิ้นสุด ณ วันที่ 31ธันวาคม 2549)จำนวน 4,936 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปี 2548 ที่มียอดขาย4,704 ล้านบาท จากยอดจำหน่ายรถยนต์เพื่อการส่งออกยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
          ส่วนต้นทุนการขายและให้บริการ แม้จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 5% มาอยู่ที่ 4,341 ล้านบาทจากปีก่อนอยู่ที่ 4,138 ล้านบาท แต่เมื่อคิดเป็นกำไรขั้นต้นแล้วบริษัทยังมีรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากปี 2548 จำนวนสูงถึง 28 ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการรักษาระดับผลการดำเนินงานของบริษัทได้เป็นอย่างดี


          ทว่ากำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นในงบการเงินปี 2549 จำนวน 147 ล้านบาทหรือ 0.46 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 137% จากปี 2548 ที่มีกำไรสุทธิเพียง 61 ล้านบาท หรือ0.22 บาทต่อหุ้น ซึ่งตัวเลขกำไรสุทธิที่สูงเกินคาดนี้ ย่อมมีนัยสำคัญแน่นอน
          เนื่องจากปี 2548 บริษัทได้มีความผิดผลาดเกี่ยวกับการประเมินราคาซื้อที่ดิน เพื่อใช้ก่อสร้างอาคารโรงงานแห่งที่ 3 โดนราคาประเมินจำนวน 674.55 ล้านบาท ซึ่งราคาประเมินดังกล่าวเกิดข้อผิดพลาด จึงจัดให้มีการเมินราคาใหม่ ปรากฏว่าราคาประเมินลดลงเหลือ 434.76 ล้านบาท
          ดังนั้นราคาประเมินทั้งสองครั้งจึงมีส่วนต่างหายไป 201 ล้านบาท ซึ่งจำนวนดังกล่าวบริษัทจึงรับรู้ในงบการเงินปี 2548 ในส่วนของผลขาดทุนจากการด้อยค่าที่ดินจำนวน 201.21ล้านบาท ขณะที่ปี 2549 รับรู้ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เพียง 2 ล้านบาท ด้วยเหตุนี้เอง ที่ทำให้กำไรสุทธิปี 2549 สูงขึ้นเกินคาดนั่นเอง
          ส่วนสภาพคล่องในการดำเนินงานอาจจะดูไม่ดีนัก จากที่พบว่าบริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียน 2,818 ล้านบาท และหนี้สินหมุนเวียน 4,616 ล้านบาท ได้ค่า Current Ratioเท่ากับ 0.61 เท่า ซึ่งอัตราตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้มาก หากแต่เมื่อประสิทธิภาพในการทำกำไรที่มีอยู่ในตัวของบริษัทแล้ว ถือว่ามีสภาพคล่องตัวเพียงพอต่อการชำระหนี้สินได้ในระดับหนึ่ง
          เมื่อวิเคราะห์โครงสร้างการเงิน หรือ D/E Ratio เท่ากับ 2.21 เท่า จากที่พบว่าบริษัทมีเงินทุน หรือส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำเพียง 3,338 ล้านบาท ขณะที่หนี้สินรวมสูงถึง 7,376 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น และถือเป็นอุปสรรคตัวสำคัญที่บั่นทอนตัวธุรกิจได้ แต่เมื่อมองลึกลงไปที่ตัวธุรกิจที่อยู่ในช่วงของการลงทุนตั้งโรงงานใหม่อีก 2 แห่ง จึงถือเป็นเรื่องปกติที่จะต้องกู้ยืมเงินเพื่อใช้จ่ายในการดำเนินงาน
          จากที่กล่าวมาข้างต้น YNP ถือเป็นบริษัทที่มีฝีมือดีในการบริหารงาน จากที่สามารถทำกำไรได้ค่อนข้างสม่ำเสมอ รวมถึงการตั้งโรงงานเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่ง จึงถือว่าอนาคตบริษัททำกำไรได้โดดเด่นขึ้นแน่นอน

ข่าวหุ้น
/
เข้าชม: 1,316

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com