หลายคนคิดอยากจะลงทุน อีกหลายคนก็ลงทุนอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีคำถามอยู่เรื่อยๆ ว่า ลงทุนอย่างไรจึงจะเรียกว่าลงทุนดี หรือดีที่สุดสำหรับเรา ซึ่งอาจจะเป็นปัญหาสำคัญสำหรับ นักลงทุนหลายๆ คน ในวันนี้ลองมาพิจารณากันว่า เคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้เราตอบคำถามตัวเองได้ว่าอะไรดีที่สุดสำหรับการลงทุนของเรานั้นคืออะไรกันบ้าง

ก่อนอื่นเราต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่า ต้องการจะใช้เงินก้อนที่จะนำไปลงทุนนั้นไปทำอะไร เมื่อไหร่ และยอมรับได้หรือไม่หากตราสารการเงินที่ลงทุนนั้นมีความเสี่ยงมาก เมื่อพิจารณาให้รอบคอบแล้ว จึงมาเลือกดูว่าตราสารทางการเงินประเภทไหนกันบ้าง ที่มีคุณลักษณะที่จะเข้ากับวัตถุประสงค์ในการลงทุน และนิสัยในการลงทุนของตัวเราเอง

เช่น เราไม่มีความสามารถในการยอมรับความเสี่ยงเลย และไม่มีความอดทนพอกับตราสารประเภทที่มีความหวือหวา มีความไม่แน่นอนในผลตอบแทนสูง หรือถ้าคิดว่าลงทุนไปแล้วในแบบนั้นกลับมานอนไม่หลับทั้งคืน ก็ควรหลีกเลี่ยง ควรหันไปลงทุนในตราสารบางชนิดที่มีการเคลื่อนไหวที่แน่นอนกว่าไม่หวือหวาและมีความเสี่ยงต่ำกว่าถึงแม้ว่าจะต้องใช้ระยะเวลานาน กว่าที่จะได้กำไรหรือผลตอบแทนจากการลงทุนก็ตาม เพราะการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำผลตอบแทนก็มักจะต่ำไปด้วยเป็นธรรมดา

สิ่งสำคัญอีกแบบที่จะเรียกว่าเป็นการลงทุนที่ดีก็คือ การมีเงินเย็น ซึ่งเงินเย็นในที่นี้ หมายความว่าเงินลงทุนของเรานั้น ไม่ได้มาจากกู้หนี้ยืมสินมาจากใคร ไม่ต้องเดือดร้อนในเวลาที่เราไม่สามารถจะคืนเงินจำนวนนั้นได้ในเวลาที่ต้องการหรือต้องจ่ายดอกเบี้ยจากการกู้ยืมนั้นจนไม่คุ้มกับดอกผลที่เรานำเงินไปลงทุนได้มา

ที่สำคัญต้องมีการศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนอย่างรอบคอบไม่ว่าจะเป็นเรื่องหลักเกณฑ์ กฎระเบียบ ปัจจัยแวดล้อมต่างๆ เป็นต้น และไม่เชื่อกับคำชี้ชวนจากผู้อื่นที่มาพูดให้เราฟังลอยๆ ว่า ให้เราเอาเงินไปลงทุนกับเขาแล้ว อันจะนำมาซึ่งความไขว้เขวและการไม่เชื่อมั่นในการลงทุนของตนเอง

ดังนั้น ในฐานะนักลงทุนซื้อหุ้นหรือจะลงทุนในหลักทรัพย์ใดๆ ก็ตาม หลักการคิดและการใช้ข้อมูลประกอบการพิจารณาอาจจะเหมือนกันหรือแตกต่างกันออกไป ซึ่งก็แล้วแต่ความมุ่งหมายในการลงทุนของแต่ละคน หากตัดสินใจ ลงทุนในหลักทรัพย์ หรือการซื้อขายหุ้นของกิจการต่างๆ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์ใหม่ ผู้ลงทุนควรศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลทั้งตัวกิจการและปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาตัดสินใจทุกครั้ง โดยพิจารณาถึงฐานะและความมั่นคงของกิจการนั้นๆ เป็นสำคัญ เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการลงทุนให้เหลือน้อยที่สุด

และข้อมูลหนึ่งที่มีความสำคัญซึ่งสามารถสะท้อนให้เห็นถึงภาพรวมฐานะและความมั่นคงของบริษัทที่คุณจะเลือกลงทุนได้ ก็คือ งบการเงิน ทั้งนี้การศึกษาและวิเคราะห์ความสามารถของบริษัทโดยอาศัยข้อมูลจากงบการเงิน จะทำให้ผู้ลงทุนสามารถประเมินศักยภาพและมูลค่าของบริษัทที่ตนเองสนใจจะลงทุนได้เป็นอย่างดีในระดับหนึ่ง

ใครที่ลงทุนกันอยู่แล้ว หรือคิดว่าจะก้าวมาเป็นนักลงทุน หากยังไม่เคยเห็นงบการเงินของบริษัทต่างๆ ก็ต้องรีบไปศึกษาหามาอ่านกันได้แล้ว การจะคิดว่าอะไรดี หรือดีที่สุดนั้นก็อยู่ที่ว่าศึกษาตัวเราเองให้เข้าใจตนเองให้ได้ เข้าใจธรรมชาติ และหลักการของการลงทุนที่ถูกต้อง เท่านี้ก็เชื่อมั่นได้ว่าเป็นการลงทุนที่ดีของตัวเราเองแล้ว

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ