April 28, 2024   6:30:21 AM ICT
The Battle for Investment Survival / เจอรัลด์ เลิบ
เลิบมองว่าการลงทุนในหุ้นนั้นคุณต้องทำแบบเก็งกำไรซื้อขายหุ้นเร็ว  ดูภาวะตลาดหลักทรัพย์และจับกระแสให้ถูกต้อง  เขามองว่าการลงทุนถือหุ้นยาวเพื่อรอกินปันผลนั้นไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องเพราะผลตอบแทนที่คาดหวังจะต่ำเพียงไม่กี่เปอร์เซนต์ต่อปี  และโอกาสที่จะขาดทุนเพราะเงินต้นหายจะมีมากถ้าคุณคาดการณ์ผิด  สำหรับเลิบแล้ว  หุ้นราคาถูกสไตล์  Value Investment  นั้นไม่มีประโยชน์เพราะมันอาจจะถูกไปนานแสนนาน  เขาเห็นว่าควรเข้าซื้อหุ้นที่เริ่มจะแพงและแพงขึ้นเรื่อย ๆ   วิธีการลงทุนแบบของเลิบนั้น  เขาแนะนำให้ใช้เงินเก็งกำไรเพียงส่วนหนึ่งของพอร์ตเท่านั้น  ไม่แนะนำให้ลงทุนเงินทั้งหมดในหุ้นแบบ  Value Investment  ตัวอย่างเช่น  ถ้ามีเงิน  100  คุณอาจจะใช้เงินเพียง  20 ? 30%  เข้าซื้อหุ้นเพียงหนึ่งหรือสองตัว  โดยในช่วงแรกซื้อแต่น้อย  ถ้าผิดพลาดก็ให้ขายตัดขาดทุนหรือ Cut Loss  ทันที  แต่ถ้าหุ้นขึ้นไปให้ทะยอยซื้อเพิ่มไปเรื่อย ๆ และปล่อยให้กำไรเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ หรือที่เรียกว่า Let Profit Run   เลิบมองว่าวิธีแบบนี้จะทำให้ได้กำไรเป็น  100%  ในเงินที่ลงไปภายในเวลาอันสั้นซึ่งดีกว่าการลงทุนด้วยเงินทั้ง  100%  และได้ผลตอบแทนเพียง  10%  ซึ่งต้องเสี่ยงเงินมากกว่า

 

            เลิบเห็นว่าเราไม่ควรปล่อยให้เงิน ?ทำงาน? ตลอดเวลาโดยการ  Fully Invest  แบบนักลงทุนระยะยาวทั้งหลาย  ถ้าภาวะตลาดไม่ดีให้ถือเป็นเงินสดไว้ไม่ต้องทำอะไร  แต่เมื่อภาวะเอื้ออำนวยเขาจะเข้า ?แรงและเร็ว? พูดง่าย ๆ  เขาแนะนำให้  ?เล่นรอบและเล่นตามภาวะตลาดในขณะที่เขาเห็นว่าการเลือกซื้อหุ้นโดยไม่สนใจภาวะตลาดแบบเบนเกรแฮมนั้นไม่ถูกต้อง  เพราะถ้าตลาดไม่ดีต่อเนื่องยาวนานหรือเข้าไปซื้อตอนตลาดอยู่ในช่วงสูงสุดหรือดัชนีอยู่บนดอย  หุ้นดีอย่างไรก็ไปไม่รอด

 

           เลิบไม่เน้นให้กระจายความเสี่ยงโดยการถือหุ้นหลาย ๆ ตัว  เขาคิดว่าควร ?ใส่ไข่ทั้งหมดในตะกร้าใบเดียวและเฝ้าดูให้ดี แบบเดียวกับวอเร็น  บัฟเฟตต์  ซึ่งแตกต่างจากเบน  เกรแฮมที่เน้นการกระจายถือหุ้นถูกจำนวนมาก ๆ ไว้ในพอร์ต  เลิบเห็นว่าการกระจายความเสี่ยงแบบนี้เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ยังมีฝีมือไม่พอ  แต่คนที่คิดจะรวยจากตลาดหุ้นนั้นต้องเล่นแบบเน้นลงทุนในหุ้นน้อยตัวด้วยเงินจำนวนมาก

 

           การเก็งกำไรทุกครั้งสำหรับเลิบแล้วจะต้องมีแผนหรือมีกลยุทธ์ชัดเจน  การเข้าหรือออกจากหุ้นแต่ละตัวจะต้องมีเป้าหมายไม่ใช่ทำตามอำเภอใจ  เช่น  ถ้าลงทุนโดยเก็งว่าราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นไปอย่างรวดเร็วถ้าเหตุการณ์นั้นไม่เกิดขึ้นก็ต้องขายหุ้นทิ้งไม่ใช่ปล่อยรอไปเรื่อย ๆ  หรือถ้าเก็งว่าจะประกาศปันผลออกมาดีและหุ้นจะขึ้น  เมื่อเหตุการณ์เกิดแล้วก็ต้องขายหุ้นทิ้งเป็นต้น

 

           ในความเห็นของเลิบ  การลงทุนนั้นเหมือนกับการทำสงครามที่นักลงทุนก็คือ ?นักรบ?  ที่ต้องซื้อ ๆ ขาย ๆ ทำกำไรและเอาตัวรอดในยามวิกฤต  ความเสี่ยงต่อหายนะนั้นมีอยู่ตลอดเวลา  สำหรับเขาแล้ว  ตลาดหลักทรัพย์เป็นอะไรที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา  และบ่อยครั้งไร้ซึ่งเหตุผลซึ่งทำให้การวิเคราะห์บริษัทแบบของเบน เกรแฮม  นั้นไม่มีประโยชน์  เพราะมันเหมือนกับการเข้าไปตรวจสุขภาพทหารในสนามเพลาะในขณะที่ทั้งกระสุนและระเบิดกำลังถล่มเข้ามา  ชีพจรของทหารไม่ได้บอกว่าโอกาสของการอยู่รอดจะเป็นอย่างไร  และนี่คงเป็นที่มาของชื่อหนังสือที่แปลว่า ?การยุทธเพื่อความอยู่รอดของการลงทุน?

 

ที่มา Thaivalueinvestor.com

เข้าชม: 4,243

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com