May 12, 2024   4:49:46 PM ICT
HMPRO ประสิทธิภาพทำกำไรดี

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่1. บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) 275,956,146 28.912. บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) 200,914,461 21.053. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 72,135,082 7.564. AMERICAN INTERNATIONAL ASSURANCE COMPANY, LIMITED-DI-LIFE
          48,921,091 5.125 นายนิติ โอสถานุเคราะห์ 45,470,000 4.76คณะกรรมการ1. นายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการ 2. นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ 3. นายจุมพล มีสุข กรรมการ 4. นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ กรรมการ 5. นายพงส์สารสิน กรรมการ
          บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)หรือ HMPRO ผู้นำธรุกิจสินค้าปลีกสมัยใหม่ที่จำหน่ายสินค้าและบริการเพื่อที่อยู่อาศัยแบบครบวงจร และมีการขยายสาขารวมถึง26 แห่ง ซึ่งถือเป็นอีกบริษัทที่มีศักยภาพสูงในการดำเนินงาน
          เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเห็นได้ว่าบริษัทสามารถทำกำไรเติบโตได้อย่างสม่ำเสมอ แม้บางครั้งภาวะเศรษฐกิจในช่วงนั้นจะไม่เอื้ออำนวยต่อตัวธุรกิจนัก แต่บริษัทก็ยังสามารถนำพาธุรกิจผ่านพ้นวิกฤตนั้นมาได้อย่างน่าพอใจ
          โดยเฉพาะในช่วงปี 2549 ที่ผ่านมา ที่ถือว่าเศรษฐกิจมีความผันผวนเป็นที่สุด ไม่ว่าจะเป็นค่าเงินบาท น้ำมัน ดอกเบี้ย หรือแม้แต่ความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อการชะลอตัวของผู้บริโภคทั้งสิ้น
          ถึงกระนั้นผลประกอบการปี 2549 (สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2549) ที่ปรากฎในงบการเงินของบริษัท ก็ไม่ได้ทำให้นักลงทุนผิดหวังเลยแม้แต่น้อย จากกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 608ล้านบาท หรือ 0.59 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับปี 2548 อยู่ที่ 504 ล้านบาทหรือ 0.58 บาทต่อหุ้น


          สาเหตุที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมาจากยอดขายจำนวน 14,223 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากปี 2548 จำนวน 12,211 ล้านบาท เป็นผลจากการเติบโตของสาขาเดิม การเปิดสาขาใหม่ และการจัดงาน Homepro Expo จึงถือเป็นภาพสะท้อนอัตราการเติบโตของบริษัทอย่างเห็นได้ชัดเจน
          ประกอบกับมีรายได้อื่นเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 880 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี2548 จำนวน 469 ล้านบาท หรือ 114% เป็นผลเนื่องจากรายได้ค่าโฆษณาและส่งเสริมการขาย,รายได้ค่าเช่าพื้นที่ และรายได้ค่าบริการ ซึ่งเป็นอีกตัวแปรหนึ่งที่ผลักดันให้กำไรสุทธิโตยิ่งขึ้น
          ส่วนสภาพคล่องในการดำเนินงาน แม้จะดูไม่ดีนัก จากที่พบว่าบริษัทมีหนี้สินหมุนเวียน 4,871 ล้านบาท และสินทรัพย์หมุนเวียน 4,088 ล้านบาท ได้ค่า Current Ratio เท่ากับ0.84 เท่า ซึ่งค่าดังกล่าวอาจจะทำให้บริษัทประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน แต่หากพิจารณาถึงประเด็นความสามารถในการทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอแล้ว น่าจะแก้ไขสถานการณ์ต่างๆให้สำเร็จไปได้ด้วยดี
          เมื่อดูโครงสร้างการเงิน จากสัดส่วน ค่า D/E Ratio ที่ระดับ 2.12 เท่า อาจทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการดำเนินงานในอนาคต และความสามารถในการชำระหนี้สิน แต่หากเจาะลึกที่มาที่ไปของหนี้สินจำนวน 8,287 ล้านบาทแล้ว จะเห็นว่าตัวเลขดังกล่าวไม่ได้มาจากการกู้ยืมเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นบริษัทจึงไม่ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยเหมือนเช่นบางบริษัท
          ที่สำคัญฐานะทางการเงินในส่วนของผู้ถือหุ้นที่มีอยู่ 12,203 ล้านบาท และกำไรสะสมอีก 1,346 ล้านบาท ถือเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับบริษัทจดทะเบียนที่มีทุนจดทะเบียนไม่มาก
          เพียงแต่นักลงทุนที่คิดจะเข้าเล่นหุ้นตัวนี้อาจจะคิดหน้าคิดหน้าคิดหลังสักหน่อย เพราะจากที่เห็นว่าหุ้นตัวนี้มีรอบวิ่งที่ค่อนข้างช้ากว่าปกตินั่นเอง

ข่าวหุ้น
/
เข้าชม: 1,151

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com