April 27, 2024   9:21:15 PM ICT
ระบบการเก็งกำไรในมุมมองของตลาดฯ

สองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นเล็กหลายตัวสร้างอภินิหาร ขึ้นมาได้แรงๆ ตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งรับผิดชอบโดยตรงในการตรวจสอบ หรือเปรียบเสมือมือปราบแห่งตลาดหุ้น ตลาดหลักทรัพย์มีระบบที่คอยตรวจสอบการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น และหากราคาร้อนจนแตะระดับที่รุนแรง ระบบก็จะเตือนทันที หลังจากนั้นตลาดก็จะทำหน้าที่ในการเข้าไปตรวจสอบและถามข้อมูลว่ามีเหตุหรือปัจจัยอะไรที่ทำให้หุ้นรุนแรง นาน ๆ ทีผมถึงจะเห็นผู้ที่เกี่ยวข้องลงมาอธิบายให้รายย่อยฟังเสียที


          วันก่อนท่านผู้ช่วยผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ ก็ออกมาบอกว่า ตลาดรู้ข้อมูลและพฤติกรรมการเก็งกำไรของขาใหญ่ทั้งหมด แต่การลงทุนก็เป็นเรื่องปกติที่ทุกคนลงทุนได้ ไม่มีกฎเกณฑ์ที่จะไปห้าไม่ได้เขาเข้าไปเล่นเก็งกำไรในหุ้น แต่ถ้าหากเมื่อใดที่พฤติกรรมการลงทุนต่อไปในทางที่สร้างราคาหรือปั่นหุ้น ก็จะถูกจัดการทันทีเช่นกัน  ถามว่า ทุกวันนี้ตลาดรู้ไหว่ามีขาใหญ่หรือกลุ่มนักลงทุนที่เข้ามาจุดพลุและปลุกราคาหุ้น ในแต่ละตัวหรือไม่ คำตอบคือรู้หมดทุกอย่าง รวมถึงทุกกลุ่ม นอกจากนั้นยังรู้ถึงพฤติกรรมและวิธีการทำราคาหุ้นกันอย่างไร แต่ยอมรับว่าขบวนการเหล่านั้นมีความซับซ้อนมากขึ้นเช่นกัน และระยะเวลาในการเข้าไปลงทุนในหุ้นแต่ละตัวนั้น จะสั้นลง บางตัวจะใช้เวลาเพียง 2 – 3วันแล้วก็จะหยุดและหันไปลงทุนในหุ้นตัวใหม่
          หากจำแนกกลุ่มขาใหญ่ที่ลงทุนในตลาดหุ้นตอนนี้จะมี 2 ลักษณะ คือ ลงสั้นกับยาว โดยพวกที่ลงทุนระยะยาว จะดูว่าหุ้นนั้นมีอนาคตดี จ่ายปันผลโอเค ก็พอใจ ขณะที่พวกลงทุนสั้น ๆ ก็จะใช้ข่าว การบอกต่อ ๆ กันในการเข้าไปและเมื่อนักลงทุนหลาย ๆ รายเข้าไปร่วมวง โอกาสของการทำราคาหุ้นนั้น ๆ ก็ประสบความสำเร็จ
          ส่วนการเข้าไปลงทุนบางกลุ่มจะไม่ใช้ชื่อตัวเอง แม้ไม่ปรากฏชื่อ แต่ก็จะเป็นที่รู้ ๆ กันว่าหุ้นตัวนี้กลุ่มไหนเข้าไปลุย เพราะรูปแบบในการทำราคาหุ้นนั้นจะคล้ายกัน และหุ้นยอดฮิตก็ยังคงเป็นหุ้นที่เพิ่งผ่านพ้นการฟื้นฟูกิจการ หุ้นที่มีสัดส่วนราคาต่อราคาหุ้น หรือ P/E ต่ำ เล่นเทคนิค โดยดูกราฟว่าใกล้เข้าสู่ราคาเป้าหมาย ก็จะเข้าไปไล่และเมื่อราคาหุ้นขึ้นไปถึงเป้าหมายที่ต้องการก็จะปล่อยของพวกเก็งกำไรไม่ว่าตลาดหุ้นจะดีหรือไม่ดี ก็จะเกิดขึ้นตลอดเวลา แต่โอกาสที่จะประสบความสำเร็จในช่วงที่ตลาดมีภาวะซบเซาก็อาจจะเกิดขึ้นน้อยหน่อย ไม่เหมือนช่วงหุ้นดี ๆ ทุกคนก็มีความเชื่อมั่นว่าเมื่อขาใหญ่รายนี้เข้าไป  หุ้นตัวนั้นก็มีโอกาส  ดังนั้นจึงจะเห็นว่ามีปรากฏการณ์เฮโลกันตามเข้าไปลงทุนด้วยทุกครั้งไป


          ปัจจุบันกลุ่มนักลงทุนขาใหญ่ก็ยังคงเป็นกลุ่มเดิม ๆ ทั้งนี้ในกลุ่มของขาใหญ่รายหนึ่ง เช่น กลุ่ม A ก็จะมีความสัมพันธ์และรู้จักกับกลุ่มขาใหญ่อีกกลุ่ม คือ กลุ่ม B และจะมีอีกกลุ่มหนึ่งที่อาจจะเป็นเอกเทศ คือ C ไม่รู้เห็นกัน แต่ก็เข้าไปร่วมด้วย ซึ่งตลาดสามารถที่จำดูแล รู้ได้และยังคงยังคงยืนยันว่าเมื่อไรที่การซื้อขายแตะเข้าสู้ระดับการทำผิดกฎหมายก็จะจัดการทันที
          นอกจากนี้ จะเห็นว่าผู้บริหารหรือกรรมการบริษัทจดทะเบียนบางกลุ่ม  ใช้วิธีการโอนหุ้นออกไปให้คนอื่น ซื้อ ๆ ขาย ๆ หุ้นแทน เพราะหากเป็นนักลงทุนทั่วไป ไม่ต้องรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหุ้นทุกครั้งที่เปลี่ยนมือ เหมือนกฎเกณฑ์ของผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน ยกเว้นว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงการถือหุ้นทุก ๆ 5% ถึงต้องรายงาน

          อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่การกระทำยังไม่เข้าสู่ระดับของความผิดทางกฎหมาย ตลาดฯ อยากจะเห็นกระบวนการลงโทษทางสังคม โดยเฉพาะในส่วนของผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนที่อาจจะเข้ามามีส่วนร่วมหรืออยู่ในขบวนการสร้างราคา  ด้วยการปล่อยข่าวดี ๆ ออกมา ซึ่งหากยังไม่เปิดเผยข้อมูลผ่านระบบตลาดก็จะถูกจี้และซักจนกว่าทุกอย่างจะชัดเจน เพื่อให้นักลงทุนได้รู้และพิจารณาว่าข้อมูลที่บอกมานั้นน่าจะเชื่อถือเป็นจริง ๆ อย่างไร  นี่คนของตลาดหลักทรัพย์พูดเอง ท่านนักลงทุนต้องแบบว่า รู้เขารู้เรา รบร้อย ชนะ 50
          ก่อนจบขอพูดแทนเพื่อน ๆ ชาว Marketing ผมบอกได้เลยว่าพวกผมเป็นชนชั้นสองของประเทศ ในวงการตลาดทุน

          ในโลกนี้มีความอยุติธรรมเต็มไปหมด โลกาภิวัตน์ทำให้ประเทศเล็ก ๆ เสียเปรียบ เจ้าหน้าที่การตลาด ถูกคนมองว่าเป็นมนุษย์ทองคำ เพราะสมัยก่อน Marketing บางท่าน มีรายได้มากกว่า MD ทุกคนเลยรุมกระหน่ำ มีที่ไหน อยากย้ายงานก็ทำไม่ได้ ล่าสุดที่ผมได้ข่าวมา คือ จะมีการปิดสาขาของโบรกเกอร์รายหนึ่ง โดยให้เซ็นต์ใบลาออก จะได้ไม่ต้องจ่ายตามกฎหมายแรงงาน ทำเข้าไปได้ สงสัยคงไม่คิดว่าจะคบกันแล้วในชาตินี้ ผมแนะนำเจ้าหน้าที่การตลาดที่โดนโบรกเกอร์ต้นสังกัดทำแบบนี้ ให้ไปลองคุยที่สหภาพแรงงาน หรือถ้าใครอยากทำงานในวงการนี้จริง โทรมาสมัครงานที่ผมได้ ผมรับประมาณ 10 ท่าน ให้มันรู้ไปว่า ตลาดหุ้นไทยจะไม่กลับมารุ่งอีกแล้ว

ทันหุ้น
เข้าชม: 1,640

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com