ผู้ถือหุ้นรายใหญ่1. บริษัท สุเอซ เอ็นเนอจี (ประเทศไทย) จำกัด 645,259,773 หุ้น 44.11%2. SUEZ-TRACTEBEL ENERGY HOLDINGS COOPERATIEVE U.A.
          365,716,260 หุ้น 25.00%3. STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY 84,505,225 หุ้น 5.78%4. NORTRUST NOMINEES LTD. 35,913,065 หุ้น 2.45%5. LITTLEDOWN NOMINEES LIMITED 7 22,544,454 หุ้น 1.54%คณะกรรมการ1. นายกี ริชเชล ประธานกรรมการ 2. นายปีเตอร์ วาเลอร์ เจอร์เมน เทอร์โมทประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 3. นายดีเรคซ์ เบเออชาร์ด กรรมการ 4. นายกิโด เกฮาร์ดกรรมการ 4. นายอนุตร จาติกวณิช กรรมการ
          บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW ผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่กฟผ. และเป็นผู้ให้บริการด้านสาธารณูปโภคทางอุตสาหกรรม ในภาคเอกชนรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ที่มีฝีมือการบริหารงานเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
          เห็นได้จากผลการดำเนินงานตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ที่บริษัทสามารถทำกำไรได้ในระดับที่น่าพอใจเสมอมา โดยเฉพาะผลประกอบการสำหรับปี 2549 (สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2549)ที่ถือว่ามีความโดดเด่นชัดเจนกว่าที่เป็นมายิ่งนัก
          ด้วยกำไรสุทธิทธิที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดจำนวน 5,596 ล้านบาท หรือ 3.83 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 44% จากปี 2548 อยู่ที่ 3,865 ล้านบาท หรือ 2.69 บาทต่อหุ้น ซึ่งตัวเลขกำไรสุทธิดังกล่าว นับเป็นการเติบโตในอัตราที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัทก็ว่าได้
          โดยกำไรสุทธิที่โดดเด่นนี้เป็นผลมาจากรายได้หลักหรือรายได้จากการขายจำนวน 32,593.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากปี 2548 อยู่ที่ 28,494 ล้านบาท เป็นผลมาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของยอดจำหน่ายไฟฟ้าให้กับกฟผ. ของบจ. โกลว์ ไอพีพี ประกอบกับค่าเอฟทีได้ปรับขึ้นไป 30.25 สตางค์ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 63.2
          ที่สำคัญบริษัทมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวนสูงถึง 1,156.3 ล้านบาท โดยกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนนี้ มีสาเหตุหลักมาจากเงินกู้สกุลเหรียญสหรัฐฯของบจ. โกลว์ ไอพีพีซึ่งจะชำระคืนโดยอาศัยรายได้จากยอดจำหน่ายไฟฟ้าให้กับกฟผ. ที่มีการอ้างอิงกับเงินสกุลเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งดังกล่าวถือเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันให้กำไรสุทธิเติบโตขึ้นได้อย่างก้าวกระโดด

          อีกทั้งบริษัทยังรับรู้ดอกเบี้ยรับเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 105 ล้านบาท ซึ่งมาจากดอกเบี้ยเงินสดที่เก็บไว้ในรูปเงินฝาก ตราสารและบัญชีสำรองตามสัญญาเงินกู้โครงการ และรายได้อื่นอีก 36 ล้านบาท ที่มาจากการขายชิ้นส่วนที่ไม่ใช้แล้วภายใต้สัญญาซ่อมบำรุงฉบับเก่าและกำไรจากการยกเลิกสัญญาแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากมีการชำระหนี้คืนก่อนกำหนดของบ จ. โกลว์ เอสพีพี 1
          ด้านสภาพคล่องในการดำเนินงาน พบว่าบริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียน 13,039 ล้านบาทและหนี้สินหมุนเวียน 8,909 ล้านบาท ได้ค่า Current Ratio เท่ากับ 1.46 เท่า ถือว่าบริษัทมีสภาพคล่องตัวดี จากความสามารถในการทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ
          ส่วนโครงสร้างทางการเงิน หรือ D/E Ratio เท่ากับ 2.05 เท่า โดยมีส่วนของผู้ถือหุ้น 26,440 ล้านบาท และหนี้สินรวม 28,168 ล้านบาท แม้ค่าความเสี่ยงที่ได้อาจดูไม่ดีนัก แต่เมื่อดูตัวธุรกิจที่มีการขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง จึงถือเป็นเรื่องปกติที่จะต้องกู้ยืมเงินเพื่อนำมาจับจ่ายใช้สอย ให้ธุรกิจเดินหน้าไปอย่างราบรื่น
          เหล่านี้ล้วนเป็นผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมของ GLOW ซึ่งมุ่งเน้น และให้ความสำคัญในการขยายธุรกิจ และการเติบโตอย่างยั่งยืน
          น่าเสียดายที่บริษัทมีความรับผิดชอบต่อสังคมน้อยเกินไป ทำให้ข่าวคราวของบริษัทออกมาในทางลบมากกว่าทางบวก หลังปล่อยมลพิษในเขตอุตสาหกรรมมาบตาพุดเกินกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้มากนั่นเอง