????
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238 |  วันที่: 14/02/2006 @ 07:04:32 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต สำนักงานประกันสังคมลุยเจรจาซื้อหุ้น 5 แบงก์ หวังใช้เป็นช่องทางออกผลิตภัณฑ์ตอบสนองผู้ใช้แรงงาน ยอมรับพับแผนตั้งแบงก์เอง หวั่นไม่มีศักยภาพบริหาร ขณะที่แบงก์ไทยทหารไทยมาแรงสุด[/color:6f6e91a803">
นายไพโรจน์ สุขสัมฤทธิ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคมหรือสปส.กล่าวยอมรับว่าขณะนี้กำลังเจรจากับธนาคารพาณิชย์ประมาณ 5 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบงก์รัฐ เพื่อขอความร่วมทุนอย่างต่ำไม่น้อยกว่า30% เนื่องจากสปส.ต้องการมีบทบาทเข้าไปเป็นผู้บริหาร และกำหนดนโยบาย เพื่อออกผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองผู้ใช้แรงงาน
ส่วนแนวคิดที่จะจัดตั้งธนาคารพาณิชย์เพื่อผู้ใช้แรงงานเองนั้นตอนนี้ได้ล้มเลิกความตั้งใจไปแล้ว เนื่องจากเสียงส่วนใหญ่ประเมินแล้วเห็นว่าอาจไม่คุ้มกับต้นทุนการดำเนินงาน นอกจากนี้สปส.ยังขาดบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องดังกล่าว
ความตั้งใจที่จะตั้งเองคงไม่ วิธีดีที่สุดคือการเข้าไปร่วมทุน และที่ผ่านมาได้เข้าไปเจรจาแล้วกับแบงก์เป้าหมายที่วางไว้ทั้ง 5 แห่งยอมรับว่าธนาคารไทยธนาคารถือเป็นหนึ่งใน5 แต่ขณะนี้ยังไม่มีใครยอมขายให้กับเราในสัดส่วนดังกล่าว ซึ่งเรายังไม่เลิกล้มความพยายามคงมีการเจรจาเรื่องนี้ต่อไปอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้คงได้ข้อสรุปนายไพโรจน์ กล่าว
นายไพโจน์ กล่าวยอมรับว่าขณะนี้ถือหุ้นแบงก์แต่ละแห่งในสัดส่วนที่ค่อนข้างน้อยเนื่องจากอดีตไม่เคยคิดจะลงทุนในธุรกิจนี้ เน้นสัดส่วนการลงทุนในธุรกิจอื่นมากกว่า
แหล่งข่าวจากกองทุนประกันสังคมกล่าวว่า ประกันสังคมได้ตั้งคณะทำงานเพื่อดูแลและเจรจาเรื่องนี้โดยเฉพาะขึ้นมา 1 ชุด ซึ่งการเจรจาดำเนินไปอย่างต่อเนื่องเพื่อขอซื้อหุ้นแต่ขณะนี้ยังไม่มีใครยอมขาย เพราะส่วนใหญ่เห็นว่าสปส.ถือว่าเงินทุนมาก การปล่อยให้เข้ามาถือหุ้นอาจส่งผลให้เข้ามาฮุบกิจการทั้งหมดได้ในอนาคต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันมีธนาคารพาณิชย์รัฐ 4 แห่งได้แก่ แบงก์กรุงไทยแบงก์ทหารไทย แบงก์นครหลวงไทย และแบงก์ไทยธนาคาร ซึ่ง 2 แบงก์หลังนี้ผู้ถือหุ้นใหญ่ปัจจุบันได้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน โดยที่ผ่านมามีข่าวเกี่ยวกับการหาพันธมิตรเพื่อร่วมทุนเช่นกัน แต่ยังไม่มีความชัดเจน
ขณะที่ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือธปท.ในฐานะประธานกองทุนฟื้นฟู ยืนยันว่าจะยังไม่ขายหุ้นแบงก์นครหลวงไทยที่กองทุนฟื้นฟูถือหุ้นอยู่ 47%และไทยธนาคารถืออยู่ 49% ในช่วงนี้เนื่องจากราคายังไม่เหมาะสม และหากจะขายจริงจะไม่ขายให้กับรายใหญ่ หรือนักลงทุนต่างประเทศ
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า สปส.ได้ควักเงินหมื่นล้านบาท เพื่อซื้อหุ้นจำนวน20%ในแบงก์ทหารไทย ซึ่งเป็นส่วนที่กระทรวงการคลังถืออยู่ และเสนอให้สปส.ส่งตัวแทนไปดำรงตำแหน่งกรรมการธนาคารด้วย แต่เรื่องดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจน เพราะดีบีเอสสิงคโปร์ถือเป็นอีกแห่งที่สนใจซื้อหุ้นแบงก์ทหารไทยเพิ่มเติมเช่นกันจากสัดส่วนปัจจุบันที่ถืออยู่ประมาณ 18%
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ดีมีธนาคารรัฐไม่ต่ำกว่า 3 แห่งที่สปส.มีส่วนเกี่ยวพันทั้งเรื่องของเงินฝากบัญชีเงินเดือนข้าราชการไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท ได้แก่ธนาคารกรุงไทย และบัญชีฝากที่เป็นเงินสมทบ ที่ฝากในธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.)และธนาคารการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)อีกจำนวนมหาศาล
ดังนั้นจึงถูกคาดการณ์ว่าการศึกษาและเจรจาร่วมกับแบงก์อื่น 3-4 แห่ง เพื่อตั้งแบงก์ใหม่สำหรับปล่อยสินเชื่อให้ผู้ใช้แรงงานนั้น น่าจะเป็นแบงก์ที่ สปส.มีความเกี่ยวข้องทางธุรกรรมการเงินอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบงก์ของรัฐบาลดังกล่าว
ปัจจุบันสปส.มีทรัพย์สินภายใต้การบริหารงานประมาณ 3.3 แสนล้านบาทมีผลตอบแทนการลงทุนไม่ต่ำกว่า 15-18% โดยลงทุนผ่านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน 4 แห่งได้แก่ บลจ.กสิกรไทย บลจ.เอ็มเอฟซี บลจ.ทิสโก้ และบลจ.วรรณ
โดยมีสัดส่วนการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลประมาณ 42% พันธบัตรรัฐวิสาหกิจที่คลังค้ำประกัน 19% เงินฝากธนาคารพาณิชย์ 16% หุ้นกู้เอกชน 10% หุ้นสามัญ 7% พันธบัตรรัฐบาลที่คลังไม่ค้ำประกัน 5% และอีก 1% ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม
ที่มา ข่าวหุ้น[/color:6f6e91a803">
|
