ช่วงนี้พอดีมีหลายๆคนติดหุ้นมาคุยด้วยเยอะ เลยอยากจะแนะนำอะไรเล็กๆน้อยๆน่ะครับ ปกติเวลาคนเราชอบคิดว่าพอติดหุ้นตัวไหน มักจะไม่กล้าขายแล้วไปซื้อตัวอื่น เพราะคิดว่าถ้าขายแล้วจะถือว่าขาดทุน แต่จริงๆแล้วมันก็มีค่าเท่ากันนั่นแหละครับ เพราะถ้าสมมติคุณขายหุ้นตัวนั้นแล้วขาดทุน 1 ล้านแต่คุณไปซื้อหุ้นที่ดีกว่า แล้วถ้าหุ้นตัวใหม่ที่ซื้อมันขึ้นไปเยอะ ได้กำไรกลับมา 1 ล้านก็มีค่าเท่ากันอยู่ดี

แต่สาเหตุหลักที่คนติดหุ้นส่วนใหญ่มักไม่กล้าทำเช่นนั้น เพราะมักจะเกิดความกลัวว่าซื้อตัวใหม่จะดีกว่าตัวเก่าจริงหรือเปล่า? หรือไม่ก็ถ้าขายตัวเก่าไปแล้ว ตัวเก่ามันขึ้นมาจะเสียโอกาส
ซึ่งเหตุผลต่างๆเหล่านี้ทำให้รายย่อยที่ติดหุ้นไม่กล้าที่จะดัดแปลงแก้ไขพอร์ต ทำให้ต้องอยู่ในภาวะติดหุ้นตลอด ไม่เป็นอันทำอะไรซะที

การที่เราจะหลุดพ้นจากคำว่าติดหุ้นได้นั้น เราต้องเริ่มต้นคิดอะไรใหม่ๆครับ
คนเรามักคิดว่า เอาน่ะ ติดหุ้นครั้งนี้ รอมันขึ้นกลับมาเท่าทุนจะขายทิ้ง แล้วตั้งต้นใหม่ ซื้อแต่หุ้นดีๆแล้ว
ซึ่งกว่ามันจะขึ้นมาให้คุณขายเท่าทุน พอคุณขายไป ดัชนีก็มักจะขึ้นมาเยอะแล้ว คุณก็มักจะนึกว่า เอาล่ะ หลุดพ้นการติดหุ้นซะที ต่อไปนี้จะเริ่มซื้อแต่หุ้นดีๆแล้ว แล้วพอซื้อไป ถึงแม้จะเป็นหุ้นดีแค่ไหน แต่เนื่องจากมันขึ้นมาเยอะแล้ว มักจะเป็นจุดที่ดัชนีมีการปรับฐานพอดี หรือไม่ถึงไปต่อก็ไปได้อีกไม่ไกล ... สุดท้าย การซื้อครั้งใหม่ ก็จะนำไปสู่การติดหุ้นต่อ เป็นวังวนไปเรื่อยๆ ไม่มีสิ้นสุด

ที่ผมบอกว่าเราต้องเริ่มต้นคิดอะไรใหม่ๆ คือต้องล้มเลิกความคิดซะว่าเรากำลังติดหุ้น
ให้คิดซะว่าเราเริ่มใหม่จากศูนย์ แต่เป็นการเริ่มใหม่ที่ได้เปรียบมือใหม่ทั่วไป เนื่องจากเรามีประสบการณ์ความผิดพลาดมาแล้ว
ที่ผมบอกว่าเริ่มต้นใหม่ คือเริ่มจริงๆ ให้ลืมเรื่องที่ขาดทุนไปทั้งหมด แล้วตั้งหน้าตั้งตาบริหารพอร์ต เข้าเลือกซื้อจังหวะดีๆ สุดท้ายแล้วกำไรที่ได้มันก็จะชดเชยกับการขาดทุนในอดีตได้เอง อย่าไปคิดตั้งเป้าว่าจะเอาเงินคืนให้ได้ภายในเท่าโน้นเท่านี้ ... เพราะสุดท้าย ระยะเวลาที่คุณกำหนดมันจะผูกมัดกลายเป็นตัวเร่งเร้าให้คุณเข้าไปรีบซื้อหุ้นโดยขาดการไตร่ตรองที่ดี สุดท้ายก็จะนำไปสู่การติดหุ้น(อีกครั้ง) ในที่สุด

เมื่อตั้งต้นใหม่เลิกมองส่วนที่ขาดทุน แล้วก็หันมามองหุ้นที่เหลือในพอร์ตซะ ว่าเป็นหุ้นที่ดี ไม่ดี
คัดแยกหุ้นดี-หุ้นเน่า ออกจากกันซะ หุ้นดี ผมคงไม่ต้องอธิบายมาก หุ้นเน่านั้น มันมีหลายความหมาย
ความหมายของผม หุ้นเน่าก็คือ หุ้นที่เราถืออยู่ด้วยความหวังลมๆแล้งๆว่าจะมีคนลากราคากลับขึ้นไปที่เดิมบ้าง
เดี๋ยวคงมีข่าวดีบ้าง ทั้งที่มันไม่มีวี่แววเลย และยังมีหุ้นอีกประเภทคือประเภทหุ้นซื้อตามคนอื่น
หุ้นประเภทนี้ มักมาจากการซื้อตาม มาร์ ซื้อตามเพื่อน ซื้อเพราะพรายกระซิบ ฯลฯ
หุ้นประเภทนี้ เมื่อคนติดดอยแล้วมักจะไม่รู้ต้องทำไงนี่ ก็เลยตามเลยถือต่อไปก็ได้ฟะ
เราควรจะจัดแยกหุ้นประเภทนี้ให้รู้ไปเลยว่าเป็นหุ้นดี หรือหุ้นเน่าได้ด้วยการพยายามมาทำการบ้านเอง
ศึกษาให้อย่างหนัก ว่า... เอ หุ้นตัวนี้มันทำกิจการอะไรน๊า มันมีแนวโน้มเป็นยังไง ภาคธุรกิจที่บริษัทนี้ทำอยู่ยังไปไหวมั้ย ... คือลองหัดวิเคราะห์เองแล้วคิดเองว่า เมื่อเราวิเคราะห์หุ้นตัวนี้อย่างถึงพริกถึงขิงแล้วเนี่ย... สมมติถ้ายังไม่มีมันในพอร์ต และราคาตกลงมาถึงตอนนี้ เราจะยังซื้อมันอยู่มั้ย ... ประการสำคัญ! อย่าฟังเพื่อนหรือใครก็ตามที่แนะนำมา
เพราะเค้าต้องพูดถึงมันด้วยความหวังอยู่แล้ว ถ้าเป็นผม... ผมแนะนำให้เพื่อนซื้อหุ้นแล้วติดยอดทั้งคู่ขึ้นมา ผมคงไม่บอกหรอกว่า อ๋อ... หุ้นมันแย่ว่ะ ขายๆทิ้งไปเหอะ .... แต่ผมต้องพยายามลุ้นให้เพื่อนและตัวเองกลับมาเท่าทุนอยู่แล้ว (เพราะกลัวเพื่อนด่า)

ครับ.. ร่ายมานาน .. เมื่อคุณสามารถคัดแยกหุ้นดี-หุ้นเน่า ในพอร์ตได้แล้ว ... ให้ทำการขายหุ้นเน่าทั้งหมดทิ้งออกไป โดยไม่เหลียวมองเลย ไม่ว่ามันจะเป็นลูกใคร พ่อใคร แม่ใครก็ตาม แล้วจะได้เงินมาก้อนหนึ่ง ... ให้นำเงินก้อนนี้มาซื้อเฉลี่ยเพิ่มหุ้นดีที่คุณได้คัดไว้ หรือไม่ก็นำไปซื้อหุ้นดีๆตัวอื่นๆที่ยังไม่มีในพอร์ตก็ได้ (เพราะปัญหาของคนติดหุ้นคือ พอตลาดเริ่มทำท่ากลับตัว เรากลับไม่มีเงินเหลือที่จะซื้อดีๆใหม่ๆไว้ในพอร์ต ต้องกัดก้อนเกลือกินแต่ของเก่าต่อไป) เท่านี้คุณก็จะมีแต่หุ้นดีๆที่คัดสรรไว้แล้วรอให้ SET index ช่วยพามันทะยานขึ้นฟ้า .... อย่าครับ อย่าคิดว่า SET ขึ้นแล้วหุ้นทุกตัวต้องขึ้นตามหมด
ถ้าหุ้นบางตัวในพอร์ตไม่ดีพอ และเน่าเกินไปกว่าที่จะมีใครมาช่วยกันช้อนดันมันขึ้น... มันก็ไม่สามารถขึ้นได้ครับ ต่อให้ SET ทำ high ใหม่ที่ 2000 จุดก็ตาม ... หลังจากนี้คุณจะเริ่มต้นกับชีวิตการลงทุนใหม่ๆเหมือนคนอื่นได้ โดยไม่ต้องรอให้ปาฎิหารย์เกิด ได้แลกเปลี่ยนความเห็นกับนักลงทุนคนอื่นทั่วไป เสมือนว่าเราเพิ่งเดินเข้าตลาดมาช้อปปิ้ง เมื่อเจอหุ้นดีๆแล้วก็ไม่ต้องมานั่งบ่นกับตัวเองอีกต่อไปว่า... เฮ้อ อยากซื้อตัวนี้จัง แต่ติดหุ้นอยู่ ไม่มีเงินซื้อ... คำว่า ติดหุ้น มันเป็นเพียงกำแพงที่เราสร้างขึ้นเองครับ

มีข้อห้ามข้อเดียวครับ! อย่าไปสนราคาหุ้นเน่าต่างๆที่เราได้ขายทิ้งไป ต่อให้มันจะวิ่งไป ceiling ก็ตาม... เพราะเมื่อเราตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะเริ่มต้นใหม่ เราต้องตั้งหน้าตั้งตาฟูมฟักไข่คุณภาพดีในตะกร้าที่เราคัดสรรด้วยมือตัวเองให้ดีต่อไป
การมานั่งเสียดายและลังเลกับราคาหุ้นตัวที่เราตัดสินใจโยนมันทิ้งไปแล้วจะทำให้เราไม่เกิดความสุขในการเริ่มต้นใหม่ และอาจจะทำให้เสียวินัยการลงทุน หวนกลับไปติดวัฎจักรเดิมๆได้ครับ

ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน และบทความทั้งหมดนี้ก็ไม่ใช่คัมภีร์ลับสำหรับแก้การติดหุ้นแต่อย่างใด
เป็นเพียงความเห็นของผมที่นำมารวมรวมกับประสบการณ์ที่ผ่านมาของทั้งตัวเองและประสบการณ์ที่ได้พบพูดคุยกับผู้อื่น
แต่ผมก็หวังว่าคนติดหุ้นทุกท่านที่ได้อ่านคงจะอ่านแล้วได้เกิดแนวคิดอะไรใหม่ๆขึ้นมาบ้าง ไม่มากก็น้อย
ถ้าใครไม่เห็นด้วยหรือเห็นด้วยอย่างไร ก็ขอพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ครับ

ช่วงนี้ผมคิดว่าหุ้นเริ่มกลับตัวแล้ว การแก้ไขพอร์ตเพื่อรองรับการขึ้นของ SET น่าจะเป็นเรื่องที่เหมาะสมครับ
อย่าลืมครับ.... หุ้นทุกตัวมันลงมาแทบพร้อมกันเมื่อ SET ลง แต่เวลาขึ้นมันไม่จำเป็นต้องขึ้นเหมือนกันหมดทุกตัวครับ