ยิ่งในปัจจุบัน ได้มีกลุ่มผู้ประกอบการรายใหม่ที่มีความสัมพันธ์หรือเกี่ยวข้องกับบริษัทรถยนต์ได้เข้ามาตั้งโรงงานผลิตสินค้า รวมถึงการแข่งขันของผู้ผลิตในต่างประเทศที่นำเข้ามาในประเทศ ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายการลดภาษีของ AFTA และจากการเจรจาทวิภาคีเกี่ยวกับ AFTA กับประเทศต่างๆ โดยเฉพาะกับประเทศจีน จนทำให้การแข่งขันมีความรุนแรงสูงขึ้น
รวมทั้งการที่ยอดขายสินค้าต้องขึ้นอยู่กับยอดขายรถยนต์ ย่อมทำให้ต้นทุนการดำเนินงานยากที่จะควบคุมได้ และจะส่งผลกระทบต่อตัวบริษัทมากเป็นพิเศษ เพราะฐานลูกค้าส่วนใหญ่เป็นพวกรถยุโรป ซึ่งเรื่องดังกล่าวกำลังเกิดขึ้นกับตัวบริษัทในภาวะปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังมีเรื่องวัตถุดิบอย่างท่อทองแดงและอลูมิเนียม ซึ่งการเปลี่ยนแปลงด้านราคาอยู่ตลอดเวลา ยากแก่การประมาณการ และผู้ขายมักจะปรับราคาขายเมื่อโลหะทั้งสองมีราคาสูงขึ้นตลอดเวลา โดยปริมาณการใช้ท่อทองแดงและอลูมิเนียมตกอยู่ร้อยละ 40 ของต้นทุนการผลิตเลยทีเดียวนะครับ
เรื่องดังกล่าวถือเป็นผลกระทบที่ไม่สามารถผลักภาระต้นทุนที่สูงขึ้นไปยังลูกค้าได้ ส่งผลให้กำไรขั้นต้นอยู่ในระดับร้อยละ 10 ของราคาขาย และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้บริหารหันไปทำธุรกิจเหล็กเป็นการเสริมรายได้ เพราะเชื่อว่าตนเองเป็นหนึ่งในผู้รู้เรื่องเหล็กดีสุดในอุตสาหกรรม
น่าเสียดายที่ผู้บริหารอย่าง ชำนิ จันทร์ฉาย ไม่สามารถแสดงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเรื่องการลงทุนต่างๆ ได้เป็นชิ้นเป็นอัน ผมเลยไม่เชื่อว่าหุ้นตัวนี้จะมีอนาคตสดใสเหมือนกับที่ผู้บริหารบอกกับผู้ถือหุ้น
โดยเฉพาะธุรกิจเหล็กที่เข้าไปลงทุน สุดท้ายก็ไม่เห็นมีอะไรคืบหน้าอย่างที่เป็นข่าวเลยนะครับ
ผมเองวิเคราะห์เป็นฉากๆ ได้แค่นี้ ที่เหลือต้องให้ผู้บริหารของบริษัทชี้แจงนักลงทุนกันเอาเอง เพราะไม่อยากขุดคุยเรื่องเก่าๆ ในอดีตมาพูดนั่นเอง