แต่ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นก็คือ การล่มสลายของธุรกิจ internet และดอทคอม ทั้งหลายในปี 2000 ทำให้นักลงทุนและองค์กรธุรกิจ เริ่มมีแนวคิดเชิงอนุรักษ์มากขึ้นกว่าก่อนหน้านั้นที่นึกถึงแต่อัตราการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจและเงินลงทุนแต่อย่างเดียว

อัตราผลกำไรที่ต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอประกอบกับความสามารถในการทำกำไรและอัตราส่วนทางการเงินที่ดี กลายเป็นจุดสนใจหลักที่นักลงทุนกลับมามองและให้ความสำคัญอีกครั้ง องค์กรธุรกิจเริ่มกลับมาให้ความสำคัญกับผลประโยชน์และความปลอดภัยของเงินลงทุนของผู้ถือหุ้นอย่างเคร่งครัด ซึ่งทำให้การปันผลแก่ผู้ถือหุ้นกลายเป็นประเด็นสำคัญของนโยบายบริษัท ในหลายองค์กรธุรกิจ

การลงทุนในกลุ่มองค์กรและธุรกิจที่มีอัตราการปันผลสูงนั้นไม่เคยล้าสมัย แม้ว่าแนวคิดการลงทุนในลักษณะนี้เป็นธรรมเนียมปฏิบัติในประวัติศาสตร์อันยาวนานแห่งการลงทุนมาแล้วก็ตาม

และเหตุผลที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งก็คือ การค้นพบว่า อัตราผลตอบแทนโดยรวม (Total Return) ของ S&P 500 Index นับแต่ปี 1926-2006 เราพบว่าเงินปันผล เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างผลตอบแทนในดัชนีนั้นและมีสัดส่วนถึงประมาณ 1 ใน 3 ของอัตราผลตอบแทนโดยรวม และความจริงที่ยิ่งน่าสนใจกว่านั้นก็คือ หุ้นกลุ่มที่มีอัตราการปันผลสูงได้สร้างผลตอบแทนโดยรวมดีกว่าหุ้นกลุ่ม internet ในช่วงปี 1985-2000 ที่หุ้นกลุ่ม internet กำลังรุ่งเรืองจนถึงจุดล่มสลาย

ปรากฏการณ์จากความจริงดังกล่าว ทำให้เชื่อได้ว่า การลงทุนในหุ้นที่มีอัตราการปันผลสูงและนโยบายธุรกิจเชิงอนุรักษ์นั้น ในระยะยาวแล้วน่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าธุรกิจที่มีขนาดเล็กและมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว อันเนื่องมาจากความสามารถเชิงเทคโนโลยี เพราะเทคโนโลยีนั้น มักจะพบกับการแข่งขันที่สูงจากเทคโนโลยีอื่นๆ ที่ทันสมัยกว่า ดังนั้นราคาหุ้นกลุ่มนี้จึงมีความผันผวนสูง และผู้ที่ชนะอย่างรวดเร็วในวันนี้ก็กลับกลายเป็นผู้แพ้ในข้ามคืนเช่นกัน

ในปี 2007 เป็นช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังมีทิศทางว่าจะมีการเจริญเติบโตในอัตราที่ช้าลงกว่าในช่วงที่ผ่านมา การลงทุนในกลุ่มหุ้นปันผลยิ่งมีความน่าสนใจ และหากมองว่าตลาดหุ้นไทย ยังมีความเสี่ยงอันเนื่องมาจากปัจจัยทางการเมืองแล้ว การลงทุนในหุ้นที่มีอัตราการปันผลสูงของตลาดต่างประเทศทั่วโลก (Global

จุมพล สายมาลา : www.ingfunds.co.th