บล.บัวหลวงเราคาดว่ากำไรในปี 2550 จะปรับตัวลดลง 12% จากปีก่อนหน้าเนื่องจากการปิดซ่ อมบํรุงโรงไฟฟ้าและค่าความพร้อมจ่ายต่อหน่วยที่ ลดลง อย่างไรก็ตาม กำไรจะดีดกลับในปี 2551 จากการเริ่มเปิดดำเนินงานของโรงไฟฟ้า RPCL ขนาด1,400 เมกกะวัตต์ (ซึ่ง RATCHถือครองหุ้นอยู่ 25%) และกำหนดการปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าที่ลดลง
          บล.โกลเบล็กแม้ผลประกอบการปี 49 จะออกมาต่ำกว่าที่คาด แต่เรายังคงมุมมองสำหรับปี 50ตามเดิมโดยคาดว่าในปี 50 นั้นเนื่องจากบริษัทไม่มีโครงการโครงการใหม่ที่จะรับรู้เพิ่มขึ้นประกอบกับตามแผนจะมีการปิดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ โรงไฟฟ้าทั้งหมด 4 ยูนิต ตั้งแต่ช่วงกลางไตรมาส 2 ต่อเนื่องจนถึงไตรมาส 4
          บล.เกียรตินาคินแม้เรามองว่าในปี 2550 จะไม่มีกำลังการผลิตใหม่เข้ามา ประกอบกับมีจำนวนวันในการเดินเครื่องจักรที่ลดลง ซึ่งน่าจะทำให้ผประกอบการลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2550 แต่บริษัทจะมีการรับรู้รายได้จากการประกันภัยที่ตั้งเป็นค่าใช้จ่ายในไตรมาส 4/2549 จำนวน 750 ล้านบาท ทำให้เราคาดว่าผลประกอบการปี 2550 บริษัทจะมีกำไรใกล้เคียงกับปี 2549
          บล.สินเอเชียRATCH จะจ่ายปันผลสำหรับ 2H49 ประมาณ 1.25 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนที่ 2.0% สำหรับผลประกอบการ 2H49และคาดว่าเงินปันผลรวมของปี 49 จะอยู่ที่ 2.25 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราเงินปันผลที่ 5.17% ต่อปี ทั้งนี้ RATCH ยังมีโอกาสขยายกาลงทุนในโรงไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ
          บริษัทหลักทรัพย์ ซื้อ ขาย ถือ ราคา/บาทบล.บัวหลวง / - - 50.00บล.โกลเบล็ก / - - 47.00บล.เกียรตินาคิน / - - 49.00บล.สินเอเชีย / - - 48.00

ที่มา ข่าวหุ้น