April 24, 2024   8:52:05 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > "ไฟการเมือง"สุมตลาดหุ้นทั้งเดือน ก.พ.49
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 16/02/2006 @ 18:31:03
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

วงการค้าหุ้นฟันธง ไฟการเมืองสุมตลาดหุ้นตลอดทั้งเดือนก.พ.49 หลังศาลฯลงมติไม่วินิจฉัยถอดถอนทักษิณ พร้อมจับตา 26 ก.พ. วันชุมนุมทางการเมือง ก้องเกียรติ ทำนายวันใดนักลงทุนเริ่มชินกับภาวะการเมือง บรรยากาศการลงทุนน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ สมาคมฯรายย่อย-GBX-สินเอเซีย เห็นพ้องการเมืองกดดันหุ้น ด้านนายกสมาคมบล. แนะหลบภัยในหุ้นปัน เหตุไม่หวั่นไหวกับการเมือง ส่วน กิตติรัตน์บอกหุ้นไทยตอนนี้ถูกแสนถูก[/color:fee9fd1ec7">

ในที่สุด ตัวแปรทางการเมืองที่สำคัญ อย่างกรณี 28 ส.ว. ได้ยื่นเรื่องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย เพื่อถอดถอน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กรณีซุกหุ้น บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)(SHIN) ปรากฎว่า เมื่อวานนี้(16ก.พ.) ศาลรัฐธรรมนูญ ลงมติด้วยคะแนน 8 เสียงลงมติไม่รับวินิจฉัยฯ ประกอบด้วย นายผัน จันทรปาน นายจุมพล ณ สงขลา นายนพดล เฮงเจริญ นายมานิตย์ วิทยาเต็ม นายศักดิ์ เตชาชาญ นายอุระ หวังอ้อมกลาง นายสุธี สุทธิสมบูรณ์ และ พล.ต.อ.สุวรรณ สุวรรณเวโช และ6เสียง ที่เห็นว่าให้รับคำร้อง ประกอบด้วย นายจิระ บุญพจนสุนทร นายปรีชา เฉลิมวณิชย์ นายมงคล สระฏัน ศาสตราจารย์ ดร. เสาวนีย์ อัศวโรจน์ นายอภัย จันทนจุลกะ นายสุวิทย์ ธีรพงษ์
อีกซีกหนึ่งแกนนำ ส.ว. อย่างนายแก้วสรร อติโพธิ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) กทม. ระบุว่า จะยังคงเดินหน้าถอดถอนนายกรัฐมนตรีต่อไปซึ่งมีแนวทางอยู่แล้ว อีก 1-2 วันนี้ น่าจะรู้
นายแพทย์เหวง โตจิราการ ประธานสมาพันธ์ประชาธิปไตย กล่าวภายหลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีข้อสรุปไม่รับวินิจฉัยคำร้องของ 28 สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 216 และ 219 นั้น สมาพันธ์ฯ ต้องการที่จะร้องขอให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 8 คนที่ลงความเห็นไม่ให้รับคำวินิจฉัยดังกล่าวลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากมองว่าจะทำให้สถาบันศาลเกิดความเสื่อมเสีย ซึ่งแสดงว่าทั้ง 8 คนไม่มีความกล้าหาญเพียงพอ
ดังนั้นจึงควรจะสรรหาผู้ที่มีความเหมาะสม และกล้าหาญเพียงพอที่จะมารับตำแหน่งแทน
รู้สึกผิดหวังต่อการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เป็นการปฏิเสธความรับผิดชอบ ข้ออ้างของ 8 ตุลาการที่ว่าไม่มีหลักฐานนั้น ฟังไม่ขึ้น เพราะคำร้องของ 28 ส.ว.ยื่นมาชัดเจนอยู่แล้วและเป็นหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญที่ต้องหาหลักฐานเพิ่มเติม ไม่ใช่รอให้ ส.ว.หาหลักฐานไปให้ครบทั้งหมด แล้วจะมีศาลรัฐธรรมนูญไว้ทำไม นายแพทย์เหวง กล่าว
ฟากตลาดหุ้นไทย ได้มีแรงเก็งกำไรเข้ามาหนาแน่นหลังจากศาลฯลงมติไม่รับวินิจฉัยฯ ส่งผลให้ราคาหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
โดยวานนี้(16ก.พ.)ปิดตลาดที่ 735.16 จุด เพิ่มขึ้น 9.43 จุด มูลค่าซื้อขาย 21,310.61 ล้านบาท นักลงทุนต่งชาติซื้อสุทธิ 951.62 ล้านบาท สถาบันซื้อสุทธิ 115.02 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 1,066.63 ล้านบาท
นับจากนี้ ความเคลื่อนไหวทางการเมือง จะทวีความร้อนแรงแค่ไหน โดยเฉพาะแรงกดดันจากพลังนอกสภาคาดว่า นักลงทุนในตลาดหุ้นต้องตามอย่างใกล้ชิด เพราะเชื่อว่าเครือข่ายประชาธิปไตย คงออกมาเคลื่อนไหวขณะที่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ จะมีการชุมนุมทางการเมือง และอาจกล่าวได้ว่า ปัจจัยการเมืองคงจะปกคลุมตลาดหุ้นอีกครั้งหนึ่ง

**ก้องเกียรติ ปักธงถ้ายุบสภาหุ้นพุ่งแน่พร้อมคงเป้าหมายปีนี้SET800จุด
นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยว่า การยุบสภาไม่ใช่ประเด็นที่น่ากังวลหากทุกอย่างเป็นไปตามกลไก ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีสิทธิที่จะยุบสภาหากเห็นว่าเป็นทางเลือกใหม่ซึ่งก็เป็นทางออกที่มีความเป็นไปได้ และหากรัฐบาลยุบสภาจริงเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจโดยรวมมากนัก เพราะนโยบายการลงทุนของบริษัทจดทะเบียนและภาคเอกชน ไม่มีการเปลี่ยนแปลง และจีดีพีของประเทศคงไม่ได้รับผลกระทบมาก แต่ภาคเอกชนที่มีส่วนได้เสียจากโครงการเมกะโปรเจ็กอาจจะได้รับผลกระทบจากการยุบสภาบ้าง
หากการเมืองสุกงอมก็คงมีการยุบสภา หากมีการยุบสภาจริง หุ้นก็คงจะขึ้น นายก้องเกียรติกล่าว
นายก้องเกียรติกล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์ของบริษัทฯยังคงเป้าหมายดัชนีฯปีนี้ไว้ที่ 800 จุดเนื่องจากมองว่าพื้นฐานเศรษฐกิจโดยรวมยังคงมีความแข็งแกร่ง แต่ในระยะสั้นอาจจะได้รับผลกระทบจากภาวะการเมืองที่มีความไม่แน่นอนแต่เมื่อนักลงทุนเริ่มชินกับภาวะการเมือง บรรยากาศการลงทุนน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และจากการได้พบปะกับโบรกเกอร์ต่างประเทศส่วนใหญ่ยังมองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยดี และมีแนวโน้มว่าเงินจากสหรัฐฯ ยังไหลเข้ามาภูมิภาคเอเซียอย่างต่อเนื่องเพราะมองว่าแนวโน้มอุตสาหกรรมของภูมิภาคเอเซียยังสดใส

**สมาคมฯรายย่อยเชื่อการเมืองส่งผลเชิงลบต่อตลาดฯ
นายวิชัย พูลวรลักษณ์ นายกสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมือง ยังเป็นปัจจัยลบที่ส่งผลต่อตลาดทุนไทย ซึ่งโดยส่วนตัวเห็นว่าสถานการณ์การเมืองดังกล่าวควรมีความชัดเจนภายในเดือนก.พ. นี้โดยเบื้องต้นหากยังไม่มีความชัดเจนถึง 100% เต็ม แต่หากมีความชัดเจน 60-70% ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจและส่งผลต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น ทั้งนี้ที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับวินิจฉัยคดีซุกหุ้น SHIN ภาค 2 ถือว่าทำให้ตลาดทุนไทยมีความชัดเจนมากขึ้น โดยในส่วนของระบบตรวจสอบก็ถือว่าดำเนินการตามหน้าที่
สถานการณ์ทางการเมืองทำให้นักลงทุนเกิดความหวั่นไหวอย่างเช่น โครงการเมกะโปรเจ็ก ก็ได้รับผลกระทบและเกิดคำถามในใจเกิดขึ้น ซึ่งต้องกลับมาทบทวนกันใหม่ โดยหากสิ้นก.พ.นี้มีความชัดเจนก็จะเอื้อต่อการลงทุนนายวิชัยกล่าว
นายวิชัยกล่าวถึง ภาวะตลาดหุ้นว่าอยากให้ความไม่ชัดเจนที่เกิดขึ้นทางการเมืองหมดสิ้นภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ โดยหากไม่สามารถทำให้หายไปได้ 100% อยากให้ลดลง 60-70% ขึ้นไปเพราะความไม่ชัดเจนดังกล่าวจะกระทบการลงทุนของนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติซึ่งอาจจะส่งผลต่อการลงทุนในเมกะโปรเจ็กที่มีผลต่อการขยายตัวต่อเศรษฐกิจของประเทศ
นายวิชัยกล่าวถึง การซื้อขายหุ้น SHIN ของครอบครัวนายกรัฐมนตรีว่าในหลักการยังมีความคลุมเครือและรัฐบาลจะมีการประชาสัมพันธ์ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาน้อยเกินไปจนกระทั่งเมื่อวานนี้ที่มีโฆษกรัฐบาลไปชี้แจงผ่านช่อง 11 แต่ก็ยังถือว่าไม่เพียงพอเพราะประชาชน 60 ล้านคน สนใจกับข่าวดังกล่าว เนื่องจากเป็นการท้าทายคุณสมบัติของผู้นำประเทศ

**GBX-สินเอเซีย มองการเมืองกดดันหุ้น
นายณัฐวุฒิ เขมะโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน)(GBX)เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่า เชื่อว่า ทิศทางตลาดหุ้นน่าจะมีลักษณะไซด์เวย์ ดาวน์ เนื่องจากปัจจัยการเมืองยังคงมีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นและการชุมนุมวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ประชาชน อาจจะมีมากขึ้น เพราะประชาชนไม่ได้ถูกบรรเทาทางด้านความรู้สึก หลังจากศาลรัฐธรรมนูญลงมติไม่รับวินิจฉัยคำร้องของ 28 สว.ที่เสนอขอให้ถอดถอนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
หลังมีข่าวศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับวินิจฉัยฯ นักลงทุนได้ไล่ซื้อหุ้น โดยเฉพาะหุ้นมาร์เก็ตแคปปรับตัวขึ้นแรง เช่น TPIนายณัฐวุฒิกล่าว
นายสมบัติ นราวุฒิชัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บล.สินเอเซีย จำกัดกล่าวกับeFinanceThai.com ว่า ขณะนี้นักลงทุนควรติดตามข่าวสารด้านการเมืองอย่างใกล้ชิด ซึ่งนับจากนี้ 2 สัปดาห์ ประเด็นการเมืองจะเป็นตัวแปรสำคัญ โดยวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ จะมีการชุมนุมของประชาชน ดังนั้นนักลงทุน อาจต้องการลงทุนควรพิถีพิถันมากขึ้นและหาจังหวะซื้อหุ้นเข้าพอร์ต เมื่อราคาปรับตัวลงต่อเนื่อง
เรามองว่า ความตรึงเครียดทางการเมือง ยังมีอยู่แต่บริษัทฯยังคงไม่ปรับเป้าดัชนีตลาดฯสิ้นปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 769 จุดนายสมบัติกล่าว

**กัมปนาท แนะลงทุนหุ้นปันผลปลอดภัยสุด เหตุไม่หวั่นไหวกับการเมือง
นายกัมปนาท โลหเจริญวณิช นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า ในช่วงที่สภาวะตลาดยังคงมีหลายปัจจัยเข้ามากระทบ แนะนำนักลงทุนเลือกลงทุนในหุ้นที่มีการจ่ายปันผล เพราะจะไม่หวั่นไหวกับสภาวะเศรษฐกิจรวมถึงการเมือง
อยากฝากให้นักลงทุนติดตามภาวะตลาดอย่างใกล้ชิด เนื่องจากตลาดยังคงหวั่นไหวง่ายซึ่งนักวิเคราะห์ต่างพูดว่าประเด็นการเมืองเป็นปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงง่ายมีทั้งบวกและลบ และคาดเดายาก นายกัมปนาท กล่าว
อย่างไรก็ดี การที่ตลาดหุ้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาในช่วงก่อนปิดตลาดบ่ายหลังจากที่มีว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่รับวินิจฉัยคำร้องถอดถอนนายกฯของ 28 ส.ว. มองว่าเป็นเรื่องปกติ ซึ่งเมื่อปัจจัยต่าง ๆ มีความชัดเจนจะส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวดีขึ้น แต่หากมีปัจจัยที่ยังมีความคลุมเครืออยู่ก็จะทำให้สภาวะตลาดฯ คลุมเครือ

**โต้งชี้หุ้นไทยยังถูกแสนถูก
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)กล่าวว่า ปัจจุบันราคาหุ้นในตลาดหุ้นไทยยังต่ำกว่าพื้นฐานที่ควรจะเป็น เนื่องจากนักลงทุนกังวลประเด็นทางการเมือง แต่เมื่อเวลาผ่านไปสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย เชื่อว่าบรรยากาศการลงทุนน่าจะกลับสู่ภาวะปกติ ส่วนการที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของ 28 สว.ที่ยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรีนั้น ตลาดหุ้นก็ได้ตอบรับในเชิงบวก เพราะต้องยอมรับว่า นักลงทุนในและนอกประเทศให้ความสนใจเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงการเมืองด้วย
?นักลงทุนต่างประเทศให้ความสนใจประเด็นทางการเมือง หากทุกอย่างเป็นไปตามกลไกประชาธิปไตย และอยู่ในกรอบเค้าก็สบายใจ เพราะเป็นสัญญาณที่ดีว่าสังคมเปิดกว้างในการแสดงความคิดเห็น และต้องยอมรับว่าตอนนี้ราคาหุ้นต่ำกว่าพื้นฐานที่ควรจะเป็น เพราะนักลงทุนกังวลประเด็นทางการเมือง เพราะในช่วงที่ผ่านมาหุ้นแพงแค่ไหนคนก็ซื้อเพราะพื้นฐานเศรษฐกิจของเราไม่เปลี่ยนแปลง แต่เมื่อมีความรู้สึกกังวลเข้ามาส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุนตลาดหุ้นถึงตอบรับเมื่อสถานการณ์คลี่คลายบรรยากาศน่าจะกลับสู่ปกติ?นายกิตติรัตน์กล่าว
ส่วนกรณีการตรวจสอบการใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหุ้น บมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น (SHIN) นั้นนายกิตติรัตน์กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์อยู่ระหว่างซึ่งยังไม่แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถตรวจสอบให้เสร็จทันสัปดาห์หน้าเช่นเดียวกับทางสำนักงาน ก.ล.ต.หรือไม่
อย่างไรก็ตามทางคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้เร่งรัดให้เจ้าหน้าที่รีบตรวจสอบเพียงแต่กำชับให้เจ้าหน้าทำงานอย่างรอบคอบ ซึ่งภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเรียบร้อยก็จะนำข้อมูลทั้งหมดเสนอให้คณะอนุกรรมการซึ่งมีอยู่ 3 ทีม พิจารณาต่อไป
ตลาดหลักทรัพย์ทราบดีว่าประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจก็จะเร่งทำอย่างไม่ชักช้า แต่ไม่แน่ใจว่าจะเสร็จทันสัปดาห์หน้าหรือไม่ นายกิตติรัตน์ กล่าว
อย่างไรก็ดี ทาง บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น ได้มีหนังสือแจ้งมาทางตลาดฯ ว่ายูบีเอสเป็นใครมีบัญชีอยู่ที่ไหน ซึ่งเป็นการแจ้งมาเพื่อทราบ ทางตลาดจึงไม่ได้นำข้อมูลดังกล่าวเผยแพร่ให้ทราบเพราะไม่ใช่ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับบริษัทจดทะเบียน


ที่มา efinancethai.com[/color:fee9fd1ec7">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com