| หลักการของ การคัดเลือกหุ้น (Stock Selection) นั้น ผู้ลงทุนจะต้องทำการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของบริษัท เพื่อให้ทราบถึงผลประกอบการของบริษัทนั้นๆ ทั้งในปัจจุบัน และแนวโน้มในอนาคต ซึ่งรวมไปถึงความสามารถในการทำกำไร และอัตราการเจริญเติบโตของผลกำไรของบริษัทดังกล่าวด้วย อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทอาจจะช่วยให้สามารถบ่งชี้ได้ว่า บริษัทไหนบ้างที่เป็นบริษัทที่ดี แต่ก็มิได้หมายความบริษัทที่ดีเหล่านั้นจะเป็นการลงทุนที่ดีไปด้วยเสมอไป มาถึงตรงนี้ หลายๆ ท่านอาจจะเกิดคำถามขึ้นมาว่า ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? คำตอบก็คือ บริษัทที่ดีอาจจะมีราคาหุ้นที่ซื้อขายกันอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ที่สูงเกินไป (Overpriced) ในขณะที่บริษัทที่มีผลประกอบการไม่ค่อยดีนัก อาจจะมีราคาหุ้นที่ต่ำเกินไป (Underpriced) ซึ่งในกรณีนี้การลงทุนในบริษัทแบบหลัง อาจจะเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าก็ได้ ดังนั้น ในการคัดเลือกหุ้น เราจะต้องตอบคำถามให้ได้ 2 ข้อเสียก่อน
ข้อแรก ได้แก่ ณ ขณะใดขณะหนึ่ง กลุ่มอุตสาหกรรมใดเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ดี และในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ดีนั้น บริษัทไหนเป็นบริษัทที่ดี ควรค่าแก่การลงทุน ข้อที่สอง หุ้นของบริษัทที่เราได้มาจากการตอบคำถามข้อแรก มีราคาที่เหมาะสมหรือไม่?
จากที่กล่าวมาแล้ว จะเห็นได้ว่า สิ่งที่มีความสำคัญมากในกระบวนการคัดเลือกหุ้น คือ ความเข้าใจในธุรกิจและกลยุทธ์ของบริษัท และลักษณะของหุ้นบริษัท ที่มีแตกต่างกันไป ซึ่งสามารถสรุปได้พอสังเขป ดังต่อไปนี้
Growth companies vs. Growth stocks Growth company หมายถึงบริษัทที่ผู้บริหารมีความสามารถในการสรรหาโครงการลงทุนของบริษัทที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าผลตอบแทนที่ควรจะได้ สำหรับความเสี่ยงของโครงการนั้นๆ ส่วน Growth stock หมายถึง หุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงกว่าหุ้นตัวอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงเท่ากัน
Defensive companies vs. Defensive stocks Defensive company คือ บริษัทที่ผลประกอบการค่อนข้างจะไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจขาลง ส่วน Defensive stock หมายถึงหุ้นที่มีการขึ้นลงของราคาน้อยกว่าการเคลื่อนไหวของตลาดหลักทรัพย์
Cyclical companies vs. Cyclical stocks Cyclical company คือ บริษัทที่ผลประกอบการจะเป็นไปตามวงจรของธุรกิจ ในขณะที่ Cyclical stock คือ หุ้นที่มีการขึ้นลงของราคามากกว่าการเคลื่อนไหวของตลาด
Speculative companies vs. Speculative stocks Speculative companies เป็นบริษัทที่มีสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง แต่ก็มีศักยภาพในการสร้างผลกำไรที่สูงมากได้ ส่วน Speculative stock คือ หุ้นที่มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะให้ผลตอบแทนที่ต่ำมากๆ หรือแม้กระทั่งขาดทุน แต่ก็จะมีโอกาสเล็กน้อยเช่นกันที่จะให้ผลตอบแทนที่สูงมากๆ
ขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า ประเภทของบริษัทนั้นจะต่างกับประเภทของหุ้น หุ้นของบริษัทที่ดีอาจจะมิใช่การลงทุนที่ดี ในทางกลับกันหุ้นของบริษัทที่ไม่ค่อยดี อาจจะเป็นการลงทุนที่ดีกว่าก็ได้ ขอให้ท่านทั้งหลายพึงระวังในจุดนี้ไว้ด้วย
ที่มา bangkokbiznews.com/fundamental | 