*ก่อนอื่นต้องบอกให้มิตรรักแฟนเพลงทราบก่อนว่า การเด้งกลับของดัชนีทั่วโลกวานนี้เหมือนกับเรื่องที่ “โมนิก้า” ได้เคยแสดงความคิดเห็นก่อนหน้านี้ไหม ? ขณะเดียวกันก็อยากให้นักเล่นใช้วิจารณญาณตัดสินเรื่องดังกล่าวด้วยตัวเอง เพราะเดี๊ยนไม่มีสิทธิไปบีบบังคับให้ทุกคนเชื่อตามสิ่งที่ขีด ๆ เขียน ๆ จึงอยากให้ทุกคนมองประเด็นฮอตฮิตที่เกิดขึ้นอย่างรอบด้าน เพื่อช่วยประเมินทิศทางของตลาดหุ้นไทยจะไปได้ไกลแค่ไหนนะตัวเอง

*โดยเฉพาะเรื่องเกมการเงินที่ประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกากำลังงัดออกมาเล่นกับอารมณ์ของนักลงทุนทั่วโลก “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นการโปรยยาหอมเพื่อทำให้ทุกคนคล้อยตามสิ่งที่พยายามชักจูง เพราะเมื่อไล่ไทม์ไลน์ย้อนกลับไปดูจะเห็นว่ารูปแบบการอัดฉีดเงินผ่านตลาดพันธบัตรเป็นที่รับรู้มาพักหนึ่งแล้ว จู่ ๆ นำประเด็นนี้ขึ้นมาเป็นตัวขับเคลื่อนดัชนีดาวโจนส์เสียอย่างนั้น..มันใช่เหรอจ๊ะ

*เรื่องดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องทำตัวดัดจริตเพื่อคล้อยตามกระแสต่อไปอีกวัน (พูดขวางมาก ๆ เดี๋ยวจะโดน teen) เพราะอารมณ์ของผู้คนเปลี่ยนจากหวาดกลัวกลายเป็นรู้สึกฮึกเหิมเพียงชั่วข้ามคืน พร้อมกับมองภาพต่าง ๆ ในโทนบวกเสมือนโลกทั้งใบมีแต่สีเขียว (ไม่ใช่สายเขียว ที่ชอบแบบตื๊ด ๆ นะเธอ) พร้อมกับหลงลืมไปว่าอเมริกาจัดการกับปัญหาไวรัสมรณะได้ห่วยบรมขั้นเทพนั้น เดี๊ยนเม้าท์ได้ทันทีว่ามีความงง และงงมากขึ้น ในเรื่องของความงง..555

*ด้วยเหตุนี้เลยขอมองข้ามเหตุผลที่ทำให้ดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,367.13 จุด บวกไป 25.14 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.84 หมื่นล้านบาท เพราะเอาเข้าจริงก็เป็นเรื่องของความเชื่อนำหน้ามาก่อน ต่อจากนั้นค่อยมาดูพื้นฐานขึ้นมาทันขนาดไหน ? ซึ่งเป็นช็อตที่เปิดโอกาสให้ขาลุยเข้ามาเล่นรอบกันอย่างสนุกสนาน “โมนิก้า” ถึงไม่อยากเม้าท์อะไรที่เป็นวิชาการมากนัก เดี๋ยวแฟนคลับจะประณามว่าบ้าผู้ชาย..อุ๊ย..บ้าหลักการ อิอิอิ

*ประเด็นข้างต้นเหมือนกับการเด้งขึ้นของ PTTGC ท่ามกลางความหวังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะไม่ดิ่งหนักเหมือนก่อนหน้านี้ แรงซื้อเก็งกำไรถึงไหลกลับเข้ามาอีกรอบ พร้อมกับดันราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ 45.50 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 5.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.36 พันล้านบาท ก็ยังเป็นช็อตของการเล่นรอบเหมือนเดิมทุกประการ เพราะไม่มีใครรู้ว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะฟื้นไหมน่ะซี

*ขนาดหุ้นร้านสะดวกซื้อที่ว่าแน่อย่าง CPALL ยังไร้เรี่ยวแรงที่จะดีดกลับอย่างแข็งแกร่ง “โมนิก้า” ย่อมรู้สึกไม่สบายใจอย่างแรงที่เห็นราคาหุ้นอ้อยอิ่งกว่าจะขึ้นมาได้แต่ละช่อง แถมในระหว่างวันที่ดัชนีขึ้นแรงแบบไม่มีลิมิต หุ้นตัวนี้กลับทำได้แค่เพียงประคองตัวให้ยืนในแดนบวก ก่อนจะปิดเกมด้วยการยืนที่ 69.75 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 0.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 993 ล้านบาท มันเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องคิดว่า เกิดอิหยังขึ้นเจ้าค่ะ

*ส่วนรายที่ทำท่าหมดรอบ และต้องเซ็ตเกมอีกครั้งอย่าง TKN กลายเป็นช็อตที่นักลงทุนต้องไหวตัวให้ทัน หลังแรงเทขายถล่มออกมาไม่ยั้ง จนราคาหุ้นทรุดลงมาปิดที่ 10.10 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 5.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 498 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่ต้องดูกันยาว ๆ เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ สวนทางกับความเป็นจริงมากเหลือเกิน ผสานกับค่า P/E 40 เท่าค้ำคออยู่แบบนี้..ไปต่อไหวเหรอคะ

*ขนาดหุ้นทีเด็ดอย่าง ACE มีผลงานงวดแรกเป็นแบ็กหนุนหลัง ยังสวนสภาวการณ์ลงทุนไม่ไหวเลย “โมนิก้า” ถึงกล้าเอ่ยปากเทใจให้กับหุ้นตัวนี้แบบไม่กระดากปาก เพราะอย่างน้อยการที่ราคาหุ้นยืนปิดในระดับ 4.12 บาท บวกไป 0.24 บาท หรือขึ้นไป 6.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 166 ล้านบาท ก็มีเรื่องกำไรเป็นตัวประคองราคาในกระดาน และเมื่อสบช่องได้โอกาสงาม ๆ น่าจะไปต่อสวย ๆ อีกครั้งนะจ๊ะ

*คล้ายกับกรณีของหุ้น ESSO กระชากขึ้นตามราคาน้ำมันโลกอย่างร้อนแรง ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 7.25 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 12.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 655 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่นักเล่นต้องเข้าใจเนื้อเรื่องที่เกิดขึ้นมาจากตัวแปรอะไรบ้าง ? และถ้ามองในมุมเดียวกันจะเห็นว่ายอดเดิมที่บริเวณราคา 8.15 บาท เป็นเป้าหมายท้าทายความสามารถของนักเล่นสุด ๆ เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับประเมินเรื่องที่เล่าให้ฟังในเที่ยวนี้จริงเท็จขนาดไหนพะย่ะค่ะ