ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 26 ต.ค.63 ปิดที่ 1,207.87 จุด ลดลง 5.64 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 41,590.72 ล้านบาท

ตลาดหุ้นไทยยังกังวลกับสถานการณ์การเมืองในประเทศที่ส่งผลซ้ำเติมการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ ยุโรปถูกกดดันจากการระบาดโควิด-19 ที่ต้องกลับมาล็อกดาวน์อีกครั้ง รวมทั้งนักลงทุนยังติดตามการเลือกตั้งสหรัฐฯที่มีผลต่อทิศทางการลงทุนทั่วโลก

บล.หยวนต้าระบุว่าตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง จากความกังวลในการกลับมาระบาดของ COVID-19 และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐฯที่ยังไม่ได้ข้อสรุป

ส่วนปัจจัยการเมืองในประเทศ การอภิปรายในสภาฯมีการนำเสนอความเห็นของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่เป็นไปอย่างเรียบร้อย แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์การชุมนุมนอกสภา

แนะนำลงทุนหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการ 3Q63 แข็งแกร่งจะเคลื่อนไหวได้ดีกว่าตลาดเช่น CPF, TU, TFG, OSP, INSET, AJ, PORT, DOHOME!!

ด้าน บล.เอเซียพลัส ชี้ปัจจัยต่างประเทศ 2 ประเด็นสำคัญที่ตลาดให้น้ำหนัก คือโควิด-19 ที่ยังรุนแรง ทั้งในยุโรปและอเมริกา ทำให้หลายประเทศในยุโรปกลับมาล็อกดาวน์เข้มงวดอีกครั้ง เป็น Sentiment เชิงบวกต่อหุ้น STGT, STA

ขณะที่ตัวเลขการส่งออกเดือน ก.ย.ของไทย หดตัวน้อยลง หนุนเฉลี่ย 9 เดือน-7.3% แรงหนุนสำคัญในเดือนนี้คือ สินค้าเกษตร เช่น ผักผลไม้ 50.3%, เครื่องปรุงรส 17.7% สินค้าอุตสาหกรรม เช่น ถุงมือยาง +154%, ผลิตภัณฑ์ยาง 21%

ถือเป็น Sentiment เชิงบวกต่อ STA, NER และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ 11.6%, เครื่องใช้ไฟฟ้า 8.3% เป็น Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ คือ DELTA, HANA, KCE และ SVI

กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้แนะนำ ถือเงินสด 25% เพื่อลดความเสี่ยงและรอจังหวะการลงทุนในระยะถัดไป ส่วนอีก 75% แนะนำลงทุนในหุ้น Global Play (STA, TU, PTTGC) หุ้น Dividend Play (TISCO, DCC) ส่วนหุ้น Toppick แนะนำหุ้นที่ต่างชาติทยอยสะสม STA, TU และ TISCO!!

อินเด็กซ์ 51