kaisel สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 3,380 | วันที่: 11/07/2008 @ 08:24:00 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ดัชนีหุ้นวันที่ 10 ก.ค. 51 ปิดที่ 721.86 จุด บวก 0.73 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 13,369 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 2,858 ล้านบาท
มีบทวิเคราะห์การลงทุนโดยโกลด์แมนแซคส์เผยแพร่เมื่อ 8 ก.ค. ที่ผ่านมาระบุว่า มีมุมมองให้ ระมัดระวัง ต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย หลังสถานการณ์ การเมืองไทยขณะนี้ มาถึงจุดที่คาดเดาได้ยากและไม่สามารถประเมินสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปได้
โกลด์แมนแซคส์ระบุว่า การที่ศาลฎีกาตัดสินให้ ยงยุทธ ติยะไพรัช มีความผิดทุจริตเลือกตั้ง ไม่เพียงแต่ทำให้พรรคพลังประชาชนมีโอกาสถูกยุบพรรคเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการสั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาลด้วย และแม้คำตัดสินของศาลฎีกาจะไม่ส่งให้พรรคพลังประชาชนถูกยุบพรรคในทันที ซึ่งจะมีการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พรรคพลังประชาชนมีความผิดเข้าข่ายถูกยุบพรรคหรือไม่ ซึ่งคาดว่ากระบวนการอาจเสร็จสิ้นในอีก 2 เดือนข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม โกลด์แมนแซคส์ยังคงให้คำแนะนำ ซื้อ หุ้น BBL, BAY และ BANPU แต่อยู่ระหว่างพิจารณาทบทวนคำแนะนำการลงทุนตลาดหุ้นไทยควบคู่กับตลาดหุ้นสิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย
ขณะเดียวกัน ก่อนหน้าที่จะมีคำตัดสินคดีใบแดง ยงยุทธ และคดีเขาพระวิหาร เมอร์ริลลินช์ โบรกเกอร์ยักษ์ใหญ่ของโลก ออกบทวิเคราะห์การลงทุนวันที่ 3 ก.ค. ระบุเพิ่มคำแนะนำการลงทุนตลาดหุ้นไทย จาก ลงทุนปานกลาง เป็น เพิ่มน้ำหนักการลงทุนอย่างสูง หลังดัชนีอยู่ในระดับต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดในภูมิภาค ทำให้อัตราการขยายตัวของกำไรบริษัทจดทะเบียนต่อราคาหุ้นอยู่ในระดับที่น่าลงทุนมากที่สุดในภูมิภาค ขณะเดียวกันอัตราการฟื้นตัวของผลประกอบการยังอยู่ในระดับที่สูงที่สุดในภูมิภาคอีกด้วย
ส่วนของประเด็นความไม่แน่นอนทางการเมือง เมอร์ริลลินช์มองว่า แม้จะกระทบต่อความเชื่อมั่นการลงทุน แต่เป็นประเด็นที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ ในภูมิภาคนี้ อีกทั้งยังเป็นปัจจัยที่อาจกระตุ้นให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นได้ทุกเมื่อหากสถานการณ์คลี่คลาย และมีความชัดเจน ขณะเดียวกันท่ามกลางภาวะอัตราเงินเฟ้อที่สูง และการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ มีแนวโน้มที่รัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจระดับรากหญ้า เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจระดับมหภาค เช่นกัน
เมอร์ริลลินช์ยังคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าจะลดลงในปีนี้ ได้สะท้อนอยู่ในราคาหุ้นส่วนใหญ่ของไทยแล้ว!!
อินเด็กซ์ 51
:lol:
|
kaisel สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 3,380 | #1 วันที่: 11/07/2008 @ 08:47:06 : .--บมจ. หลักทรัพย์ เอเชีย พลัส
Distributor - Bisnews AFE
โอลิมปิคหนุนตลาดจีน...ซื้อ TTA, TVO
ภาพวันวาน
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวผันผวนตลอดวัน ด้วยการปรับตัวลงในการซื้อขายช่วงเช้า 7.94 จุด และกลับบวกขึ้นในภาคบ่าย 6.34 จุด ปิดตลาดดัชนีทรงตัวที่ระดับ 721.86 จุด มูลค่าการซื้อขายลดลงเล็กน้อย 1.33 หมื่นล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 2,858 ล้านบาท
ประเด็นร้อนวันนี้
* ธนาคารกลางอังกฤษ(BOE) คงอัตราดอกเบี้ยตามคาดหมาย
ผลการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ(BOE) เป็นไปตามคาดหมายคือ คงอัตราดอกเบี้ย
นโยบายไว้ที่ระดับเดิมคือ 5% หลังการปรับลดอย่างต่อเนื่องถึง 3 ครั้งรวม 0.75% นับแต่ปลายปี 2550 เป็นต้นมา ทั้งนี้ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่าเหนือค่าเงินปอนด์ได้ รวมถึงค่าเงินยูโร หลัง
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 4.25% (ครั้งแรกในรอบ 1 ปี) ในต้นเดือน ก.ค.2551 ที่ผ่านมา สำหรับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของภูมิภาคเอเชียนั้น คาดว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) จะเป็นการคง
อัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมคือ 0.5% เช่นเดียวกันสำหรับการประชุมในวันที่ 14-15 ก.ค.2551 ส่วน กนง.ของไทยนั้น คาดว่าจะเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยไว้เช่นกัน โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 3.25% สำหรับการ
ประชุมในวันที่ 16 ก.ค.2551 แต่ในส่วนของ ธ.พ.นั้น หากยังคงได้รับความกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับสองหลักในเดือน ก.ค.นี้ (เดือน มิ.ย.อยู่ที่ระดับ 8.9%) คาดว่าจะเห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 หลังจากปรับขึ้นครั้งแรกเมื่อต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา บวกกับภาวะตลาดที่มีสัญญาณการ
แกว่งตัวสร้างฐานที่บริเวณแนวรับ 710-720 จุด เป็นจังหวะเหมาะสมซื้อสะสม KBANK(FV@B96.49),
SCB(FV@B90.74)
* สินค้าโภคภัณฑ์ดีดตัวขึ้น เพราะความกังวลต่อสงคราม
ด้วยสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่ตึงเครียด และการทดสอบขีปนาวุธของอิหร่านที่ต่อเนื่องเป็น
วันที่ 2 สร้างความกังวลต่อตลาด บวกกับการปรับฐานของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลัก
ดันให้เกิดการเก็งกำไรในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์อีกครั้ง ทั้งสินแร่มีค่าต่างๆ เช่น ทองคำ, เงิน, แพลททินั่ม รวมถึงน้ำมันโดยทองคำดีดตัวขึ้น 2.7% จากจุดต่ำสุดในต้นสัปดาห์ที่ระดับ 919 เหรียญฯต่อออนซ์, น้ำมันดิบ
ดูไบ ดีดตัวขึ้น 4.75% ทั้งนี้ ด้วยราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน(PTT, PTTEP) ที่เผชิญแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ จนราคาปรับตัวลงกว่า 9.3% และ 9.94% ตามลำดับนั้น น่าจะเป็นจังหวะในการเข้าลงทุนระยะสั้น
ตาม sentiment ต่างประเทศดังกล่าว แนะนำซื้อPTT(FV@B428.31), PTTEP(FV@B245.79) และ
เก็งกำไร TVO, LST, UVAN
* ค่าระวางเรือดีดตัวต่อ(Baltic Dry Index) ฟื้นตัวขึ้น
จากการเริ่มดีดตัวขึ้นรอบใหม่ของค่าระวางเรือ(Baltic Dry Index) จากต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
นั้น ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 9,313 จุด ปรับตัวขึ้น 4.34% ในระยะ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ฝ่ายวิจัย ASP คาดว่าค่า
ระวางเรือจะแสดงสัญญาณการฟื้นตัวขึ้นในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ด้วยเป็นช่วงเวลาเข้าใกล้การแข่งขันกีฬาโอลิมปิค ในเดือน ส.ค.นี้ ซึ่งทำให้มีความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าในระดับสูง เป็นผลต่อการขนส่งถ่านหินเพื่อการผลิตพลังงานไฟฟ้าให้อยู่ในระดับสูงด้วย แนะนำซื้อสะสมและเก็งกำไร TTA(FV@B59.59),
PSL(FV@B27.32)
INVESTORS PLUS
แนวรับ / แนวต้านใน 1 สัปดาห์ของดัชนีตลาด : 710/770 จุด
ตลาดวันนี้ : คาดวันนี้ดัชนีแกว่งตัวด้านข้าง แนวรับ 715 จุด แนวต้าน 735 จุด
กลยุทธ์วันนี้ : เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบแนวรับ และแนวต้านของหุ้นรายตัว PTT(288/320),
PTTEP(161/170), TTA(38.5/41), ESSO(8.1/8.4)
:lol: |