???? สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 1,238 | วันที่: 11/05/2006 @ 07:36:14 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ไอทีวีกระอัก เอเยนซี่เล็งโยกงบหนีไปลงช่องอื่น และชะลอแผนไม่ใส่โฆษณาตัวใหม่ให้ หวั่นผลศาลฯทำเรทติ้งตก ชี้แค่เดือนเดียวก็เห็นผล ช่อง 3 อสมท รอรับผลบุญได้โฆษณาเพิ่ม ทรงศักดิ์ ยันไม่ปรับรายการ รอจนศาลปกครองสูงสุดตัดสิน บริษัทซวยซ้ำโบรกฯแห่ลดราคาเป้าหมาย บล.ทีเอสอีซีให้ต่ำสุดไม่ถึง 1 บาท ทุกรายแนะขายหนีความเสี่ยงเชื่อผลสุดท้ายตัดสินยืนตามศาลปกครอง
นายชัยประนิน วิสุทธิผล นายกสมาคมโฆษณาธุรกิจแห่งประเทศไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีบีดับบลิวเอ ประเทศไทย กล่าวว่า หากไอทีวีเรตติ้งรายการตก จากการที่ต้องปรับผังรายการให้สัดส่วนข่าวและสาระเพิ่มเป็น 70% บันเทิง 30% มีความเป็นไปได้ที่เอเยนซี่จะโยกงบโฆษณาไปที่สถานีโทรทัศน์ช่องอี่น เช่น ช่อง 3 ซึ่งเป็นของ บริษัท บีอีซีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC ช่อง 9 ซึ่งเป็นของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)หรือ MCOT และช่อง 7
เท่าที่ทราบขณะนี้ไอทีวียังไม่ปรับผังรายการ หากเรตติ้งไม่ตก เอเยนซี่คงยังไม่โยกงบโฆษณา ประกอบกับตอนนี้มีเงื่อนไขของกฎหมายซึ่งไอทีวีต้องรอผลการตัดสินของศาลปกครองสูงสุดที่จะยื่นอุทธรณ์ประกอบด้วย ถ้ารู้ผลใน 6 เดือน อย่างเร็วสุดที่เราจะเห็นเอเยนซี่โยกงบไปลงช่องอื่นน่าจะไตรมาส 4 ปีนี้ แต่หากยังไม่ปรับผัง แต่เรตติ้งของรายการก็ตกแล้ว เอเยนซี่จะวางแผนงบเดือนต่อเดือน ก็เป็นไปได้ที่เดือนต่อไปงบโฆษณาในไอทีวีจะมีเปลี่ยนแปลง นายชัยประนิน กล่าว
อย่างไรก็ตามหากมองด้านดี การปรับผังของไอทีวีหากทำให้รายการข่าวและสาระมีความเข้มข้น จนทำให้ประชาชนที่ต้องการดูข่าวจะเลือกเปิดช่องไอทีวี ก็อาจมีผลให้เรตติ้งของรายการข่าวสูง การใส่งบโฆษณาจึงยังมีอยู่บ้าง
เราไม่โยกโฆษณาทันที ต้องรอดูเรทติ้งก่อน ไม่เหมือนกับราคาหุ้น ถ้ามีข่าวร้ายจะร่วงวันที เพราะเอเยนซี่ดูเรตติ้งเป็นหลัก ตราบใดที่เรตติ้งไม่ตก การถอนงบคงไม่เกิดขึ้นส่วน BEC และ MCOT จะได้รับอานิงส์มากแค่ไหนยังบอกไม่ได้ แต่คงไม่มาก เพราะขณะนี้งบโฆษณาในภาพรวมก็ลดลง นายชัยประนิน กล่าว
แหล่งข่าวจากเอเยนซี่กล่าวว่า การตัดสินศาลฯวานนี้มีผลต่อโฆษณาในไอทีวีเอเยนซี่ต้องชะลอการวางโฆษณาตัวใหม่ จากเดิมที่มีแผนจะใส่ให้ เพราะกลัวบริษัทเปลี่ยนผังจึงเป็นไปได้ที่จะโยกโฆษณาไปให้ช่องอื่นแทน เช่น ช่อง 3 อสมท และ ช่อง 7
สำหรับประเด็นนี้เป็นต้นเหตุให้วานนี้หุ้นช่อง 3 ติดอันดับซื้อ ขายสูงสุด บวก1.10 บาท อยู่ที่ 16.20 บาท เช่นเดียวกับ MCOT ปิดบวก 3.25 บาท ราคา 40.75บาท ส่วนไอทีวียังร่วงต่อหุ้นลบ 1.10 บาท ปิด 5.45 บาท มีโบรกเกอร์หลายแห่งปรับราคาเป้าหมายลงมาก
นายทรงศักดิ์ เปรมสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) กล่าวยืนยันว่า ไอทีวียังไม่ปรับผังรายการเพื่อให้สัดส่วนรายการสาระกลับมาเป็น 70% และบันเทิง 30% ตามที่ศาลปกครองตัดสินเมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยจะรอผลการตัดสินของศาลปกครองสูงสุด ซึ่งไอทีวีจะยื่นอุทธรณ์เพื่อต่อสู้ตามช่องทางกฎหมาย
ส่วนความเคลื่อนไหวของเอเยนซี่ที่ลงโฆษณากับเราขณะนี้ยังไม่เปลี่ยนแปลง โดยไอทีวีจะพยายามนำเสนอรายการที่ดี มีสาระประโยชน์ ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ส่วนเอเยนซี่จะให้งบหรือไม่นั้น ก็ได้แต่หวังว่าผลจะออกมาทางที่ดี อย่างไรก็ตามช่วงไตรมาส 3เป็นช่วงโลว์ ซีซั่น ซึ่งรายได้จากโฆษณาจะน้อยกว่าไตรมาสอื่นอยู่แล้ว จึงต้องมาดูอีกทีว่าช่วงนั้นรายได้โฆษณาจะเป็นอย่างไร นายทรงศักดิ์ กล่าวโบรกแห่ลดราคาเป้าหมาย
บริษัทหลักทรัพย์ดีบีเอส วิคเคอร์ส ให้ราคาตามปัจจัยพื้นฐานของไอทีวีเพียง 1.90บาท ถึงแม้คำวินิจฉัยให้ไอทีวีกลับมาจ่ายค่าสัมปทานตามเดิมและปรับผังรายการจะยังไม่มีผลบังคับเนื่องจากไอทีวีจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด แต่เชื่อว่าศาลจะตัดสินยืนตามศาลปกครอง ปรับคำแนะนำเป็น ขาย จากเดิมที่ ซื้อ
บริษัทหลักทรัพย์ทีเอสอีซี แนะหลีกเลี่ยงลงทุนหุ้นไอทีวี โดยให้ราคาเหมาะสมที่ 0.76บาท บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส ให้ราคาเหมาสมที่ 2.89 บาท บริษัทหลักทรัพย์ซิกโก้ให้ราคา 2.84 บาท บริษัทหลักทรัพย์นครหลวงไทย ให้ราคาเหมาะสม 3.28 บาท แนะนำขาย บริษัทหลักทรัพย์ไซรัส แนะนำให้ขาย ให้ราคาหุ้น 6 บาท บริษัทหลักทรัพย์ซีมีโก้แนะนำ ขาย
บิสิเนส ไทม์ ฉบับวานนี้ระบุว่า การจ่ายค่าสัมปทานย้อนหลังจะทำให้เกิดช่องโหว่ขนาดใหญ่ในงบดุลของไอทีวีซึ่งในขณะนี้มีเงินสำรองเพียง 600 ล้านบาทเท่านั้น ในขณะที่ค่าสัมปทานย้อนหลังในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีมูลค่าถึง 1,500 ล้านบาทและเมื่อบวกกับค่าสัมปทานรายปี อาจเป็นเงินทั้งสิ้น 2,500 ล้านบาท
ทั้งนี้ค่าสัมปทาน 1,000 ล้านบาท แม้แต่สถานีโทรทัศน์ที่มีเรตติ้งสูงกว่าอย่างเช่นบีอีซี เวิลด์ ก็จะขาดทุนหรือไม่สามารถทำกำไรได้มากหุ้น BEC รับอานิสงส์เอเยนซี่โยกงบลง
วานนี้หุ้น BEC ปิดที่ 16.20 บาท เพิ่มขึ้น 1.10 บาท หรือ 7.28% มูลค่าซื้อขาย 365.15 ล้านบาท ขณะที่หุ้น MCOT ปิดที่ 40.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท หรือ 8.66%มูลค่าซื้อขาย 145.49 ล้านบาท
โดย BEC ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 มีกำไรสุทธิ 436.17 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.22 บาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 153.15 ล้านบาท
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์แอ๊ดคินซัน กล่าวว่า จากการที่ศาลปกครองตัดสินให้ไอทีวีแพ้คดี มีผลให้เอเยนซี่โฆษณาเริ่มมองหุ้นกลุ่มบันเทิงสถานีโทรทัศน์อื่น เช่น MCOT หรือ BECเพื่อโยกงบโฆษณามาลง
โดยในตัว BEC นั้น คาดว่าผลประกอบการปีนี้จะกลับมามีกำไร หลังจากปี 48 รายได้ลดลงประมาณ 40%
บริษัทหลักทรัพย์ไซรัสคาดว่า BEC และ MCOT จะได้อานิสงส์จากเม็ดเงินโฆษณาที่จะโยกไปด้วย โดยหากไอทีวีปรับผังรายการใหม่ รายการของนายไตรภพ ลิมปพัทธ์ อาจย้ายไปช่อง 3 รวมทั้งรายการละครอื่นๆ มีโอกาสย้ายไปช่อง 9
ที่มา ข่าวหุ้น[/color:cb01a8ae9e">
|