am สมาชิก จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 123 วันที่: 21/05/2006 @ 13:46:32
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่
ผลการโหวต
ที่มา :
http://www.bbznet.com/scripts3/view.php?p=2&board=2&user=greenbull&id=99294&c=1&order=numtopic
.......................................................................................................
ขอถามว่า พี่แมวดำถือหุ้นครั้งละกี่ตัวคะ
และวิธีการเลือกตัวหุ้นของพี่ดูจากอะไร
fundamental or technical หรืออื่นๆคะ
เช่น spali major raimon ซึ่งคิดว่า พี่ดูจากพื้นฐานมากกว่า
การถือหุ้นให้ได้นานๆ ต้องเกิดจากความมั่นใจในสิ่งที่เราเลือกหรือเปล่าคะ
เพราะความผันผวนของราคาในระยะสั้น มักมีผลต่อการตัดสินใจของเราเสมอ
ทำยังไงถึงจะเอาชนะความกลัว ความโลภในจิตใจของเราออกไปได้คะ
อาชีพที่ทำอยู่ ทำให้ไม่สามารถมาดูหุ้นได้ตลอดเวลา
อยากศึกษาการเล่นหุ้นแบบไม่ต้องมาเฝ้ามาก แต่ได้ผลตอบแทนที่ดี
ขอคำแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ
ขอถามว่า พี่แมวดำถือหุ้นครั้งละกี่ตัวคะ [/color:a4da5eab77">
ตอบ 1-2 ตัว....... 3-10 เดือน
แต่เซียนโลก แนะนำ 10 ตัว โดยถือ 3-10 ปี
แต่ผมมีแผนการใหม่ จะขยับเพิ่ม เป็น 4 ตัว และ 5 6 7 8 9 10 ตัวในอนาคต
ถ้าหาหุ้นที่ต้องการไม่เจอ ก็ถือเป็นเงินสดไปก่อน
การขยับ คือขนาดพอร์ตโต ผมตั้งใจว่าจะลงแต่ละตัวไม่เกิน 3% ของทุนจดทะเบียน ไม่ว่าผมจะมีเงินมากแค่ไหน
และเรื่องระยะเวลา เปลี่ยนเป็น 3 - 24 เดือน
***** ทุกตัวที่ลงทุนต้องมีโอกาสได้กำไร 50% ขึ้นไป ถึงจะยอมลงทุน หมายถึงถ้าซื้อราคา 10 บาท ต้องคิดว่าอย่างน้อยมันต้องไป 15 บาทขึ้น******
[/color:a4da5eab77">เป็นแนว VI คล้ายๆกับ ดร.นิเวศน์ หรือเปล่าคะ
ถ้าอย่างนั้น เราก้อต้องมาศึกษาปัจจัยพื้นฐาน ดูงบการเงิน และแนวโน้มของธุรกิจนั้นในระยะยาว มองอนาคต ผู้บริหาร โดยเลือกหุ้นที่มีพื้นฐาน ไม่ใช่หุ้นปั่น
พี่แมวดำคิดว่าคนที่เล่นหุ้นปั่นแต่ถือยาวๆเช่น bnt apure iec และอื่นๆอีกมากมายมีโอกาสรวยได้มั้ยคะ
เพราะแม้แต่หุ้นปั่นเองก็ยังมีนิสัยเล่นเป็นรอบเหมือนกันและ มักทำนิสัยเดิมๆเสมอ
โอกาสที่ได้กำไรเป็นเท่าๆก้อมีเหมือนกัน บางครั้งได้มากกว่า 100% ในเวลาไม่กี่เดือนหรือไม่กี่วัน
และวิธีการเลือกตัวหุ้นของพี่ดูจากอะไร
fundamental or technical หรืออื่นๆคะ
เช่น spali major raimon ซึ่งคิดว่า พี่ดูจากพื้นฐานมากกว่า [/color:a4da5eab77">
ตอนเริ่มแรกในการเล่นตลาดหุ้น-ตลาดเงินเถื่อน ผมเริ่มจาก เทคนิค และผมทำได้ดี..... และไม่ได้สนใจพื้นฐาน
ปัจจุปันผมเน้นพื้นฐาน เพราะผมมีความเชื่อว่าราคาหุ้นสุดท้ายจะเดินไปตามผลประกอบการ........ แม้ว่าในระยะสั้นอาจมีความสับสนบ้าง
เมื่อเลือกพื้นฐานได้ ก็ดูว่าราคาหุ้นมีส่วนลดมากหรือไม่ และส่วนท้ายค่อยมาดูเทคนิค.......... ผมชอบดูตอนมันระเบิด.....และผมก็แม่นในการดูตอนระเบิดซักด้วย ถ้าผมได้เฝ้ามัน เวลาหุ้นพื้นฐานที่ผมเลือก มันหลุดเทคนิค บางครั้งก็ขายตามน้ำไป....... และหาทางรับคืน บางที่ก็รับได้ บางที่ก็รับไม่ได้ ทำให้เสียการใหญ่ไปหลายครั้ง หลังๆ ผมเน้น Timing มากกว่า ถึงเวลาขายก็ขาย กำไรขาดทุน ก็ขาย ไม่ค่อยเน้นเทคนิค[/color:a4da5eab77">
การถือหุ้นให้ได้นานๆ ต้องเกิดจากความมั่นใจในสิ่งที่เราเลือกหรือเปล่าคะ
เพราะความผันผวนของราคาในระยะสั้น มักมีผลต่อการตัดสินใจของเราเสมอ
ทำยังไงถึงจะเอาชนะความกลัว ความโลภในจิตใจของเราออกไปได้คะ [/color:a4da5eab77">
ตอบ....... ใช่มั่นใจในผลประกอบของบริษัท มั่นใจในความเข้าใจธุรกิจที่เราถือ
ซึ่งตัวนี้ต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์........เราถึงจะสามารถจะเลือกหุ้นได้
เราต้องเข้าใจว่าความผันผวนในระยะสั้นเป็นเรื่องปกติ หลักการใหญ่คือผลประกอบการณ์บริษัท
[i:a4da5eab77">อาชีพที่ทำอยู่ ทำให้ไม่สามารถมาดูหุ้นได้ตลอดเวลา
อยากศึกษาการเล่นหุ้นแบบไม่ต้องมาเฝ้ามาก แต่ได้ผลตอบแทนที่ดี
ขอคำแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ[/i:a4da5eab77">
นี้คือข้อเสียเปรียบ คือเวลา นอกจากนั้นคุณยังปันใจให้งานอื่นด้วย
จะไปสู้คน เต็มเวลา และไม่ปันใจได้อย่างไร
คุณต้องเสียเวลา...... ในการดูหาประสบการณ์ แยกให้ออกว่าหุ้นดีกับไม่ดีต่างกันอย่างไร..... และต้องติดตามไพ่ใบใหม่ที่ ที่เปิดออกมาเรื่อยๆ ว่าหุ้นที่คุณถือยังดีหรือ ไม่ และจำเป็นต้องขายก่อนเวลาหรือไม่ และคุณจำเป็นต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง จึงจะได้ผลลัพท์ที่ดี นั้นหมายถึงเลิกเล่นหุ้น ไปทำงาน
เลิกทำงาน ไปเล่นหุ้น แต่ถ้าคุณทำทั้งสอง อย่างพร้อม ผมแนะนำว่าให้คุณลงเงินให้น้อยกว่าเงินเดือนที่คุณได้ ในการเล่นหุ้น
และคุณชำนาญเมื่อไร อาจจะ 5-10 ปี ให้ลาออกจากงาน และเล่นหุ้นเต็มตัว
ส่วนผมเล่นหุ้นไม่ต้องเฝ้าก็ได้ .......... แต่ผมก็ไม่ได้ทำงาน
ผมจะเอาเวลาไปสำรวจหุ้นใหม่ๆ ที่ผมต้องการลงทุน อ่านรายงานประจำปี ศึกษาลักษณะธุรกิจในแต่ละหมวดอุตสาหกรรม ติดตามข่าวสารใหม่ๆ นโยบายของรัฐ บ้างครั้งผมก็ไปดูธุรกิจจริงของหุ้นที่ผมถือ...... ว่ามันของจริงหรือของปลอม[/color:a4da5eab77">
ได้ข้อคิดดีมากเลยครับการดูพื้นฐานหุ้นต้องมีความรู้ค่อนข้างมาก แต่ถ้าบังเอิญไม่มีความรู้ทางด้านนี้ล่ะครับ การศึกษาให้ชำนาญก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เราสามารถพิจารณาจากบทวิเคราะห์ของโบรกที่เก่งๆได้มั๊ยครับ แล้วก็มาผนวกกับเทคนิเคิล
ตัวผมเองยังเชื่อมั่นในเรื่อง demand และ supply โดยพิจารณาลักษณะของการเข้ามาเก็บหุ้นต่อเนื่องและการเข้าซื้อหุ้นเนื่องจากว่าราคายังต่ำกว่าที่ควรจะเป็นจากกลุ่มที่มีความสามารถในการวิเคราะห์พื้นฐานเป็นอย่างดี หรือการเข้าเก็บหุ้นจากการที่มีปัจจัยที่ส่งผลกระทบในทางที่ดีต่อตัวหุ้น(inside) ก่อนที่ข่าวจะประกาศ
เพื่อนๆ ว่าเจ้ามือหวย หรือ เจ้ามือฟุตบอล เขากลัวไหมครับว่า เลขจะออกอะไร ฟุตบอลใครจะชนะ ถ้าเขาจัดให้เขาได้เปรียบอยู่แล้ว ตงนี้ผมคิดยังไงก็ยังคิดมะออกนะคับท่านแมวชี้แนะด้วยคับ [/color:a4da5eab77">
เราจะจัดตัวเรายังไงอะคับในตลาดหุ้นให้เราได้เปรียบในตลาดหุ้น ก็ในเมื่อเราถูกกำหนดมาแล้วตั้งแต่เกิดมาเปงรายย่อยแล้วว่าเราเสีบเปรียบเค้าทุกกลุ่มเลย
อย่างเจ้ามือหวย บอล นี่เค้าได้เปรียบลูกค้าโดยสถานะที่เค้าเปงอยู่แล้วอะคับไม่ต้องจัดอะไรเลยก็ได้เปรียบอยู่แล้วอะคับ
คือในความคิดผมทุกคนย่อมต้องจัดตัวเองให้อยู่ในที่ๆได้เปรียบคนอื่นอยู่แล้วคับ
ถ้าทำได้ แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้คับ มานต้องอยู่ที่ว่าคุนมีคุนสมบัติที่เปงพื้นฐานที่จะทำให้คุนได้เปรียบคนอื่นติดตัวอยู่ตงนั้นหรือป่าว เช่น คนแทงหวยอยากจะไปเปงเจ้ามือมั่ง เพื่อจะได้อยู่ฝั่งได้เปรียบ ก็ต้องถามก่องว่าท่านมีตังขนาดไหนถึงจะข้ามมาอยู่ฝั่งนี้[/color:a4da5eab77">
เหตุผลที่ผมเน้นพื้นฐาน
เพราะผมเชื่อว่าสักวันหนึ่ง พอร์ตผมจะโต โตเหมือนแมวในรูป
แต่มันจะไม่ยอมให้ถูกนำไปเข้าโรงเชือด
เอาอย่างนี้ สมมุติว่าเรามีเงิน 500 ล้าน แบ่งเป็น 5 0 ล้าน 10 กอง
กองแรก 50 ลุย BNT
กองสอง 50 ลุย APURE
กองสาม-สิบ เพื่อนเติมเอง........
สงสัยจะรับมือไม่ไหว....... รบกับหน่วยพิมาต แถมไม่พอ 10 หน่วย
กับ 10 ตัว ที่คัดแล้ว คัดอีกจากผลกำไรในอนาคตที่ดีขึ้น
อย่างไหนเป็นไปได้มากกว่ากัน
[/color:a4da5eab77">
คิดหนักนะคะ จะเลิกทำงานที่ทำอยู่ ยังอยากทำตัวให้มีประโยชน์สมกับที่เรียนมา
และเล่นหุ้นยังไม่เก่ง คงต้องใช้เวลาอีกมาก
เงินเดือนไม่มากนะคะ ข้าราชการซี 6 สงสัยอีกนานเลยค่ะ กว่าจะฝึกปรือได้เก่ง[/color:a4da5eab77">
มีเวลาน้อย.... ก็ไม่ต้อง Trade หุ้น บ่อยๆ....
วิเคราะห์ SET Index ให้แม่นๆ.....แล้ว เล่นรอบ
เหมาะกับ คนที่ทำงานด้วย เล่นหุ้นด้วยที่สุด....
ซุ่มโป่งรอ จนกว่า SET และหุ้น หมดแรงขาย..... แล้วเก็บ[/color:a4da5eab77">...
Golden_Eagle ครับ
ถ้ากลยุทธ์ของท่านได้ผล.....ต่อเนื่อง เป็นระยะเวลายาว 3-4 ปี
ให้ทำต่อไปครับ ผมถือว่าท่านเป็นนักลงทุนที่อาศัยทักษะเฉพาะด้านครับ
ตอบท่าน TOR ครับ
คนปล่อยกู้........ต้องมีเงินแค่ไหน
ผมรู้จักคนหนึ่ง.....มาปรึกษาผม ผมให้เขาทำการปล่อยกู้
เงินเดือน 6 พัน ไม่มีเงินเก็บ ผ่านไปไม่กี่ปี ยอดปล่อยกู้ เกือบ 3 แสน
เพราะอะไร เขามีจุดเริ่ม เริ่มจากน้อยๆ พร้อมกับประสบการณ์น้อยๆ ปล่อย 500 บาท แล้วเมื่อไรเขาจะชำนาญ ก็เมื่อพรอต์เขาใหญ่ แหละ
ตอนนี้ปล่อยครั้งละ 3-4 หมื่น เงินเดือนของเขา 6 พันเหมือนเดิม
ไม่นานเขาจะรวยกว่าผม.........
นี้คงเป็นคำตอบนะครับว่า จะเป็นเจ้ามือบอลได้อย่างไร
ส่วนในตลาดหุ้นจัดอย่างไรให้ได้เปรียบ.......ผมตอบในกระทู้แล้ว
ท่าน TOR รบกวนอ่านแต่แรกอีกรอบ ช้าๆ ใจเย็น แล้วมาถกกันต่อครับ[/color:a4da5eab77">
คำถาม
เป็นแนว VI คล้ายๆกับ ดร.นิเวศน์ หรือเปล่าคะ
ถ้าอย่างนั้น เราก้อต้องมาศึกษาปัจจัยพื้นฐาน ดูงบการเงิน และแนวโน้มของธุรกิจนั้นในระยะยาว มองอนาคต ผู้บริหาร โดยเลือกหุ้นที่มีพื้นฐาน ไม่ใช่หุ้นปั่น
พี่แมวดำคิดว่าคนที่เล่นหุ้นปั่นแต่ถือยาวๆเช่น bnt apure iec และอื่นๆอีกมากมายมีโอกาสรวยได้มั้ยคะ
เพราะแม้แต่หุ้นปั่นเองก็ยังมีนิสัยเล่นเป็นรอบเหมือนกันและ มักทำนิสัยเดิมๆเสมอ
โอกาสที่ได้กำไรเป็นเท่าๆก้อมีเหมือนกัน บางครั้งได้มากกว่า 100% ในเวลาไม่กี่เดือนหรือไม่กี่วัน [/color:a4da5eab77">
คำตอบ คล้ายกัน แต่ผมกลายพันธ์ ใช้เวลาสั้นกว่า 3-10 เดือน (เพราะผมไม่ต้องการรวยตอนแก่ และผมเสี่ยงมากกว่านิดหน่อย)
คนที่เล่นหุ้นปั่น ประสบความสำเร็จ ก็มีแต่ขอบอกน้อยมากๆ
เป็นเพื่อนผมเอง..... ต้องเฝ้าจอตลอด จับความสัมพันธ์ตัวแปรต่างๆ ได้ แม้แต่ตัวแปรใหม่ ทักษะประสบการณ์ด้านนี้สูง การตัดสินใจดี ร่างกายพร้อม
การส่งคำสั่งซื้อขายพร้อม จิตใจพร้อม.......
ผมจัดพวกนี้เหมือน พวกขับรถฟอร์มูล่า วัน
แต่ผมชอบขับ รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อใส่ของให้เต็ม
ขับไปเรื่อยๆ ค่ำไหนนอนนั้น ไม่เครียดดี[/color:a4da5eab77">
เรื่องเจ้ามือบอลเคลียคับอ่านรอบเดียว ความหมายคือ ท่านต้องไปทำให้ท่านได้เปรียบก่องแล้วค่อยมาเล่นถ้าหาเงินมาเปงเจ้ามือไม่ได้ก็อย่าเล่นเพราะเสียเปรียบเค้า
แต่เรื่องหุ้นอ่าน 5 รอบก็ยังไม่เคลียนะคับ[/color:a4da5eab77">
ต่อให้เราเลือกผิด........เรามีโอกาสผิด 4 ครั้ง ใน 10 ครั้ง ก็ชนะสวยแล้ว
แต่ใครที่ชำนาญ ผมว่าได้ถึง 8 ใน 10 ครั้ง [/color:a4da5eab77">
วิธีเอาชนะความกลัวความโลก เข้าใจตรรกศาสตร์และเล่นตามตรรกศาสตร์ [/color:a4da5eab77">
เพื่อนๆ ว่าเจ้ามือหวย หรือ เจ้ามือฟุตบอล เขากลัวไหมครับว่า เลขจะออกอะไร ฟุตบอลใครจะชนะ ถ้าเขาจัดให้เขาได้เปรียบอยู่แล้ว
ถ้าไม่ใช่โปรดชี้แนะด้วยคับ[/color:a4da5eab77">
ท่าน TOR เยี่ยมครับ.......
10 ตัวที่เลือก ต้องมีโอกาสได้กำไร 50% ขึ้นไป (ถ้าเป็นไปได้ต้องเป็นเด้ง)
แต่ต้องมาจากพื้นฐาน ไม่ไช่นึกว่าสักวันมันต้องมา นั้นเรียกว่าความหวัง ไม่ไช่โอกาสที่แท้จริง
ถ้าเราชำนาญ จะได้ 8 ใน 10 ตัว และแต่ละตัวเป็น เด้ง - 10 เด้ง
4 ตัว หรือ 2 ตัว ที่เสีย ไม่มีความหมายต่อพอรท์
นี้ไม่ไช่ความคิดหลักของผม....... ผมแค่สรุปของเซียนโลกให้ฟัง และดัดแปลงนิดหน่อย [/color:a4da5eab77">
ยังมีอีกหลายเซียนครับ............
สำหรับ.มุมมองเด็กๆสไตล์อายาโกะนะคะ การเล่นหุ้นนี่ก่อนอื่นจะเข้ามาเล่น เราต้องมีพื้นฐานมาก่อนค่ะ ไม่ใช่ไม่รู้เรื่องแล้วเข้ามาเล่นเป็นหมูสนาม อันนี้ก็แย่เล่นแล้วเสียสุขภาพจิตค่ะ การเล่นหุ้นสไตล์อายาโกะมองว่าไม่ได้เป็นการพนัน เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นที่ใจ เราเอาใจเป็นเกณฑ์ในการวัด
ว่าถ้าใจเราในขณะที่เล่นหุ้นแล้ว
1.ใจร้อน ร้อนใจไม่มีหลักการเล่นที่มีกฎเกณฑ์เล่นมั่ว ๆเอามันส์ไว้ก่อนเล่นตามกระแส อันนี้ใจจะเป็นใจของสัตว์นรกค่ะ ( เวลาที่เล่นไม่ว่าจะได้หรือเสีย )
2.เล่นแล้วใจมีความที่จะอยากได้ ( โลภ) อันนี้ใจจะเป็นของเปรตค่ะ
3.เล่นแล้วกลัวเสียเงิน อันนี้ใจเป็นของอสุรกาย เพราะเข้าไปไม่มีความรู้เลย ไม่แน่จริง
4.เล่นแล้วงง อันนี้ใจเป็นของสัตว์เดรัจฉานค่ะ
หรือสรุปง่ายๆว่าในระหว่างที่เราเล่นหุ้นนั้นเรามีใจคิดกลัวไปต่าง ๆนานาๆโดยที่การเล่นไม่มีกฎเกณฑ์ ไม่มีระเบียบวินัย ไม่มีประสพการณ์ ไม่มีความรู้จริงในหุ้นตัวนั้น ๆที่เราเข้าไปเล่นแล้ว การเล่นหุ้นก็เป็นการพนันค่ะ คือเราจะตกอบายภูมิในชาตินี้เลยค่ะ
แต่ถ้าเรามีความพร้อมทั้งใจ และกายและทุนแล้ว ไม่มีอะไรที่น่ากลัวค่ะ ทุก ๆอย่างก็จะค่อย ๆดี ขึ้นดีขึ้นค่ะ [/color:a4da5eab77">
ผมได้ตัดสินใจเส้นทาง........ ของผมแล้ว ว่าผมต้องการเป็นอย่างนี้
1. ไม่ดีใจ หรือ เสียใจ.......เป็นรายวัน
2. ไม่ต้องการมึนหัวกลับบ้าน แม้แต่วันเดียว
3. ไม่ต้องการอาการเกร็ง........ลุ้น......
4. ไม่ต้องการเฝ้าจอทุกนาที นั้นหมายความว่าไม่ดูเป็นอาทิตย์ก็ได้
ว่างๆ ก็นั่งดูทั้งวันได้
5. ไม่ต้องการล้มในตลาดหุ้น (เคยล้ม)
6. ไม่ต้องการอะไรที่มันรีบร้อนเกินไป
7. ไม่ต้องการความเครียด
8. ผมต้องการความชนะที่แน่นอน
เพราะผมจะอายุมากขึ้นทุกวัน และความสดที่จะรับสภาพอย่างนั้นมันไม่ทำไม่ได้
ผมเลยต้องการกลยุทธ์ ที่แม้แต่คนอายุ 60-80 ก็รับมือกับมันได้
[/color:a4da5eab77">
ขอขอบพระคุณท่านผู้เขียนข้อความข้างต้นทุกท่าน มา ณ ที่นี้ ด้วยค่ะ
ที่มา: กระทิงเขียว