???? สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 1,238 | วันที่: 03/11/2005 @ 08:43:57 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต เบียร์ช้างเข้าตลาดไม่ทันปีนี้ หลังกลต.ยังไม่มีข้อสรุปเกษมสันต์ชี้จุดยืนเข้าตลาดหวังบุกตลาดต่างประเทศ
ไม่คิดมอมเมาคนไทย พร้อมเตรียมรุกทำฐานการผลิตในเอเชียและยุโรป[/color:6459faa1e9">
มล.ชโยทิต กฤษดากร กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด
ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
ขณะนี้กระบวนการเข้าจดทะเบียนของบริษัทไทยเบฟเวอร์เรจ อยู่ระหว่างการพิจารณา
ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)
ทั้งการพิจารณาแบบแสดงข้อมูลเพื่อเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป(ไฟลิ่ง)
และการพิจารณาของคณะกรรมการก.ล.ต.ในการรับหรือไม่รับธุรกิจแอลกอฮอลล์เข้าจดทะเบียน
ดังนั้นจึงยังไม่สามารถระบุได้ว่า บริษัทไทยเบฟเวอร์เรจฯ จะสามารถเข้าจดทะเบียนได้เมื่อไหร่
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะจดทะเบียนในปีนี้หรือปีหน้าก็จะไม่ส่งผลต่อตัวบริษัทแต่อย่างใด
โดยประเด็นสำคัญอยู่ที่การยุติข้อขัดแย้งระหว่างกลุ่มสบับสนุนและกลุ่มผู้คัดค้านมากกว่า
นายเกษมสันต์ วีระกุล ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจจำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
บริษัทอาจเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯไม่ทันในปีนี้
ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ยื่นแบบแสดงข้อมูลเพื่อเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป (ไฟลิ่ง) ไปในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา
โดยปกติแล้วไฟลิ่งจะมีผล 45 วัน แต่ปัจจุบันยังไม่ทราบว่าผลจะออกมาอย่างไร
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังยืนยันที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯเพื่อมุ่งเน้นการขยายตลาดในต่างประเทศ
และเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ทั้งนี้บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนขยายตลาดต่างประเทศ
โดยการสร้างฐานการผลิตเครื่องดื่มประเภทต่างๆเพิ่ม และให้ใกล้กับประเทศที่ต้องการจำหน่าย อาทิ ในแถบยุโรป และเอเชีย
ขณะนี้บริษัทยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเป็นที่ประเทศใดบ้างและต้องใช้เงินลงทุนเท่าไร
สาเหตุที่บริษัทต้องลงทุนสร้างฐานการผลิต เนื่องจากจะช่วยรักษารสชาติของเครื่องดื่มให้อยู่ในระดับมาตรฐาน
เพราะเครื่องดื่มบางชนิดหากอายุเกินเวลาที่กำหนด
จะมีปัญหาในเรื่องของรสชาติและทำให้เกิดปัญหาด้านการตลาดตามมาในภายหลังเพราะสินค้าไม่มีคุณภาพ
ทั้งนี้บริษัทหวังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
มิได้ต้องการมุ่งเน้นนำเงินที่ได้จากการระดมทุนมาส่งเสริมด้านการโฆษณาการขายหรือเพื่อมอมเมาประชาชนในประเทศ
แต่บริษัทต้องการได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ ซึ่งบริษัทเป็นเพียงองค์กรเล็กๆ เท่านั้นเมื่อเทียบกับตลาดในต่างประเทศ
เนื่องจากมูลค่าบริษัทเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลายๆ แห่งในต่างประเทศมีกำไรมูลค่ามหาศาลหรือกว่าแสนล้านบาท
เมื่อเทียบกับบริษัทแล้วมีกำไรเพียงหมื่นกว่าล้านบาทนอกจากนั้นหากบริษัทได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
จะทำให้ความสามารถในการเจรจาทางธุรกิจในต่างประเทศสะดวกยิ่งขึ้น
เนื่องจากต่างประเทศจะให้ความเชื่อมั่นระดับหนึ่ง
เพราะบริษัทได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯและมีการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชน
|