April 29, 2024   12:39:56 AM ICT
IEC ขาดทุนอ่วม

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่1. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 68,966,500 หุ้น 4.37%2 นางผุสดี นาคอินทร์ 55,100,000 หุ้น 3.49%3 นายบี เตชะอุบล 55,000,000 หุ้น 3.49%4 นายพิทยา แก้วธรรมานุกูล 45,000,000 หุ้น 2.85%5 น.ส.ฉัตร์สุดา เบ็ญจนิรัตน์ 2,522,500 หุ้น 2.70%คณะกรรมการ1. ร้อยโทสมศักดิ์ ยมะสมิต ประธานกรรมการ 2. นายสุมิท แช่มประสิทธิ์ ประธานกรรมการบริหาร 3. นางสัณห์จุฑา วิชชาวุธ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ 4. นายศรายุทธ กอุพาณิชานนท์ กรรมการ 5. นายสมใจ นิลสิทธานุเคราะห์ กรรมการ
          บริษัทอินเตอร์แนชั่นเนิล เอนจีเนียริง หรือ IEC ประกาศผลการดำเนินงานประจำปี2549 (สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2549) ปรกฎผลขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 981.66ล้านบาท หรือ 0.61 บาทต่อหุ้น จากช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 243.64 ล้านบาทหรือ 0.28 บาทต่อหุ้น เป็นการตอกย้ำให้รู้แผนการลงทุนต่างๆของผู้บริหารไม่ได้สร้างกำไรอย่างที่ตั้งความหวังไว้
          เนื่องจากผลขาดทุนที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมหาศาลเกิดจากการลงทุนที่ไร้แบบแผนที่ชัดเจนหรือเรียกว่ามั่วซั่วคงไม่ผิดเพี้ยนมากนัก เพราะผลขาดทุนดังกล่าวล้วนเกิดจากการต้นทุนในการดำเนินงานพุ่งพรวดอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งสวนทางกับคำสัมภาษณ์ของผู้บริหารที่ให้เคยบอกว่า จะก่อให้เห็นพลังผนึกอย่างสิ้นเชิง
          ตรงจุดนี้เองที่ก่อให้เกิดคำถามตามมาว่า บริษัทแห่งนี้ดีจริงตามคำพูดของผู้บริหารระดับสูงที่บอกกับนักลงทุนไว้จริงเหรอ ในเมื่อภาพที่ปรากฎต่อสาธารณชนทั่วไปเหมือนกับว่าผู้บริหารกำลังเล่นเกมการเงินอะไรบ้างอยู่มากกว่า


          เพราะตัวธุรกิจที่ทำอยู่ทุกวันนี้สร้างมาร์จิ้นได้เพียงร้อยละ 5 และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนก็อยู่ที่ร้อยละ 7 เท่ากับเป็นการสะท้อนโอกาสในการทำกำไรในอนาคตแทบไม่มีทางเป็นจริงได้เลย เพราะความสามารถในการทำกำไรเท่านี้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
          นั่นหมายความว่าบริษัทมีต้นทุนการดำเนินงานหลายอย่างเพิ่มขึ้นมากกว่ารายรับหลายเท่า อาทิ รายได้จากการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์มีเพียง 26.19 ล้านบาท แต่กลับแบกรับต้นทุนการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์สูงถึง 52.62 ล้านบาท
          รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารงานเพิ่มขึ้นเป็น 723.55 ล้านบาทจากช่วงเดียวของปีก่อนมีแค่ 458.31 ล้านบาท ก็เป็นเรื่องที่ชวนให้สงสัยว่า ผู้บริหารกลุ่มนี้บริหารงานกันประสาอะไรถึงทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทั้งที่ยอดขายในปีที่ผ่านมาลดลงเหลือ 4,160.95 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5,249.10 ล้านบาท
          นอกจากนี้ยังมีการขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากเงินลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อค้า 33. 90ล้านบาท และขาดทุนจากการด้อยค่าของเงินลงทุนในบริษัทร่วม 276.11 ล้านบาท รวมทั้งขาดทุนจากการด้อยค่าเงินมัดจำเพื่อซื้อสิทธิโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 60.50 ล้านบาท


          ที่สำคัญ คือ ผลขาดทุนจากส่วนแบ่งเงินลงทุนตามวิธีได้เสียเพิ่มขึ้นเป็น 86.53 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุน 19.39 ล้านบาท น่าเป็นภาพสะท้อนวิสัยทัศน์อันตื้นเขินได้ดีเลยทีเดียว พร้อมกันนั่นยังแสดงให้เห็นว่าผู้บริหารสนใจเล่นเกมการเงิน และเกมราคาหุ้นมากกว่าสนใจทำธุรกิจอีกด้วย
          ข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมาล้วนเป็นเรื่องน่าอดสูใจอย่างยิ่ง เพราะผลขาดเป็นจำนวนมหาศาลในครั้งนี้ คือ เงาสะท้อนตัวตนที่แท้จริงของผู้บริหารระดับสูงทั้งสองฝ่ายเป็นคนเช่นไรได้เป็นอย่างดีนั่นเอง

ข่าวหุ้น
/
เข้าชม: 2,012

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com