หมอบุญ” ส่งบริษัท ราชธานีบ้านและที่ดิน เข้าตลาดหุ้นทางอ้อม เล็งเทกโอเวอร์บริษัท APC ผลิตสีดัชบอย ในหมวดฟื้นฟูกิจการ คาดใช้เงินลงทุนไม่ถึง100 ล้านบาท
แหล่งข่าวจากวงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า บริษัท ราชธานีบ้านและที่ดิน ซึ่งมี นพ.บุญ วนาสิน เจ้าของโรงพยาบาลปิยะเวช เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหาร กำลังเจรจาอย่างจริงจังเพื่อซื้อบริษัท แอ็ดวานซ์ เพ้นท์ แอนด์ เคมิเคิล (ไทยแลนด์) หรือ APC โดยนำบริษัท ราชธานีบ้านและที่ดิน เข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
สำหรับการซื้อหุ้นล็อตใหญ่นี้มีแนวโน้มเป็นลักษณะของการครอบงำกิจการหรือเทกโอเวอร์ เพื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์ทางอ้อม หรือแบ็กดอร์ลีสติง ซึ่งการเจรจาใกล้ได้ผลสรุป และต้องการให้ทันก่อนที่ บริษัทแห่งนี้จะหมดระยะเวลาของการ ฟื้นฟูกิจการ ไม่เช่นนั้นบริษัทดังกล่าวจะพ้นสภาพการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งไม่มีประโยชน์กับผู้ซื้อที่ต้องการเข้าตลาดหุ้นทางอ้อม
ทั้งนี้ บริษัท แอ็ดวานซ์ เพ้นท์ฯ เป็น ผู้ผลิตสีตรา ดัชบอย ปัจจุบันอยู่ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่แก้ไขการดำเนินงาน ไม่ได้ตามกำหนดจากโครงสร้างผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 16 มีนาคม 2549 มีบริษัท ทรัพย์ สำอางค์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ สัดส่วน 5.37% นายบรรจง บุญช่วยเสริม ถือหุ้น 3.84%
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า นพ.บุญ สนใจบริษัท APC ที่อยู่ในกลุ่มฟื้นฟูกิจการ ขณะนี้ไม่มีธุรกิจแล้ว หากบริษัท ราชธานีฯ เข้าไปถือหุ้น จะเอื้อต่อการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้านที่อยู่อาศัยของ นพ.บุญได้
“บริษัท ราชธานีบ้านและที่ดิน ของหมอบุญ มีเป้าหมายที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่หากผลการเจรจาซื้อบริษัทในตลาดได้ คาดว่าไม่จำเป็นที่บริษัท ราชธานีฯ ต้องเข้าตลาดหุ้นด้วยตัวเอง แต่จะเข้าทางอ้อมด้วยการเทกโอเวอร์บริษัทสีแห่งนี้ ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับผลการเจรจาซื้อขายหุ้นระหว่างผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วย ว่าจะยกหุ้นจำนวนมากขายหรือไม่” แหล่งข่าวเปิดเผย
สำหรับมูลค่าเงินลงทุนครั้งนี้ แหล่งข่าวคาดว่าจะใช้เงินไม่ถึง 100 ล้านบาทในการซื้อหุ้น ซึ่งถือว่าราคาที่ซื้อไม่สูง และบริษัท ราชธานีฯ มีเงินทุนเพียงพอ โดยปีนี้คาดว่าจะมีรายได้หลายพันล้านบาท และสนใจเข้าลงทุนอีกหลายบริษัท
อย่างไรก็ตาม สัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวแพร่สะพัดว่าบริษัท ราชธานีฯ ของ นพ.บุญ จะเข้าไปซื้อหุ้นบริษัท คริสเตียนี แอนด์ นีลเส็น (ประเทศไทย) หรือ CNT สัดส่วน 42% จากธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่ง เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ CNT ซึ่ง นพ.บุญ ได้ปฏิเสธและระบุเพียงว่าเป็นแค่พันธมิตรรายหนึ่งที่จะเข้าไปร่วมประมูลรถไฟฟ้าเท่านั้น ไม่ถึงขั้นเจรจาซื้อขายหุ้นกัน แต่บริษัท ราชธานีฯ มีความสนใจหลายบริษัท มีทั้งบริษัทในตลาดหลักทรัพย์และนอกตลาดหลักทรัพย์
ด้านวาณิชธนากรรายหนึ่งเปิดเผยว่า ในช่วงนี้เกิดรายการเทกโอเวอร์ของบริษัทหลายแห่ง ไม่ได้เป็นตัวสะท้อนว่ามาจากเหตุเศรษฐกิจตกต่ำ แต่เป็นแนวโน้มของการดำเนินธุรกิจตามปกติ และเกิดขึ้นได้กับทุกอุตสาหกรรม ซึ่งหากผู้ซื้อและผู้ขายพอใจในเรื่องของราคาหุ้น การเทกโอเวอร์ก็จะประสบความสำเร็จ
Posttoday
|